มร.เดเมียน โอ ซัลลิแวน ตัวแทนจาก ICDL กล่าวว่า "ICDL เป็นประกาศนียบัตรทางด้านไอทีที่เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางทั่วโลก ด้วยจำนวนของการทดสอบวัดความรู้แล้วกว่า 50 ล้านข้อสอบ โดยมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจาก ECDL (European Computer Driving License) ซึ่งเป็นประกาศนียบัตรทางด้านไอทีที่ถือกำเนิดเมื่อครั้งสหภาพยุโรปหรือ EU ที่ต้องการกำหนดมาตรฐานทักษะความรู้ สำหรับการวัดและประเมินความรู้ของประชากรที่อาศัยอยู่ใน EU ดังนั้น ICDL จึงเปรียบได้กับใบขับขี่สากล ซึ่งหากสอบผ่านในแต่ละหัวข้อ ก็จะได้รับการยอมรับว่ามีความสามารถในทักษะที่สอบผ่าน และสามารถนำไปสมัครงานด้านได้"
ปัจจุบัน ประกาศนียบัตร ICDL ดำเนินงานโดยมูลนิธิ ECDL Foundation ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรที่จัดตั้งโดยสหภาพยุโรป มีการเรียนการสอนระยะไกลหรือ E-Learning ให้บริการระบบทดสอบวัดมาตรฐานต่างๆ ผ่านทางระบบออนไลน์ สำหรับประกาศนียบัตรมาตรฐานสากลที่ ICDL ออกให้กับผู้ที่สอบผ่านนั้น โดยสามารถนำไปใช้ทั้งในการสมัครงานและการยืนยันความสามารถด้าน ICT ได้ทั่วโลก ได้รับการยอมรับว่ามีคุณภาพและมีความน่าเชื่อถือที่สุดในโลก ซึ่งปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียนสอบไปแล้วกว่า 15 ล้านคนและมีการสอบไปแล้วกว่า 50 ล้านชุด ใน 148 ประเทศทั่วโลก
มร.ฮิวจ์ส แพททริค โอคอนแนล, ตัวแทน ICDL Asia ในประเทศไทย กล่าวถึงการขยายฐานในประเทศไทยว่า "ที่ผ่านมาประเทศไทยถือเป็นอีกประเทศที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว มีการนำเอามาตรฐานสากลระดับโลกต่างๆ เข้ามาพัฒนาคนภายในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาษา เรื่องมาตรฐานในการทำงาน เช่นเดียวกันในการทำธุรกิจยุคใหม่ ไอทีถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจยุคใหม่ของประเทศให้ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ICDL จึงเข้ามาขยายฐานในประเทศไทยเป็นเวลา 5 ปีแล้ว ในมุมมองของเราประกาศนียบัตร ICDL จะเน้นไปที่การวัดทักษะความรู้ด้านไอทีจะเข้ามาช่วยสร้างรากฐานที่ดีให้กับการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการนำเอาเศรษฐกิจดิจิตอลมาใช้ในการขับเคลื่อนอนาคตของประเทศ"
จากการสำรวจของ ICDL ประเทศไทย ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา พบว่าผู้สมัครงาน 29% แจ้งว่าตนเองมีทักษะความรู้ที่เกี่ยวกับการใช้คอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวกับการทำงาน "ดีมาก" และอีก 49% บอกว่าตนเองมีทักษะความรู้อยู่ในระดับ "ดี" แต่หลังจากนำเอากลุ่มคนตัวอย่างเหล่านี้เข้าทดสอบทักษะความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานในหน้าที่ที่สมัครงาน พบว่ามีเพียง 7% เท่านั้นที่สอบผ่านตามเกณฑ์มาตรฐานของ ICDL ผลสำรวจนี้แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยยังขาดความรู้ในหลักสูตรไอทีเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงต้องอาศัยการทำความเข้าใจเพราะถือว่าเป็นเรื่องใหม่กับประเทศไทย
หลักสูตรของ ICDL แบ่งออกได้ 3 ระดับ
ICDL นั้นแบ่งหลักสูตรประกาศนียบัตรออกเป็น 3 ระดับที่เหมาะกับทุกคนและการทำงานที่แตกต่างกัน สามารถเลือกได้ดังต่อไปนี้
1. ระดับพื้นฐาน (Digital Literacy) เป็นทักษะ ICT ที่ทุกคนควรมีประกอบไปด้วย 4 วิชา ได้แก่ ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์, การจัดการเอกสาร (Word Processing), การบันทึกข้อมูลในรูปแบบตาราง (Spreadsheets) และความรู้การใช้งานอินเทอร์เน็ต
2. ระดับเสริมสมรรถนะการทำงาน (Digital Competence)
3. ระดับเชี่ยวชาญ (Digital Expertise)
ปัจจุบัน ICDL ได้มีการลงบันทึกความร่วมมือทางวิชาการกับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร รวมไปถึงได้เข้าร่วมกับหลายสถาบัน เพื่อส่งเสริมการเรียนการสอนทั้งในระดับประเทศและท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นโครงการ STEM Project ในการจัดแข่งขันทักษะคอมพิวเตอร์มาตรฐานสากล ICDL 4 ภาค หรือการร่วมมือการตั้งศูนย์อบรมและสอบในมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่ต่างๆ ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ เช่น มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, มหาวิทยาลัยราชมงคลล้านนา, มหาวิทยาลัยศรีปทุม เป็นต้น
สำหรับเป้าหมายของ ICDL ประเทศไทย ต่อไปคือ การขยายสู่ภาคประชาชนและบุคคลทั่วไปทั้งในแง่ของข้อได้เปรียบและความจำเป็นของการมีประกาศนียบัตรทักษะความรู้ด้าน ICT ให้เป็นที่เข้าใจและได้รับความนิยมเช่นเดียวกับการสอบประกาศนียบัตรภาษาอังกฤษในแง่ของภาครัฐ,การศึกษาและเอกชนก็จะมีการผลักดันให้เห็นว่าถึงเวลาแล้วที่จะเลือกใช้มาตรฐานไอทีระดับโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรฐานของ ICDL ที่ได้รับเลือกจากรัฐบาลหลายประเทศ เช่น สิงคโปร์, ไอร์แลนด์ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และสหราชอาณาจักร ในการนำไปใช้เป็นมาตรฐานสำหรับการประเมินทักษะความรู้ที่กำหนดอยู่ในแผนพัฒนาความรู้ด้าน ICT ของประเทศ" มร. ฮิวจ์ส แพททริค โอคอนแนล กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ICDL สามารถเข้าชมได้ที่ www.icdlasia.org
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit