ใครมี "ออร่า" ดีไม่ดี สามารถสัมผัสได้ สังเกตได้จากผู้คนรอบกายในบางคนเมื่อเราอยู่ใกล้จะสัมผัสได้ว่า น่าคบหาดูพิเศษกว่าคนอื่นในขณะเดียวกันอาจจะรู้สึกว่าอีกคนไม่น่าเข้าใกล้ หรือ อาจจะสัมผัสได้ว่าเขากำลังป่วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือผลกระทบจากออร่าของอีกฝ่ายที่ส่งผ่านเข้ามา
อาจารย์หยาง เผยเซิน ผู้อำนวยการศูนย์ธรรมชาติบำบัดอาจารย์หยาง เปิดเผยว่า ปัจจุบันในวงการวิทยาศาสตร์ได้คิดค้นเครื่องถ่ายภาพรังสีเคอร์เลียน ซึ่งสามารถถ่ายออร่าได้ ซึ่งในบางประเทศมีใช้อย่างแพร่หลายแต่ราคาค่อนข้างสูงเป็นหลักล้าน อย่างไรก็ตามจะดีแค่ไหนหากคนเราสามารถฝึกฝนการดูออร่าได้ด้วยตัวเอง และสามารถที่จะดูออร่าให้คนรอบข้างได้ด้วย "ออร่า" นั้นเป็นคลื่นสนามพลังงานแม่เหล็กที่ห่อหุ้มร่างกายของเราไว้เปรียบเสมือนเกาะคุ้มกัน หาก "ออร่า" ผิดปกติเมื่อใดอาจจะเกิดการเจ็บป่วยขึ้น หรืออยู่ในช่วงที่อารมณ์แปรปรวนร่างกายสูญเสียพลัง "ออร่า" จะแสดงออกมาเป็นสีดำ
ตามเส้นแสงของพลังจักรวาลนั้นมี 7 สี ออร่าเราก็เช่นเดียวกัน ถ้าผ่านการฝึกฝนมายาวนาน จะสัมผัสได้ถึงชั้นพลังงานออร่าทั้ง 7 สี เพราะเราคืออณูธาตหนึ่งของจักรวาล ที่มีสีสันและระดับแสงที่แตกต่างกันไป และการที่คนเรามี ออร่าสว่างย่อมที่จะเหนี่ยวนำสิ่งดีๆ เข้าสู่ตัวเราได้ ทั้งการมีสุขภาพดี จะทำอะไรก็มีแต่ความโชคดี และรู้จักหลีกเลี่ยงพลังงานลบต่างๆ ที่ส่งผ่านเข้ามา คลื่นความถี่สมองสัมพันธ์กับ "ออร่า" ได้อย่างไร
อาจารย์หยาง กล่าวเพิ่มเติมว่า วิธีการเพิ่มขอบเขตของชั้นพลังงาน หรือเพิ่ม "ออร่า" ให้กับตัวเราเอง ย่อมต้องมีการฝึกฝน ซึ่งตามหลักวิชาชี่กงโบราณให้ความสำคัญกับการนั่งสมาธิมาเป็นอันดับต้นในการยกระดับขอบเขตของชั้นพลังงานรอบกายเรา และการนั่งสมาธิให้เกิดออร่า คลื่นสมองต้องเปลี่ยนเป็น Alpha และเราจะรู้ได้อย่างไรว่า คลื่นสมองเปลี่ยนเป็น Alpha แล้ว ซึ่งในวิชาชี่กงโบราณ เมื่อคลื่นสมองเปลี่ยนเป็น Alpha จะเกิดอาการของ "ชี่" ซึ่งเปรียบเหมือนประจุไฟฟ้าที่มีอยู่ในร่างกายมนุษย์ ที่ก่อให้เกิดพลังงานจุลและพลังงานศักย์ในร่างกาย ส่งผลให้จุดกึ่งกลางสมอง (ไป่ฮุ่ย) เปิดเชื่อมกับพลังงานจักรวาล นำไปสู่ออร่าสว่าง ซึ่งเมื่อทำอะไรก็มีแต่ความโชคดี สุขภาพแข็งแรง ผู้ที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรออร่าสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร.0-2637-0121-2,086-3785331 หรือ www.qigongthai.com
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit