จากความสนใจในเรื่องเวชกรรมความงามเป็นทุนเดิม รวมถึงติดตามข่าวสาร การลงทุน เศรษฐกิจ เรื่องราวที่น่าสนใจในแวดวงธุรกิจ ติดตามความเคลื่อนไหวในเหตุการณ์ปัจจุบัน จึงได้ทราบว่าธุรกิจที่กำลังมาแรง และมีมาร์เกตแชร์ในธุรกิจค่อนข้างสูง คือ ธุรกิจคลินิกความงาม มีมูลค่ารวมประมาณ 2-3 หมื่นล้านบาท และมีอัตราการเติบโตของผู้บริโภคอยู่ที่ 95% โดยมีคลินิกระดับแมสครองส่วนแบ่งตลาดไม่ต่ำกว่า 50% และยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อปีสูงถึงร้อยละ 15-20% ตามความต้องการของตลาดความงามที่เพิ่มมากขึ้นสวนทางกับเศรษฐกิจปัจจุบัน จึงคิดทำธุรกิจประเภทนี้ และได้เปิด "ออเธนทิค คลินิกเวชกรรม" ไซส์ผู้ประกอบการขนาดกลาง แต่ใช้กลยุทธ์บุกตลาดแบบ "ลองเทลมาร์เก็ตติ้ง" จับตลาดทุกกลุ่ม โดยเน้นช่องทางการตลาดแบบออนไลน์มาร์เก็ตติ้ง
จังหวะนั้น แนวโน้มการใช้โซเชียลมีเดียในเมืองไทยเพื่อการสื่อสารการตลาดในทุกธุรกิจมีมากขึ้น โดเฉพาะตลาดคลินิกเสริมความงาม ถือเป็นเครื่องมือสำคัญ นอกเหนือจากการตลาดแบบดั้งเดิม โซเชียลมีเดียจึงถูกนำมาใช้งานในรูปแบบการสื่อสารจากทางคลินิกกับผู้บริโภคหรือคนไข้ของคลินิกได้โดยตรง ซึ่งคนไข้ก็สามารถเข้าถึงและติดต่อสื่อสารกับเราได้สะดวกและรวดเร็ว จากอุปกรณ์การสื่อสารที่มีความก้าวหน้าในการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง โดยองค์กรเราสามารถเข้ามาแบ่งปันความรู้ ข้อมูล ข่าวสารการให้บริการดูแลรักษา โปรโมชั่นต่าง ๆ ให้แก่คนไข้ของคลินิกได้อย่างอิสระ และสามารถตั้งคำถามที่สงสัยเกี่ยวกับการรักษา การให้บริการต่าง ๆ โต้ตอบแสดงความคิดเห็นกันได้อย่างทันทีทันใด ทำให้การสื่อสารเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย แถมยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการโปรโมท หรือการประชาสัมพันธ์ในรูปแบบการใช้สื่ออื่นๆ การทำการตลาดบนสังคมออนไลน์ เป็นตัวช่วยผลักดันให้เว็บไซต์ของคลินิก ขยับขึ้นไปอยู่ในอันดับที่ดีขึ้นในการจัดอันดับของ Google (SEO) มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ทำให้คนไข้ที่ต้องการใช้บริการเสริมความงาม ค้นหาชื่อคลินิก หรือบริการต่าง ๆ ของคลินิกเจอได้อย่างง่ายดาย และรวดเร็วขึ้น ข้อดีของการทำการตลาดผ่านโซเชียลมีเดียอีกอย่างหนึ่งก็คือ สามารถเข้าถึงคนไข้ได้ตรงตามกลุ่มเป้าหมาย รวดเร็วทันใจ และบริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้ผู้ใช้บริการเกิดความพึงพอใจสูงสุด และบอกต่อในกลุ่มผู้ใช้บริการกันเอง
การทำตลาดผ่านสื่อสังออนไลน์ อย่างโซเซียลมีเดีย มีการโต้ตอบกับคนไข้ตลอดเวลา ทำให้เราได้รู้ถึงความต้องการ รวมถึงกระแสเรียกร้องของคนไข้ ที่ต้องการในส่วนของการขยายสาขาเพิ่มมากขึ้น เพื่อย่นระยะเวลาการเดินทาง จึงเป็นที่มาของการขยายสาขาตามจุดต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์แบบ "ลองเทลมาร์เก็ตติ้ง" จับตลาดทุกกลุ่ม ขยายเพิ่มจำนวนสาขา และแตกเซกเมนท์ไปสู่ช่องทางบริการความงามอื่นๆ เพื่อขยายฐานลูกค้าให้มีความหลากหลายเพิ่มมากขึ้น โดยหลังดำเนินธุรกิจ 2 ปี เราขยายไปแล้ว 7 สาขา ทั่วกรุงเทพ และ ปริมณฑล"ช่วงที่ผ่านมาเศรษฐกิจค่อนข้างซบเซา ทางคลินิกเป็นอย่างไร มีแผนรับมือกับสถานการณ์แบบนี้อย่างไร?
"ด้วยเศรษฐกิจของประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมาค่อนข้างซบเซาและมีผลกระทบต่อธุรกิจคลินิกหลายด้าน แต่ด้านหลักๆจะมีอยู่ 2 ด้าน ด้านแรก คือ กระทบต่อคนไข้ของคลินิก โดยในช่วงนี้คนไข้เริ่มหาข้อมูลกันเยอะขึ้น สอบถามก่อนรับบริการกันมากขึ้น เพราะระมัดระวังการใช้เงินจึงต้องการความมั่นใจก่อนรับบริการ ด้วยส่วนนี้ทางคลินิกจึงปรับแผน โดยพัฒนาทางด้านบุคคลากรไม่ว่าจะเป็นแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ สำหรับตอบคำถามคนไข้ในแฟนเพจให้มากขึ้น เพื่อให้สามารถตอบคำถามคนไข้ได้อย่างชัดเจน รวดเร็วและทั่วถึง ซึ่งเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้คนไข้เข้ามาสอบถามปัญหาเสมือนได้ปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญตัวต่อตัวทุกที่ ทุกเวลาที่มีปัญหา ส่วนผลกระทบอีกด้านหนึ่ง คือ ด้านการเดินทางของคนไข้ที่อยู่ไกลจากสาขาของเรา อย่างเช่น คนไข้ที่อยู่ฝั่งธนบุรี จะพบปัญหาใช้เวลาเดินทางนานและเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางสูงสำหรับการมารักษาที่สาขาลาดพร้าวหรือสุขุมวิท เพราะฉะนั้นคนไข้บางส่วนจึงตัดใจที่จะไม่เดินทางมารับบริการของเราแล้วไปรับบริการแบรนด์อื่นๆที่อยู่ในเขตพื้นที่ใกล้บ้านแทน ในส่วนนี้เราปรับแก้ไขด้วยการเปิดสาขาเพิ่มให้อยู่ใกล้เคียงกับฐานลูกค้าที่มีมากขึ้นอย่างเช่น สาขาใหม่ ซึ่งเป็นสาขาที่ 7 ของออเธนทิคคลินิก คือ สาขา BTS วงเวียนใหญ่ ซึ่งอยู่ใกล้กับสี่แยกตากสิน ถึงแม้ว่าบริเวณนั้นจะมีคลินิกแบรนด์อื่นจำนวนมากและมีการแข่งขันกันสูง แต่ก็มีคนไข้ของเราเป็นจำนวนมากเช่นกันที่ต้องการให้ไปเปิดสาขาที่นั่น เพราะพึงพอใจกับบริการ และราคาของแบรนด์เรา"ถ้าให้พิจารณาความสำเร็จ คิดว่าอะไรคือปัจจัยที่ทำให้องค์กรอยู่ได้ดีในไตรมาสที่ผ่านมา?
"น่าจะเป็นความต่อเนื่องของการดูแลลูคนไข้ โดยตลอดเวลา 2 ปีที่ผ่านมา คือปัจจัยแห่งความสำเร็จของเรา ออเธนทิคคลินิกได้ให้บริการคนไข้อย่างดีมาตลอด นั่นเพราะเราดูแลพนักงานทุกคนเหมือนคนในครอบครัว และพนักงานของเราทุกคนก็ดูแลคนไข้ของเราเหมือนกับคนในครอบครัวเช่นเดียวกัน นอกจากนั้นการจัดโปรโมชั่นก็ทำเพื่อให้คนไข้ทุกระดับสามารถเข้าถึงบริการของเราได้ โดยที่ผ่านมามีทั้ง โปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์ที่เกิดจากการที่เราปรับระบบการจัดซื้อ ระบบบริหารคงคลังให้ลดต้นทุนได้อย่างมาก จึงสามารถออกโปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์ที่คำนึงถึงความคุ้มค่าให้แก่คนไข้ได้ หรือปัจจุบันเราได้จัดโปรโมชั่นขอบคุณคนไข้ที่เข้ากดไลด์แฟนเพจของออเธนทิคคลินิก มากกว่า 600,000 ไลด์ ด้วยโปรโมชั่น 8 แถม 4 ทั้ง 5 บริการที่คนไข้ชื่นชอบ และนิยมเข้ามารับบริการ จัดให้คนไข้อย่างเต็มที่ หรือแม้กระทั่งช่วงที่ผ่านมาคนไข้ต้องการเข้ามารับบริการกับเรา แต่ด้วยเรายังมีสาขาที่ยังไม่รองรับลูกค้าทุกพื้นที่ เราก็ทยอยเปิดสาขาใหม่ให้รองรับฐานคนไข้ที่เพิ่มมากขึ้นและทำให้คนไข้สามารถเข้าหาเราได้ง่ายยิ่งขึ้น"ตลาดความงาม เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ในส่วนของ ออเธนทิคคลินิก จะพัฒนาอะไรต่อไปอีกบ้าง?
"ในอนาคต เรามุ่งเน้นพัฒนาบริการของเรา ให้ตอบสนองต่อผู้คนไข้ให้ดีที่สุด โดยที่ผ่านมาเราได้คัดสรรบริการ นวัตกรรมที่ปลอดภัยและผ่าน อย.มาให้แก่คนไข้ เช่น การรักษาสิว การปรับสภาพผิวหน้า ผิวกายให้ขาวใส การร้อยไหมปรับรูปหน้า การลดริ้วรอยด้วยโบท๊อกซ์ การเติมเต็มด้วยฟิลเลอร์ เลเซอร์ต่างๆ ซึ่งเราเน้นรักษามาตรฐานอย่างต่อเนื่อง เพราะมีการตรวจสอบอยู่เสมอเพื่อให้แน่ใจว่าบริการเหล่านั้นๆจะไม่มีปัญหากับคนไข้ นอกจากนั้นเรายังพัฒนาบุคคลากรทั้งแพทย์และพนักงาน ให้เป็นเหมือนที่ปรึกษาที่คนไข้สามารถสอบถามบริการ ปรึกษาปัญหา รวมถึงสามารถโทรเช็คคิวว่าง จองเวลาที่จะเข้ามารับบริการเพื่อความสะดวกของคนไข้อีกทางหนึ่งด้วย"
"ทั้งหมดนี้ที่ ออเธนทิคคลินิก เติบโตขึ้นมาได้เป็นเพราะการพัฒนาและปรับปรุงอย่างต่อเนื่องในการบริการคนไข้ของเรา และต้องขอบคุณคนไข้ทุกคนที่เชื่อใจ ไว้วางใจให้เราบริการคุณ ขอขอบคุณครับ" คุณพลัฏฐ์ พฤกษ์ปาริชาติ กล่าวปิดท้าย
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit