ดร.สมชาย หาญหิรัญ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นแหล่งเลี้ยงสัตว์ และผลิตหนังดิบที่มีคุณภาพ มีลวดลายและสีสันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์หนังสัตว์ ของไทย เป็นที่ต้องการในตลาดต่างประเทศ โดยสามารถทำรายได้เข้าประเทศปีละไม่ต่ำกว่า 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยในช่วงมกราคม-ตุลาคม 2558 มีมูลค่าส่งออกสินค้าในกลุ่มเครื่องหนังและรองเท้าได้กว่า 1,448.50 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยแบ่งเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องหนังกว่า 529.89 ล้านเหรียญสหรัฐ กระเป๋าหนัง 207.46 ล้านเหรียญสหรัฐ ผลิตภัณฑ์รองเท้าหนัง 568.39 ล้านเหรียญสหรัฐ และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่ทำจากหนัง 142.76 ล้านเหรียญสหรัฐ (ข้อมูล: สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม รวบรวมโดย สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ) อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรมเครื่องหนังเป็นสินค้าที่มีการพึ่งพิงตลาดต่างประเทศเป็นหลัก และมีการเปลี่ยนแปลงไปตามแนวโน้มเทรนด์ของแฟชั่น ดังนั้น "นวัตกรรม" ที่แปลกใหม่และการสร้างความแตกต่างให้ผลิตภัณฑ์เท่านั้นจึงจะตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้มากที่สุด ซึ่งอุตสาหกรรมเครื่องหนังและรองเท้า เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ กสอ. กำหนดให้เป็นอุตสาหกรรมดาวเด่นที่มีศักยภาพ โดยมีกิจกรรม/โครงการต่างๆ ที่ให้การส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs ในกลุ่มอุตสาหกรรมดังกล่าว อาทิ การพัฒนาการออกแบบผลิตภัณฑ์ การส่งเสริมนวัตกรรมอุตสาหกรรมเชิงสร้างสรรค์ และการรวมกลุ่มและเชื่อมโยงอุตสาหกรรม (Cluster) ฯลฯ รวมทั้งการเพิ่มเติมข้อมูลและความรู้ด้านต่างๆ ให้กับผู้ประกอบการ ทั้งการนำนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาประยุกต์ใช้ การบริหารจัดการธุรกิจ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขันและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เกิดมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น
ดร.สมชาย กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดงาน "แฟนพันธุ์แท้เครื่องหนังไทย" เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ส่งเสริม การพัฒนาช่องทางการตลาดของกลุ่มคลัสเตอร์ฯ ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 7 แล้ว โดยเป็นการเปิดพื้นที่ให้ผู้ประกอบการนำสินค้าที่มีคุณภาพมาตรฐาน มีตราสินค้าเป็นที่ยอมรับมาจัดแสดงและจัดจำหน่ายในราคาย่อมเยา นอกจากนี้ ยังมีการนำนวัตกรรมต่าง ๆ ของเครื่องหนังมาจัดแสดง อาทิ นวัตกรรมการผลิตเครื่องหนังกันน้ำ เพื่อป้องกัน การซึมของน้ำได้ดี และนวัตกรรมหนังน้ำหนักเบา เป็นต้น ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่สนใจสามารถมาร่วมรับชมนวัตกรรม เครื่องหนังสุดล้ำและร่วมช้อปสินค้าเครื่องหนังคุณภาพดีเป็นของขวัญปีใหม่กว่า 100 ผลิตภัณฑ์ โดยงานดังกล่าวจัดขึ้นภายใต้แนวคิด "นิวเยียร์ นิวไลฟ์สไตล์ (New Year New Lifestyle)" ตั้งแต่วันนี้ ถึง 25 ธันวาคม 2558 ตั้งแต่เวลา 08.30 – 16.30 น. ณ ห้องแสดงนิทรรศการ ชั้น 1 อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ถนนพระรามที่ 6 กรุงเทพฯ
ด้าน นายสมเกียรติ บงกชพรรณราย ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเชื่อมโยงเครื่องหนังไทย กล่าวว่า สำหรับการรวมกลุ่มคลัสเตอร์เครื่องหนังปัจจุบันมีผู้ประกอบการเข้าร่วมกว่า 32 ราย จากทุกประเภทเครื่องหนัง โดยสมาชิกในกลุ่มสามารถสร้างรายได้ให้ประเทศได้กว่า 700 ล้านบาทต่อปี ทั้งนี้ ได้ร่วมกันพัฒนานวัตกรรมการผลิต เพื่อเพิ่มมูลค่าให้ผลิตภัณฑ์เครื่องหนังมาโดยตลอด ภายใต้การสนับสนุนจาก กสอ. ทั้งในเรื่องของงบประมาณ และการจัดหาที่ปรึกษา และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเครื่องหนังจากทั้งไทยและต่างประเทศเข้ามาให้คำปรึกษา และชี้แนวทางแก่ผู้ประกอบการอย่างสม่ำเสมอ อีกทั้งยังเป็นหน่วยงานหลักในการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการได้ไปเปิดตลาดต่างประเทศ อาทิ จีน เมียนมาร์ ลาว และประเทศอื่นๆในอาเซียน อย่างไรก็ตามสำหรับการนำนวัตกรรมต่าง ๆ ของเครื่องหนังมาจัดแสดงครั้งนี้ มีไฮไลท์ที่นวัตกรรมการผลิตเครื่องหนังกันน้ำ ด้วยการใช้เทคโนโลยีการฟอกแบบพิเศษพร้อมเคลือบเคมีภัณฑ์ ป้องกันการซึมของน้ำได้ดีโดยมีทั้งแบบถาวรและชั่วคราว ช่วยให้เครื่องหนังไม่สกปรกง่าย และสามารถดูแลรักษาได้สะดวก นวัตกรรมหนังน้ำหนักเบาที่ใช้เทคโนโลยีการฟอกหนังช่วยให้กระเป๋า มีน้ำหนักน้อยลงแต่ปริมาณพื้นที่เท่าเดิม ซึ่งช่วยลดความเมื่อยล้าจากการถือหรือสะพายได้ ซึ่งคาดว่าการพัฒนานวัตกรรมการผลิตจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์เครื่องหนังได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 25
สำหรับผู้ที่สนใจสินค้าเครื่องหนังฝีมือผู้ประกอบการไทย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ถนนพระรามที่ 6 กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 0 2202 4414-17 หรือเข้าไปที่ www.dip.go.th หรือ www.facebook.com/dip.pr