ศ.ศ.ป. เชิญร่วมสืบสานมรดกแห่งภูมิปัญญา สัมผัสผลงานหัตถศิลป์อันล้ำค่า พร้อมนับพันผลงานศิลปหัตถกรรมที่คัดสรรจากทั่วประเทศ ในงาน “อัตลักษณ์แห่งสยาม” ครั้งที่ 7
นางอัมพวัน พิชาลัย ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า งานอัตลักษณ์แห่งสยาม จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 7 แล้ว โดยเป็นที่น่ายินดีที่การจัดงานในทุกครั้งที่ผ่านมามีจำนวนผู้เข้าชมงานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ นอกจากนี้ผลตอบรับในการสนับสนุนซื้อผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทย ที่นำมาจัดจำหน่ายภายในงาน ก็ได้รับการตอบรับที่ดีเพิ่มขึ้น ซึ่งบรรลุตามวัตถุประสงค์หลักของการจัดงาน ที่ต้องการส่งเสริมให้ผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทย เป็นที่รู้จักและยอมรับในระดับสากล"สำหรับการจัดงานอัตลักษณ์แห่งสยาม ครั้งที่ 7 นี้ กำหนดจัดขึ้นภายใต้แนวคิด "มรดกศิลป์ มรดกชาติ" กับการรวมสุดยอดผลงานหัตถศิลป์ไว้มากที่สุด เพื่อให้คนไทยและนักท่องเที่ยวที่สนใจได้สัมผัสกับเอกลักษณ์ของความเป็นไทยผ่านผลงานอันวิจิตรบรรจงของครูช่างศิลป์ไทย และในครั้งนี้ ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่การแสดงผลงานหัตถศิลป์ชั้นสูงที่ทรงคุณค่า ใช้ภูมิปัญญาดั้งเดิม ผนวกเทคนิคชั้นยอดในการสร้างสรรค์ อันเป็นมรดกที่ล้ำค่าของชาติ ซึ่งนับวันจะหาชมได้ยาก รวบรวมนำมาให้ได้ชมกันในงานนี้ ซึ่งเชื่อว่าจะสร้างความภาคภูมิใจให้กับชาวไทยและประทับใจชาวต่างชาติอย่างแน่นอน" นางอัมพวัน กล่าว
ทั้งนี้ งาน "อัตลักษณ์แห่งสยาม" ครั้งที่ 7 ประกอบด้วย นิทรรศการ "ครูช่างชั้นสูง" โดยถือเป็นไฮไลท์สำคัญของการจัดงาน กับการจัดแสดงนิทรรศการแสดงผลงานหัตถศิลป์ชั้นสูงที่เป็นสุดยอดมรดกงานศิลป์และประเมินค่ามิได้ของครูช่างศิลป์ 6 ท่านจาก 6 สาขา พร้อมชมการสาธิต และถ่ายทอดประสบการณ์รวมถึงเทคนิคการผลิตผลงานของครูช่างแต่ละท่านอย่างใกล้ชิด ได้แก่ ครูเมตตา เสลานนท์ ครูช่างผู้เชี่ยวชาญเครื่องลงหิน, ครูจักรกริศษ์ สุขสวัสดิ์ ครูช่างผู้เชี่ยวชาญงานประดับมุก, ครูมณฑา กังวาลก้อง ครูช่างผู้เชี่ยวชาญงานจักสานย่านลิเภา, ครูอุทัย เจียรศิริ ครูช่างผู้เชี่ยวชาญงานคร่ำ, ครูวีระ มีเหมือน ครูช่างผู้เชี่ยวชาญการทำหนังใหญ่, ครูศศิธร มงคลเรืองฤทธิ์ ครูช่างผู้เชี่ยวชาญงานลงรักปิดทอง
นอกจากนี้ ยังประกอบด้วย นิทรรศการความเป็นมาของศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ เพื่อแนะนำบทบาทสำคัญในการส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย โดยนำเสนอในรูปแบบที่น่าสนใจ ทันสมัย เพื่อดึงดูดคนรุ่นใหม่ ให้หันมาสนใจในศิลปหัตถกรรมของไทย พร้อมชมนิทรรศการเครื่องเขิน 3 ชาติ ได้แก่ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ และประเทศไทย ภายใต้แนวคิด "Tree.3" ที่เปรียบเสมือนความสัมพันธ์ของทั้ง 3 ประเทศที่มีรากเหง้าเดียวกันแต่แตกกิ่งก้านสาขาออกดอกผลงดงาม มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผ่านผลงานเครื่องเขินจาก 3 ศิลปิน 3 ชาติ ที่สื่อเทคนิคงานหัตถกรรมเฉพาะตัวจากแต่ละประเทศได้อย่างน่าสนใจ
และพลาดไม่ได้ กับการออกร้านจำหน่ายสินค้าศิลปหัตถกรรมอันทรงคุณค่าจากครูช่าง และทายาทหัตถศิลป์จากเครือข่ายสมาชิกศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศกว่า 50 ร้าน ที่ผ่านการคัดเลือกมาแล้วว่าเป็นผลงานที่ได้รับการยกย่องให้เป็นฝีมือชั้นครู ไม่ว่าจะเป็นงานเครื่องทอง เครื่องเงิน ผ้าทอ ผ้าบาติก งานจักสาน หัวโขน เครื่องหนัง ของแต่งบ้าน งานแกะสลัก เครื่องแต่งกาย ฯลฯ ในราคาสุดพิเศษพร้อมสัมผัสความตระการตากับการแสดงบนเวทีที่สื่อถึงศิลปวัฒนธรรม ตลอดการจัดงาน ทั้ง 4 วัน โดยมีรูปแบบการแสดงที่หลากหลายเพื่อดึงดูดผู้ชมทุกเพศทุกวัย อาทิ การแสดงวัฒนธรรมไทย ชุดวิถีล้านนา พรรษาผ้าตีนจก การแสดงวัฒนธรรมไทยชุดผีตาโขน การแสดงวัฒนธรรมไทยชุดวิถีชาวบ้านจักสานไทย การแสดงวัฒนธรรมไทยชุดกลองบันเทิงเภรี รวมถึงศิลปินดารามากมายที่จะมาร่วมสร้างความบันเทิง ได้แก่ ป๊อป ปองกูล,ฉันทนา กิติยพันธ์, สุดา ชื่นบาน, เบสท์ – ทิฏฐินันท์ และ ไก่ อัญชุลีอร จากเวที The Voice Thailand Season 4, เศรษฐา ศิระฉายา
"อยากจะขอเชิญนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและต่างชาติ มาร่วมงาน"อัตลักษณ์แห่งสยาม" ครั้งที่ 7 ในระหว่างวันที่ 21 - 24 มกราคม ศกนี้ ท่านจะได้ชื่นชมความอลังการของผลงานหัตถศิลป์ชั้นสูงที่นำมาจัดแสดงอย่างเต็มที่ในครั้งนี้ พร้อมกับเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมสนับสนุนผลิตภัณฑ์ศิลปาชีพ เพื่อเป็นกำลังใจให้กับครูช่างศิลป์ชั้นสูงและช่างศิลป์ไทย ผู้สืบสานผลงานศิลปวัฒนธรรมไทยที่มีเอกลักษณ์ ให้มีแรงใจในการสร้างสรรค์ผลงานที่ประณีตและทรงคุณค่า คู่แผ่นดิน คู่คนไทยอย่างต่อเนื่องสืบไป" นางอัมพวัน กล่าวในตอนท้าย
งาน "อัตลักษณ์แห่งสยาม" ครั้งที่ 7 กำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 21 - 24 มกราคม 2559 ณ แฟชั่น ฮอลล์ ชั้น 1 และไลฟ์สไตล์ ฮอลล์ ชั้น 2 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ในเวลา 10.00 – 21.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายงานการตลาด ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) โทร 035 367 054 – 6 ต่อ 1374 หรือสายด่วน 1289 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.sacict.or.th
