พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า กรณี ทหารและตำรวจสนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดชุมพร เข้าจับกุม ชาวโรฮีนจา สัญชาติเมียนมา จำนวน ๓ คน บริเวณป่าละเมาะภายในสวนปาล์มที่อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร ภายหลัง สืบทราบว่า ขบวนการค้ามนุษย์โรฮีนจา โดยมีนายหน้าคนไทยและชาวเมียนมา นำชาวโรฮีนจามาพักไว้ก่อนเตรียม ส่งขึ้นรถทัวร์ไปยังหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และเดินทางต่อไปยังประเทศมาเลเซีย ทั้งนี้ ต้องจ่ายค่านายหน้าคนละกว่า หมื่นบาท และขณะนี้ ตำรวจกำลังเร่งสอบสวนขยายผลต่อไป ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชุมพร (พมจ.ชุมพร) เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยเฉพาะร่วมกับทีมสหวิชาชีพคัดแยกชาวโรฮีนจาทั้งหมดทุกคนว่าเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์หรือไม่ เพื่อดำเนินการให้ความช่วยเหลือเยียวยาต่อไป
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณี ชาย อายุ ๒๗ ปี สติไม่สมประกอบ ถูกขังไว้เพียงลำพังมานานกว่า ๑๐ ปี ในเพิงคล้ายคอกที่ไม่มีทั้งไฟฟ้าและน้ำประปา ต้องใช้ชีวิตประจำวันทั้งกิน นอน และขับถ่ายอยู่ภายในเพิงตลอดทั้งวัน ทั้งคืน โดยขาดคนดูแล เนื่องจากผู้เป็นยายที่คอยดูแลได้ชีวิตไปแล้วกว่ากว่า ๒ ปี ที่จังหวัดพิษณุโลก ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลก (พมจ.พิษณุโลก) ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน และ ให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจของกระทรวงฯ โดยเฉพาะประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่อง การตรวจสุขภาพและรักษาพยาบาล พร้อมทั้งการปรับปรุงสภาพที่อยู่อาศัยให้มีความเหมาะสมและถูกสุขลักษณะ
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit