ด้วยพื้นที่กว่า 12,000 ไร่ ใน 6 ตำบลของอำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ประกอบไปด้วยสวนผลไม้ สมุนไพร และผืนป่าที่ถูกโอบล้อมด้วยแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งสามด้านจนคล้ายเกาะรูปทรงกระเพาะหมู "บางกระเจ้า" หรือ "คุ้ง (โค้ง) บางกระเจ้า" คือ พื้นที่สีเขียวใกล้กรุงที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งจนถูกขนานนามว่า "ปอดของคนเมือง"
อย่างไรก็ตามปัญหาของประชากรที่เพิ่มขึ้น และนักท่องเที่ยวที่เข้ามาอย่างต่อเนื่องในทุกปี ส่งผลให้พื้นที่ป่าหลายส่วนที่อยู่ในการดูแลของกรมป่าไม้และไม่ได้ถูกใช้ประโยชน์จนกลายเป็นที่รกร้าง เป็นที่ทิ้งขยะสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านทั้งด้านปัญหามลภาวะ ความเป็นอยู่ สิ่งแวดล้อม รวมไปถึงผลิตผลทางการเกษตร
ชาวบางกระเจ้าทั้ง 6 ตำบลจึงได้รวมตัวกันเพื่อตั้งกลุ่ม "รักษ์คุ้งบางกระเจ้า" เพื่อทำงานร่วมกับกรมป่าไม้เพื่อ เพื่อดูแลผืนป่าในบ้านของตน และสร้างเป็นเครือข่ายป่าชุมชนโดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออนุรักษ์และพัฒนาพื้นที่สีเขียวของพวกเขาสู่การใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน
เส้นทางท่องเที่ยวชุมชนที่ชาวบางกระเจ้าได้ร่วมกันออกแบบมีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เข้าถึงวิถีชีวิตชาวสวนที่ผูกพันกับธรรมชาติและความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าอย่างแท้จริง เป็นเส้นทางที่นักที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ยังไม่เคยได้สัมผัสและเป็นเส้นทางที่จะสะท้อนให้เห็นว่าความอยู่รอดของผืนป่าขึ้นอยู่ที่ความเข้มแข็งของชุมชน
วรางคณา รัตนรัตน์ ผู้ประสานงานแผนงานประเทศไทย ศูนย์วนศาสตร์ชุมชนเพื่อคนกับป่า – RECOFTC (รีคอฟ) กล่าวถึงวัตถุประสงค์หลักในการจัดลงพื้นที่ครั้งนี้ เพื่อระดมผู้เชี่ยวชาญ เข้าร่วมสำรวจเส้นทางท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่ชาวบ้านเป็นผู้ออกแบบ เพื่อศึกษาศักยภาพและความพร้อม ก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในต้นปีหน้า
"วัตถุประสงค์ของ RECOFTC (รีคอฟ) คือ การทำงานร่วมกับเครือข่ายเพื่อระดมผู้เชี่ยวชาญและให้ความรู้กับชุมชนในประเด็นคนกับป่า ทำให้สังคมตระหนักถึงบทบาทของชุมชนที่มีส่วนสำคัญในการดูแลปกป้องป่าไม้ พร้อมหาแนวทางสร้างสรรค์ เพื่อการจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืนและยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของคนในชุมชน
นอกจากการสำรวจเส้นทางท่องเที่ยววิถีชุมชนโดยชาวบ้านเป็นผู้จัดการแล้ว RECOFTC (รีคอฟ) เตรียมจัดเวทีเสวนาในเดือนพฤศจิกายน โดยตัวแทนของชุมชน และนักวิชาการจากหลากหลายสาขามาร่วมกันถกประเด็นความท้าทายและทางออกสำหรับวิถีชุมชนกับป่าไม้เพื่อการอยู่ร่วมกัน และการบริหารจัดการพื้นที่ป่าอย่างยั่งยืนต่อไป
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit