นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (Mr. Saharat Chudsuwan, Head of Marketing and Wealth Advisory, Mutual & Private Fund Business, TISCO Asset Management Co.,Ltd.) กล่าวว่า จากทิศทางราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ยังอยู่ในระดับต่ำ โดยปรับลดลงสู่ระดับ 40 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล หรือปรับลดลงถึงกว่า 10% ในรอบ 1 เดือน หลังรายงานสต๊อกน้ำมันดิบในสหรัฐฯ สูงกว่าคาด รวมถึงนักลงทุนยังมีความกังวลหลังจากมีรายงานกลุ่มประเทศ OPEC ยังผลิตน้ำมันสูงกว่าโควต้าที่ 30 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ล่าสุด เพื่อเป็นการจับจังหวะการลงทุนในช่วงเวลาที่เหมาะสม บลจ. ทิสโก้ จึงเปิดเสนอขาย "กองทุนเปิด ทิสโก้ ออยล์ ทริกเกอร์ 8% #9" (TISCO Oil Trigger 8% Fund 9 : TOIL9) เพื่อเปิดโอกาสเพิ่มผลตอบแทนให้แก่ผู้ลงทุน โดยเสนอขายครั้งแรกในระหว่างวันที่ 23 – 24 พ.ย. 58 นี้
"เราประเมินว่าการปรับลดลงของราคาน้ำมันดิบจะเป็นไปอย่างจำกัด โดยถึงแม้ว่ากลุ่ม OPEC จะยังคงกำลังการผลิตน้ำมันดิบที่ระดับสูงกว่า 30 ล้านบาร์เรลต่อวัน แต่ซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นประเทศที่ผลิตน้ำมันดิบได้มากสุดได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างมาก เนื่องจากมีการพึ่งพาการส่งออกน้ำมันดิบในระดับสูง ทำให้เราประเมินว่าการคงกำลังการผลิตไว้ที่ระดับสูงในอนาคตจะเป็นไปได้จำกัด ส่วนประเด็นสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่หากดูด้านการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯ พบว่ามีแนวโน้มปรับลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 รวมถึงจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐฯ ยังปรับลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 10 ซึ่งนับเป็นระดับต่ำที่สุดตั้งแต่เดือน มิ.ย. ปี 2010 สะท้อนว่าการผลิตน้ำมันในสหรัฐฯ มีแนวโน้มลดลง
เราจึงมองว่าราคาน้ำมันดิบที่ปรับลงต่ำกว่าระดับ 40 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลนั้นได้สะท้อนปัจจัยความกังวลด้านอุปทานที่ล้นตลาดเหล่านี้ไปแล้ว จึงเป็นโอกาสเหมาะในการทยอยสะสมพอร์ตน้ำมัน เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีเมื่อราคาน้ำมันรีบาวน์ โดยเราประเมินราคาน้ำมันดิบปีหน้าไว้ที่ประมาณ 55-60 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ซึ่งยังมีอัพไซด์อีกมาก" นายสาห์รัช กล่าว
ทั้งนี้ "กองทุนเปิด ทิสโก้ ออยล์ ทริกเกอร์ 8% #9" จะเน้นลงทุนในกองทุนน้ำมัน United States Oil Fund ซึ่งเป็นกองทุนรวมอีทีเอฟที่มีวัตถุประสงค์ในการลงทุนเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนสอดคล้องกับอัตราการเปลี่ยนแปลงของราคาสัญญาฟิวเจอร์ที่อ้างอิงกับน้ำมันดิบคุณภาพดี (WTI Light Sweet Crude Oil) ในตลาดไนเม็กซ์ (NYMEX) ในสหรัฐฯ โดยมีเป้าหมายเลิกโครงการที่ 8% ภายในระยะเวลา 8 เดือน หรือ ณ เวลาใดเวลาหนึ่งหลังจากเปิดให้ผู้ถือหน่วยลงทุนซื้อขายสับเปลี่ยนได้ทุกวันทำการ ซึ่งการกำหนดเป้าหมายดังกล่าวไม่ใช่ประมาณการหรือการรับประกันผลตอบแทนว่าผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนตามเป้าหมายเมื่อเลิกกองทุน และมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging) ประมาณ 90% ของมูลค่าทรัพย์สินที่ลงทุนในต่างประเทศ
กองทุนเปิด ทิสโก้ ออยล์ ทริกเกอร์ 8% #9 มีมูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท มูลค่าจองซื้อขั้นต่ำ 5,000 บาท เสนอขายระหว่างวันที่ 23-24 พ.ย. 58 ผู้สนใจสามารถติดต่อ บลจ. ทิสโก้ หรือ ธนาคารทิสโก้ทุกสาขา หรือสอบถามรายละเอียดหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ TISCO Contact Center โทร. 02-633-6000กด 4
คำเตือน
· ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน
· เนื่องจากกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
· ตัวเลข 8% เป็นเพียงการกำหนดเป้าหมายที่เป็นเหตุให้มีการเลิกกองทุนหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติเท่านั้น การกำหนดเป้าหมายดังกล่าวไม่ใช่ประมาณการหรือการรับประกันว่า ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนตามมูลค่าที่กำหนดเมื่อเลิกกองทุนหรือเมื่อมีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ ทั้งนี้ หากภาวะตลาดหรือภาวการณ์ลงทุนเปลี่ยนแปลงไปจากคาดการณ์ กองทุนรวมอาจไม่ดำเนินการเลิกกองทุนหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติก็ได้ หรือหากหน่วยลงทุนมีมูลค่าไม่เป็นไปตามเป้าหมายภายในระยะเวลาที่กำหนด ผู้ลงทุนสามารถซื้อ/ขาย/สับเปลี่ยนหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการ โดยที่เป้าหมายที่เป็นเหตุให้เลิกโครงการยังคงดำเนินอยู่ต่อไป ซึ่งเป้าหมายเลิกโครงการเป็นเป้าหมายก่อนหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง (ถ้ามี)
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit