ลีโอเนล เมสซี่ ผู้ครองรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของทวีปยุโรป หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ ฟีฟ่า บาลงดอร์ (Ballon d'Orซึ่งเป็นภาษาฝรั่งเศสแปลว่า "ลูกบอลทองคำ") ถึงสี่สมัย ให้ความเห็นว่า "ผมภูมิใจมากที่ทางอาดิดาสพบแนวทางที่จะทำให้เรามั่นใจได้ว่า รองเท้าทุกคู่ ซึ่งรวมถึงรองเท้าของผมด้วยนั้น จะถูกสร้างขึ้นด้วยวิธีการที่จะช่วยปกป้องสภาพแวดล้อมของเรา ผมว่า นี่คืออนาคตของฟุตบอลอย่างแท้จริง"
สปอร์ตอินฟินิตี้ เป็นโครงการวิจัยนำร่องโดยหัวเรือใหญ่อย่างอาดิดาสและได้รับเงินทุนสนับสนุนจากคณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) ที่จะรวมอัจฉริยภาพของเหล่าผู้เชี่ยวชาญในหลากแวดวงอุตสาหกรรมและสถาบัน โดยมีแนวคิดที่จะนำอุปกรณ์กีฬามาแตกย่อยเพื่อรวมกับวัสดุเหลือใช้จากอุตสาหกรรมอื่นๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งอุปกรณ์ชิ้นใหม่ ดังนั้น รองเท้าฟุตบอลในอนาคตอาจจะเกิดมาจากอะไรก็ได้ ตั้งแต่ธาตุคาร์บอนที่ใช้ในอุตสาหกรรมผลิตเครื่องบินไปจนถึงชิ้นส่วนไฟเบอร์ของรองเท้าซุป'ตาร์ที่ทำประตูคว้าชัยในการแข่งฟุตบอลโลก วัสดุใหม่ที่เรียกว่าซูเปอร์แมททีเรียลนี้ จะเป็นสิ่งที่ช่วยพลิกโฉมแฟนกีฬาทุกคนให้กลายมาเป็นนักออกแบบผลิตภัณฑ์ เพราะอยากจะออกแบบรองเท้าสักคู่ให้เป็นแบบใดก็ได้ ไม่มีขยะเหลือใช้ให้ต้องกังวล ไม่ว่าจะปรับรูปแบบให้ตามเทรนด์หรือเพื่อเติมเต็มความสามารถให้ใช้งานในสนามได้ตามต้องการ แฟนบอลในอนาคตก็สามารถทำได้ และไม่ต้องใส่รองเท้าซ้ำเดิม หรือซ้ำใครอีกต่อไป
เกิร์ด มานซ์ รองประธานฝ่ายนวัตกรรมเทคโนโลยีแห่งอาดิดาส กล่าวว่า "พัฒนาการครั้งนี้คือสิ่งที่จะพลิกโฉมหน้ากีฬาสำหรับเหล่าคอบอล โดยในช่วงสามปีนี้ สปอร์ตอินฟินิตี้มุ่งหวังที่จะปิดฉากการโยนรองเท้าเก่าทิ้ง เพราะว่าต่อไปนี้ รองเท้าทุกคู่ไม่เพียงแต่จะถูกนำมารีไซเคิลใหม่ได้เท่านั้น แต่มันยังสามารถได้รับการปรับรูปโฉมใหม่ให้ตรงใจผู้บริโภคมากที่สุดอีกด้วย"
อาดิดาสและคณะกรรมาธิการยุโรปเริ่มเปิดตัวโครงการนี้ในเดือนมิถุนายน 2558 ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในระดับแถวหน้าของวงการอีกเก้าสถาบัน ได้แก่ BASF SE; KISKA GmbH; FILL Gesellschaft m.b.H.; Friedrich-Alexander-Universität Erlangen-Nürnberg (FAU); OECHSLER AG; University of Leeds, Centre for Technical Textiles (CTT); Association CETI (Centre Europeen des Textiles Innovants); Hypercliq E.E.; SportsMethod Ltd.
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit