รถยนต์ปอร์เช่รุ่น 718 คือผู้สานต่อความสำเร็จที่ผ่านการพิสูจน์มาแล้วถึงสมรรถนะเครื่องยนต์และประวัติศาสตร์ของยนตกรรมสปอร์ตจากปอร์เช่ ตัวอย่างล่าสุดคือการคว้าชัยชนะอันดับ 1 และอันดับ 2 ในรายการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบอันแสนทรหด Le Mans 24 ชั่วโมง พร้อมตำแหน่งชนะเลิศประเภทโรงงานผู้ผลิตและประเภทนักแข่งจากรายการ World Endurance Championship (WEC) ด้วยรถแข่ง 919 ไฮบริด (919 Hybrid LMP1) ที่ติดตั้งเครื่องยนต์ 4 สูบพร้อมระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จประสิทธิภาพสูง มีขนาดความจุกระบอกสูบเพียง 2.0 ลิตรเท่านั้น ความสำเร็จดังกล่าวนับเป็นการเปิดโฉมหน้าใหม่ให้กับเครื่องยนต์แห่งอนาคตของรถสปอร์ตจากปอร์เช่เกียรติประวัติของปอร์เช่ 718: ชัยชนะของรถแข่งเครื่องยนต์ 4 สูบเรียงนอน
ปอร์เช่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนานในการพัฒนาเครื่องยนต์ 4 สูบเรียงนอน ซึ่งรวมถึงความสำเร็จต่างๆ ที่ได้รับจากเครื่องยนต์ดังกล่าว ในช่วงปี 1950 รถยนต์ปอร์เช่ 718 คือผู้รับช่วงตำนานอันยิ่งใหญ่จากปอร์เช่ 550 สไปเดอร์ (550 Spyder) ตัวแทนของความเหนือระดับในเทคโนโลยีสูงสุดของเครื่องยนต์ 4 สูบเรียงนอน พิสูจน์ศักยภาพด้วยการแข่งขันรายการ Sebring 12 ชั่วโมง ในปี 1960 หรือในการแข่งขัน European Hill Climb Championship ระหว่างปี 1958 และปี 1961 รถยนต์ปอร์เช่ 718 สามารถต่อกรกับคู่แข่งได้อย่างหลากหลาย ด้วยพละกำลังและประสิทธิภาพจากเครื่องยนต์ 4 สูบเรียงนอนทำให้ปอร์เช่ 718 คว้าตำแหน่งอันดับ 1 ได้ถึง 3 ครั้งในระหว่างปี 1959 และ 1960 จากการเข้าร่วมแข่งขันในรายการประวัติศาสตร์ Italian Targa Florio ที่ Sicily รวมทั้งในรายการ Le Mans 24 ชั่วโมงเมื่อปี 1958 รถแข่ง 718 อาร์เอสเค (718 RSK) ที่ติดตั้งเครื่องยนต์ 4 สูบ 142 แรงม้าสามารถจบการแข่งขันด้วยคะแนนรวมเป็นอันดับ 1 ของคลาสปอร์เช่ 919 ไอบริด (919 Hybrid): เทคโนโลยีจากสนามแข่งสู่ท้องถนน
ปี 2014 เป็นปีที่ปอร์เช่หวนคืนสู่การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบรายการ Endurance อันโด่งดังนั่นคือ การแข่งขัน Le Mans และ WEC World Endurance Championship ด้วยรถแข่ง 919 ไฮบริด (919 Hybrid LMP1) ที่ได้รับการออกแบบและพัฒนาให้มีประสิทธิภาพสูงสุด จากที่สุดแห่งประสบการณ์และความชำนาญของปอร์เช่ในการสร้างรถแข่ง ก่อกำเนิดยานยนต์ที่เต็มเปี่ยมด้วยขีดสุดแห่งเทคโนโลยี ผสมผสานการทำงานอันเยี่ยมยอดของมอเตอร์ไฟฟ้ากับเครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบ อันเป็นตัวแทนของต้นแบบแห่งการสร้างสรรค์รถยนต์จากสายการผลิตปกติในอนาคต
ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยเท่านั้น ที่มีศูนย์บริการมาตรฐานและทีมวิศวกรที่มากประสบการณ์ ซึ่งได้รับการฝึกอบรมจากทางโรงงานปอร์เช่ประเทศเยอรมนีโดยตรงพร้อมการันตีด้วยรางวัล Porsche Service Excellence Award จากการตรวจสอบคุณภาพประจำปี รวมถึงทีมวิศวกรที่ได้รับการรับรองและผ่านการทดสอบจากโรงงานในระดับเหรียญทอง (Zertifizierter Porsche Techniker – Gold Expert) ซึ่งเป็นมาตรฐานสูงสุดของปอร์เช่คอยให้บริการรถปอร์เช่ของท่าน ตามนโยบายหลักของบริษัทที่ว่า "เอเอเอส ดูแลทั้งรถและคุณ" หรือ "AAS Looking after YOU and your CAR" เพื่อก้าวเข้าสู่คำว่า AAS The Name you can Trust ความไว้วางใจที่ให้คุณได้มากกว่า ตลอดระยะเวลาดำเนินการมา กว่า 30 ปี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์ปอร์เช่ได้ที่แผนกขาย โทร. 02-522-6655 ต่อ 101-103 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ www.porsche.co.th
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit