ตามที่ปรากฏเป็นข่าวทางสื่อมวลชนถึงกรณีที่นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มีแนวคิดในการจัดหารถเมล์ไฟฟ้าจำนวน 400-500 คัน พร้อมกับควรกำหนดลักษณะรถที่มีชานสูงเพื่อให้เหมาะสมกับกายภาพถนนของกรุงเทพฯ ส่วนการให้บริการคนพิการนั้น จะต้องกำหนดเป็นตารางการเดินรถที่เป็นรถชานต่ำให้ชัดเจนเพื่อให้คนพิการเลือกใช้บริการได้ โดยจัดซื้อรถชานต่ำไว้จำนวนหนึ่ง ไม่ใช่ทั้งหมด 3,183 คัน
"ภาคีเครือข่ายรถเมล์เพื่อประชาชนทุกคนต้องขึ้น" ขอแถลงการณ์คัดค้านต่อแนวคิดดังกล่าวข้างต้น เนื่องจากเป็นการลิดรอนสิทธิของคนพิการตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิคนพิการ (Convention on the Rights of Persons with Disability, CRPD) และแสดงถึงความล้าหลังเชิงนโยบายอันจะส่งผลกระทบต่อการให้บริการแก่ประชาชนทุกกลุ่มด้วยความสะดวกปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ อีกทั้งกรุงเทพมหานครเป็นเมืองท่องเที่ยวสากลระดับโลกควรจัดระบบขนส่งมวลชนตามมาตรฐานสากล การนำรถเมล์ชานสูงมาใช้แสดงถึงความล้าหลังไร้จิตสำนึกสาธารณะ
"ภาคีเครือข่ายรถเมล์เพื่อประชาชนทุกคนต้องขึ้นได้" ศึกษาและติดตามนโยบายการจัดซื้อจัดหารถเมล์ใหม่มาตลอดระยะเวลาร่วม 10 ปี จนสามารถพิสูจน์และเป็นที่ยอมรับแล้วว่าสามารถเดินรถเมล์ชานต่ำในกรุงเทพฯและปริมณฑลได้ ส่วนการกำหนดตารางการเดินรถที่เป็นรถชานต่ำเพื่อให้คนพิการเลือกใช้บริการได้นั้น หากรถเมล์ที่จัดซื้อมาใหม่ยังเป็นสัดส่วนที่น้อยมากเทียบกับรถโดยสารทั้งระบบ จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะดำเนินการดังกล่าวได้
ดังนั้น "ภาคีเครือข่ายรถเมล์เพื่อประชาชนทุกคนต้องขึ้นได้" ขอให้ นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมช. คมนาคม ทบทวนแนวคิดดังกล่าวและยังคงจัดหารถเมล์ใหม่เป็นชานต่ำทั้งหมดไม่ว่าจะใช้พลังงานไฟฟ้าหรือเชื้อเพลิงชนิดใด และใคร่ขอเรียนไปยังกรรมการบริหารขสมก. โดยการนำของ พลตำรวจเอก เอก อังสนานนท์ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว. คมนาคม พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ยังคงนโยบายเดิมในการจัดซื้อรถเมล์ทุกคันเป็นแบบชานต่ำ ทั้งนี้ "ภาคีเครือข่ายรถเมล์เพื่อประชาชนทุกคนต้องขึ้นได้" จะต่อสู้เรื่องนี้อย่างถึงที่สุด
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit