รศ.ดร.สุกรี เจริญสุข คณบดีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ ม.มหิดล และประธานจัดงานครั้งนี้ เผยถึง เทศกาลดนตรีแจ๊สนานาชาติ หรือ Thailand International Jazz Conference (TIJC) ครั้งใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ว่า มีการสร้างสรรค์กิจกรรมให้ผู้ชมได้สัมผัสกันแบบเข้มข้นยิ่งขึ้นทั้งในภาคการแสดง และ ภาคการศึกษา เนื่องจากการจัดงานในแต่ละครั้ง ได้รับการตอบรับ และความคาดหวังจากผู้ชมทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเพิ่มมากขึ้นทุกปี
"เทศกาลดนตรีแจ๊สนานาชาติ" ถือได้ว่าเป็นเวทีแจ๊สต้นแบบ ทั้งในเรื่องของคุณภาพของศิลปิน ระบบเสียง สภาพแวดล้อมของสถานที่การจัดงาน รวมถึงการจัดกาบริหารต่างๆ สิ่งเหล่านี้ทำให้มีผู้ชมให้ความสนใจงานนี้มากขึ้นจากสิบเป็นร้อยจากร้อยเป็นพัน ที่น่าดีใจคือ มีชาวต่างชาติเข้าร่วมงานของเรามากขึ้น และมีหลากหลายเชื้อชาติขึ้นทุกๆปี ปีนี้เวทีกิจกรรมการของเราเพิ่มจาก 3 เป็น 4 เวทีคือ เวทีสวนพฤกษาดุริยางค์, มหิดลสิทธาคาร, หอประชุม MACM และ เวทีลานวงรี
สำหรับการจัดงานในครั้งที่ 8 นี้ มีวงบิ๊กแบนด์เข้าร่วมมากเป็นประวัติการณ์กว่า 30 วง ในส่วนของวงต่างชาติก็มีคุณภาพมากขึ้นเรื่อยๆ ความพิเศษของปีนี้ ผู้จัดได้จัดกิจกรรมการแสดงระหว่าง TPO (Thailand Philharmonic Orchestra) กับนักดนตรีแจ๊สอย่าง Cherryl Hayes (Voice) Jens Lindemann (Trumpet) และ Jacob Dinesen (Saxophone) และอาจารย์ ธนิต ศรีกลิ่นดี" รศ.ดร.สุกรี กล่าว
ทางด้าน อาจารย์ดริน พันธุมโกมล หัวหน้าสาขาวิชาดนตรีแจ๊ส ซึ่งทำหน้าที่คัดเลือกศิลปินมาขึ้นเวที เผยว่าทุกๆ ปีที่ผ่านมาการคัดเลือกศิลปินจะให้ความสำคัญในเรื่องของคุณภาพทั้งด้านการแสดงดนตรี ประสบการณ์ การเป็นแรงบันดาลใจที่ดีต่อนักดนตรีรุ่นใหม่ๆ ในการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันต้องให้ความสำคัญในภาพรวมของงานที่ออกมา มีแนวดนตรีที่หลากหลาย ได้ทั้งศิลปะการดนตรีในเชิงลึก และความบันเทิงแก่ผู้ฟัง
"ในงานนี้นอกจากจะได้พบศิลปินแจ๊สระดับโลกมากมายแล้ว ยังมีไฮไลต์อีกอย่างที่ถือว่าพิเศษจริงๆ เพราะเป็นปีแรกที่เราจะนำวง Thailand Philharmonic Orchestra (TPO) มาบรรเลงดนตรีแจ๊ส สิ่งที่จะเกิดขึ้น คือการผสมผสานดนตรีที่มีลีลาในรูปแบบแจ๊ส เข้ากับความยิ่งใหญ่อลังการของ TPO โดยมี Soloist ชั้นยอดอย่าง Jens Lindemann (Trumpet) Cherryl Hayes (Vocal) Jakob Dineson (Saxophone) และอาจารย์ธนิต ศรีกลิ่นดี (ขลุ่ย) ซึ่งบทเพลงที่จะได้ฟัง จะมีตั้งแต่เพลงที่เป็น Original ของศิลปินเอง จนถึงบทเพลงสำหรับวงเออร์เคสตรา ในรูปแบบแจ๊ส ที่เป็นที่นิยมในอดีต เช่น เพลงจาก Charlie Parker และ Ella Fitzgerald เป็นต้น การแสดงดนตรีแจ๊ส ร่วมกับวงซิมโฟนี ออร์เคสตร้า ไม่ใช่สิ่งที่จะหาดูได้ง่ายนัก ไม่เฉพาะแค่ในประเทศไทย แต่อาจกล่าวได้ว่าเป็นของหาชมได้ยากในโลกใบนี้ก็ว่าได้ เนื่องจากการบรรเลงร่วมกับวงดนตรีขนาดใหญ่ มีความซับซ้อนทั้งในด้านดนตรี และการบริหารจัดการ
ส่วนแฟนเพลงที่รอสนุกกับศิลปินไทย ก็จะได้เห็นนักร้องคนโปรดกับเพลงในสไตล์แจ๊สที่สร้าง สรรค์เพื่องานนี้โดยเฉพาะ อย่าง เบน ชลาทิศ ศิลปินจอมเอนเตอร์เทนที่กระแสดีไม่มีตก รวมถึงวงดนตรีที่ประกอบด้วยคณาจารย์ด้านดนตรีแจ๊สที่มีชื่อเสียงจากมหาวิทยาลัยต่างๆ วงPomelo Town ฯลฯ" อ.ดริน กล่าวถึงส่วนผสมที่เป็นจุดเด่นของงาน
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบงานศิลปะ พลาดไม่ได้กับเสื้อที่ระลึก Jazz Aid ที่จำหน่ายภายในงาน ซึ่งออกแบบโดย ศิลปินชื่อดัง อาทิ สิงโต นำโชค, "แฟร์ " กันต์ดนย์ อะคาซาน และวง 25 hours ที่ตั้งใจนำเสนอแนวคิดของตนเองอย่างเต็มที่ เพื่อหารายได้ร่วมสนับสนุนนักศึกษาที่สนใจ ทำเวิร์คช็อปเรียนรู้ด้านดนตรีแจ๊สกับศิลปินระดับโลกภายในงานนี้ด้วย
ติดตามความเคลื่อนไหว เทศกาลดนตรีแจ๊สนานาชาติได้ที่ www.facebook.com/tijc.net สำหรับที่ผู้สนใจเข้าชมคอนเสิรต์ สามารถจองบัตรได้ที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ บัตรราคา 800 บาท (ต่อวัน/กิจกรรม) หรือ ติดต่อได้ที่วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ ม.มหิดล โทรศัพท์ 02–800-2525 ต่อ 153-154 ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit