บริษัท บีโอซี เอวิเอชั่น (BOC Aviation) บริษัทผู้ให้เช่าเครื่องบินระดับโลกซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในประเทศสิงคโปร์ และมีบริษัท แบงค์ ออฟ ไชน่า (Bank of China) เป็นเจ้าของ ได้ประกาศคำสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัสตระกูล เอ320 เพิ่มเติมอีกจำนวน 30 ลำ ประกอบด้วยเครื่องบินแอร์บัสตระกูล เอ320นีโอ จำนวน 18 ลำ และเครื่องบินแอร์บัสตระกูล เอ320ซีอีโอ จำนวน 12 ลำ
"คำสั่งซื้อในครั้งนี้ตอกย้ำให้เห็นถึงความเชื่อมั่นอย่างต่อเนื่องที่เรามีต่อความน่าเชื่อถือและประสิทธิภาพในการปฏิบัติการของเครื่องบินแอร์บัสตระกูล เอ320 และยังสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นที่นิยมของเครื่องบินรุ่นดังกล่าวในกลุ่มลูกค้าของเราที่ปฏิบัติการเที่ยวบินในเส้นทางพิสัยการบินระยะกลางและระยะสั้น" มร.โรเบิร์ต มาร์ติน กรรมการผู้จัดการและประธานบริหารบริษัท บีโอซี เอวิเอชั่น กล่าว
"บริษัท บีโอซี เอวิเอชั่น เป็นบริษัทผู้ให้เช่าเครื่องบินชั้นนำที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว และคำสั่งซื้อเครื่องบินล่าสุดของบริษัทไม่เพียงแค่แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นอย่างต่อเนื่องในผลิตภัณฑ์เครื่องบินของเราเพื่อให้บริการแก่ลูกค้าของบริษัท ได้แก่ สายการบินต่างๆ แต่ยังเป็นการยอมรับว่าตระกูลเครื่องบินแอร์บัส เอ320 เป็นทรัพย์สินทางด้านการเงินที่แข็งแกร่งของทางบริษัทอีกด้วย เรารู้สึกซาบซึ้งถึงความร่วมมืออันแข็งแกร่งซึ่งให้ผลประโยชน์ร่วมที่เรามีกับบริษัท บีโอซี เอวิเอชั่น ในช่วงเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา คำสั่งซื้อเครื่องบินในครั้งนี้ ทำให้บริษัท บีโอซี เอวิเอชั่น กลายเป็น 1 ใน 10 ลูกค้าอันดับต้นของแอร์บัส" มร.จอห์น ลีฮีห์ ประธานบริหารฝ่ายปฏิบัติการลูกค้าสัมพันธ์แอร์บัส กล่าว
เมื่อรวมข้อตกลงในการสั่งซื้อเครื่องบินครั้งล่าสุดนี้แล้ว ยอดการสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัสลำใหม่ของบริษัท บีโอซี เอวิเอชั่น ในปัจจุบันมียอดรวมถึง 306 ลำ ประกอบด้วยเครื่องบินแอร์บัส เอ330 จำนวน 12 ลำ และเครื่องบินแอร์บัสจากตระกูล เอ320 จำนวน 294 ลำ โดยเป็นเครื่องบินประเภทนีโอ (New Engine Option: NEO) จำนวน 64 ลำ
จากยอดการสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัสตระกูล เอ320 ที่มีจำนวนทั้งหมดกว่า 12,300 ลำ โดยได้ทำการส่งมอบไปแล้วกว่า 6,800 ลำให้กับลูกค้าและผู้ปฏิบัติการกว่า 400 รายทั่วโลก ทำให้ตระกูลเครื่องบิน เอ320 ของแอร์บัสเป็นตระกูลเครื่องบินทางเดินเดี่ยวที่ขายดีที่สุดในโลก ทั้งนี้ ตระกูลเครื่องบินแอร์บัส เอ320นีโอ ได้นำเทคโนโลยีล่าสุดต่างๆ มารวมกัน ได้แก่ เครื่องยนต์รุ่นใหม่และอุปกรณ์ปลายปีกชาร์คเลท (Sharklet) ซึ่งเมื่อทำงานร่วมกันแล้ว จะสามารถส่งมอบคุณสมบัติในการประหยัดเชื้อเพลิงได้มากกว่าอัตราร้อยละ 15 ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มปฏิบัติการ และจะเพิ่มเป็นอัตราร้อยละ 20 ภายในปี พ.ศ.2563 จากนวัตกรรมห้องโดยสารเพิ่มเติม ด้วยยอดคำสั่งซื้อกว่า 4,400 ลำจากลูกค้าราว 80 ราย นับตั้งแต่การเปิดตัวในปี พ.ศ.2553 ทำให้ตระกูลเครื่องบินแอร์บัส เอ320นีโอ มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ร้อยละ 60
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit