ตำรวจท่องเที่ยวเตรียมความพร้อมในช่วงเทศกาลลอยกระทง พร้อมโปรโมท Tourist Police 1155 ผ่านโซเชียลมีเดียทุกช่องทาง

24 Nov 2015
กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว เตรียมความพร้อมรับมือในทุกมิติในช่วงเทศกาลลอยกระทง ปีนี้คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกหลั่งไหลเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวอีกเป็นจำนวนมาก เทศกาลลอยกระทงถือเป็นประเพณีอันงดงามของไทย หลายจังหวัดได้จัดงานประเพณีลอยกระทงเพื่อสืบสานประเพณีวัฒนธรรมความสวยงามแบบวิถีไทย ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติชื่นชมความงดงามนี้และปีนี้เทศกาลลอยกระทงตรงกับวันพุธที่ 25 พฤศจิกายน บริเวณริมแม่น้ำต่างๆ มักจะมีการจัดงานและลอยกระทงในหลายพื้นที่ ดังนั้นทางกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยวจึงมีการเตรียมความพร้อมและปล่อยแถวบูรณาการกำลัง อำนวยความสะดวกด้านการจราจรและรักษาความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่

ขณะเดียวกันในปีนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้สนับสนุนเทศกาลลอยกระทงใน 7 พื้นที่ ภายใต้ชื่อ "สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง" ซึ่งเฉลี่ยการจัดระหว่างวันที่ 21-26 พ.ย.พร้อมคาดการณ์ว่า ในช่วงเทศกาลลอยกระทงจะมีเงินสะพัดจากในพื้นที่การจัดงานและจากพื้นที่อื่นๆทั่วประเทศ รวมกว่า 3,750 ล้านบาท เติบโต 3% จากปีก่อน และมีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางในช่วงดังกล่าว กว่า 2 ล้านคน เป็นชาวไทย 1.93 ล้านคนและชาวต่างชาติกว่า 70,000 คน ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเดินทางไปท่องเที่ยวและร่วมกิจกรรมลอยกระทงบริเวณท่าเรือและจุดต่างๆ ตามลำน้ำเจ้าพระยาเป็นจำนวนมาก ทำให้อาจเกิดอาชญากรรมและก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญ เกิดอุบัติเหตุ ตลอดจนการเกิดอันตรายจากการเล่นดอกไม้เพลิง ฯลฯ

กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยวได้จัดทำแผนอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลลอยกระทง ประจำปี 2558 โดยได้จัดพิธีการปล่อยแถวข้าราชการตำรวจเพื่อระดมป้องกันอาชญากรรม บริเวณหน้าลานหอนาฬิกาย่านเจริญกรุง เอเชียทีคฯและตรวจความเรียบร้อยบริเวณท่าเรือต่างๆ ในแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเริ่มจากท่าเรือโครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ (Asiatique The Riverfront) ไปจนกระทั่งถึงท่าเรือโรงแรมแชงกรี-ล่า เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวและประชาชน ซึ่งจะมีการประชุมวางมาตรการการป้องกันเหตุที่จะเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลดังกล่าว ในวันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน ๒๕๕๘ และต่อด้วยพิธีปล่อยแถวข้าราชการตำรวจเพื่อระดมป้องกัน อาชญากรรม ในโครงการ "ลอยกระทง วิถีไทย ปลอดภัยกับตำรวจท่องเที่ยว" โดยมี ท่านกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ รองผบ.ตร เป็นประธานในพิธีปล่อยแถวเตรียมความพร้อม และพล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบก.ทท., พ.ต.อ.อาชย ไกรทอง รอง ผบก.ทท., พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ สายัณย์ประเสริฐ รอง ผบก.ทท., พ.ต.อ.จักรเพชร เพชรพลอยนิล ผกก.๑ บก.ทท., พ.ต.ท.สุรศักดิ์ สุรินทร์แก้ว รอง ผกก.๑ บก.ทท. และ พ.ต.ท.พินิจ ช่วยกุล รอง ผกก.๑ บก.ทท. นำกำลังตำรวจท่องเที่ยวประกอบด้วย พ.ต.ท.บวรภพ สุนทรเรขา สว.ส.ทท.๒ กก.๑ บก.ทท.และกำลังข้าราชการตำรวจ ออกปฏิบัติหน้าที่และทำพิธีระดมปล่อยแถวป้องกันอาชญากรรม ในช่วงเทศกาลลอยกระทง 2558 ซึ่งมีหน่วยงานต่างๆ ประกอบด้วย กรมเจ้าท่า, สำนักเทศกิจ กรุงเทพฯ, สำนักเขตบางคอแหลม, สมาคมเรือไทย, ผู้ประกอบการท่าเรือยอดพิมาน, สำนักทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์, กรมการท่องเที่ยว, มูลนิธิป่อเต็กตึ้ง, กองบังคับการตำรวจน้ำ, สถานีตำรวจนครบาลวัดพระยาไกร ร่วมบูรณาการเตรียมความพร้อมรับเทศกาลลอยกระทงและร่วมตรวจโป๊ะ ท่าเรือต่างๆ ว่ามีมาตราฐานในการรองรับผู้โดยสารหรือไม่ มีโป๊ะใดที่ทำการปิดไปแล้วอันเนื่องมาจากสาเหตุความไม่ได้มาตราฐาน

และจากเหตุการณ์กลุ่มก่อการร้ายที่ก่อเหตุโจมตีไล่เลี่ยกันหลายจุด ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อหลายคืนที่ผ่านมานั้น พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.ทท. ได้สั่งการให้สถานีตำรวจท่องเที่ยวทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และ ต่างจังหวัด เข้าประสานข้อมูลกับหน่วยข้างเคียง อาทิ สถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศส, สถานกงสุล เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร พร้อมทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวในพื้นที่รับผิดชอบ โดยการออกตรวจตรา ประชาสัมพันธ์ เพิ่มความเข้มในการปฏิบัติ ตั้งจุดตรวจในบริเวณที่มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เป็นเกาะ ชายหาด ทั้งนี้เพื่อเป็นการแสดงกำลังให้ปรากฏแก่สายตานักท่องเที่ยว

ซึ่งนับอีกเพียงไม่ถึง ๒ เดือนที่ประเทศไทยกำลังจะก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ซึ่งจะทำให้เกิดการไหลเวียนของผู้คนจากหลายเชื้อชาติเข้ามาในประเทศสมาชิกต่างๆซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย และเป็นที่แน่นอนว่านักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจะต้องเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ตระหนักถึงการสร้างภาพลักษณ์ การเชิญชวนและให้การให้บริการนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลลอยกระทง ก็นับว่าเป็นเทศกาลและวัฒนธรรมที่สืบต่อกันมาของประเทศไทย การเสริมภาพลักษณ์ในการเป็นเจ้าบ้านที่ดี โดยเน้นการดำเนินการตามมาตรการ "๑๐ กลุ่มต้องห้าม" อันได้แก่ ๑.ทัวร์ด้อยคุณภาพ  ๒.หลอกลวงสินค้าและบริการ  ๓.ยานพาหนะเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว  ๔.สถานบริการผิดกฎหมาย ๕.จัดระเบียบการจราจรในแหล่งท่องเที่ยว  ๖.ปัญหายาเสพติดในแหล่งท่องเที่ยว ๗.อาชญากรรมข้ามชาติและหลบหนีเข้าเมือง  อุบัติเหตุในแหล่งท่องเที่ยว  ๘.คดีอาชญากรรมสำคัญที่เกิดกับนักท่องเที่ยว และ ๑๐.ปัญหาผู้มีอิทธิพลมาเฟียที่พกพาอาวุธตามแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งจะมีการลงตรวจในพื้นที่สถานที่ท่องเที่ยว เพื่อปราบปรามอย่างจริงจังโดยใช้กำลังตำรวจท่องเที่ยวเป็นหลัก มีการบูรณาการกับตำรวจในพื้นที่และภาคประชาชนในการร่วมกันแก้ไขปัญหาดังกล่าว

พลตำรวจตรี สุรเชษฐ์ หักพาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยวกล่าวว่า ในปีนี้ทางกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยวได้จัดกำลังตรวจตราเตรียมความพร้อมในทุกด้าน กระจายกำลังตำรวจท่องเที่ยวกว่า 35 สถานีทั่วประเทศ ตรวจตราอย่างเข้มงวดในพื้นที่จัดงานในแต่ละพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดท่องเที่ยวหลัก 12 เมืองต้องห้ามพลาด, 12 เมืองต้องห้ามพลาด Plus และในกรุงเทพมหานคร โดยมีการเสริมกำลังยานพาหนะที่เรียกว่า "รถบ้าน" "รถเอนกประสงค์" หรือ Motor Home ไว้บริการนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งมีจำนวน ๔ คัน อำนวยความสะดวกตามจังหวัดท่องเที่ยวต่างๆ อาทิ พัทยา, เชียงใหม่, ภูเก็ต และกรุงเทพฯ ภายใน ประกอบด้วย โต๊ะรับแจ้งความ วิทยุสื่อสาร จอทีวีเฝ้าติดตามภาพจากภายนอกคือจากกล้องวงจรปิดของรถ ห้องน้ำ ตู้เย็น คอมพิวเตอร์ฯลฯ และภายนอก ประกอบด้วย จอทีวีเพื่อการประชาสัมพันธ์ กล้องวงจรปิด ไมโครโฟน ฯลฯ

จุดท่องเที่ยวริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ถือว่าเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติมาเที่ยวเป็นจำนวนมาก กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยวจึงได้จัดบริการ "รถเอนกประสงค์" จอดไว้คอยให้บริการเมื่อต้องการความช่วยเหลือโดยสามารถมองเห็นได้จากจุดสังเกตบอลลูนยักษ์เรืองแสง Tourist Police 1155 ช่วงระหว่างวันที่ 22-25 พ.ย.นี้ทางตำรวจท่องเที่ยวได้มีการจัดการโปรโมท Tourist Police 1155 ผ่านโซเชียลมีเดียในหลายๆช่องทาง อาทิ เฟสบุ๊ค อินสตาแกรม ทวิสเตอร์ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์หน่วยงานตำรวจท่องเที่ยวและ Call Center1155 สร้างภาพลักษณ์ที่ดีและสร้างความรู้สึกอบอุ่นเป็นมิตรแก่นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเมืองไทยได้มีรอยยิ้มกลับไป และอยากที่จะกลับมาท่องเที่ยวเมืองไทยอีกครั้ง การประชาสัมพันธ์ที่เอเชียทีคฯในวันนี้ ก็เพื่อเป็นการป้องปรามมิให้กลุ่มผู้เตรียมการกระทำผิดกระทำการใดๆ ที่เป็นเหตุรุนแรง ที่จะส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ หากประชาชนหรือผู้ประกอบการในเขตพื้นที่พบเห็นความผิดปกติให้ แจ้งมาได้ที่ ตำรวจท่องเที่ยว ที่สายด่วน 1155 ตลอด 24 ชม.