นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ภาวะฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ในหลายพื้นที่ ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมขังใน 4 จังหวัด ได้แก่ ระยอง นครนายก ปราจีนบุรี และอุบลราชธานี รวม 8 อำเภอ โดยระยอง ยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมขังในพื้นที่อำเภอเมืองระยอง รวม 2 ตำบล 8 หมู่บ้าน นครนายก น้ำจากแม่น้ำนครนายกล้นตลิ่งในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบ้านนา และอำเภอองครักษ์ 2 ตำบล 10 หมู่บ้าน บ้านเรือนได้รับผลกระทบประมาณ 120 หลังคาเรือน ปราจีนบุรี เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้น้ำในแม่น้ำปราจีนบุรีเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอกบินทร์บุรี อำเภอเมืองปราจีนบุรี อำเภอศรีมหาโพธิ และอำเภอบ้านสร้าง รวม 15 ตำบล 20 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 469 ครัวเรือนอุบลราชธานี น้ำในแม่น้ำมูลเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่อำเภอเมืองอุบลราชธานี สถานการณ์อุทกภัยในภาพรวมทั้ง 4 จังหวัด ปัจจุบันไม่มีฝนตก ระดับน้ำเริ่มลดลง คาดว่าหากไม่มีฝนตกเพิ่ม จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติใน 1 – 2 วัน ทั้งนี้ ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมสรรพกำลังเจ้าหน้าที่ พร้อมวัสดุอุปกรณ์ และเครื่องจักรกลสาธารณภัยออกปฏิบัติการแก้ไขปัญหาสถานการณ์และให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลัง พร้อมเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ อย่างไรก็ตาม จากการติดตามสภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาพบว่า บริเวณความกดอากาศสูงแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคใต้ตอนบน และภาคตะวันออก ทำให้ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่งในบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ปภ.จึงได้ประสานจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าวเตรียมการป้องกันและแก้ไขภาวะฝนตกหนักและปริมาณฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก รวมถึงได้กำชับศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตและสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัยจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัย ติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิดเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง จัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์และเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยบริเวณชายฝั่งทะเล ที่ลาดเชิงเขา ที่ราบต่ำริมน้ำไหลผ่าน พื้นที่เสี่ยงภัยของจังหวัด ให้เตรียมการป้องกันและระมัดระวังอันตรายจากภาวะฝนตกหนักและฝนตกสะสมในระยะนี้ไว้ด้วย สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด ท้ายนี้ ผู้ประสบภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
0-2243-0674 0-2243-2200 www.disaster.go.th
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit