ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวอีกว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับจังหวัดต่างๆ โดยเฉพาะจังหวัดที่มีเมืองหน้าด่านติดกับชายแดน ซึ่งเชียงรายก็เป็นพื้นที่ทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญในเรื่องการพัฒนาในหลายด้าน ที่สามารถพัฒนาให้เป็นพื้นที่พิเศษทางเศรษฐกิจ ขณะเดียวกัน วธ. ก็จะผลักดันให้เป็นพื้นที่พิเศษทางวัฒนธรรม โดยการขับเคลื่อนโครงการสีไทยโทน เพื่อให้ศิลปินได้มีโอกาสใช้สีไทยที่มีรากเหง้ามานาน ปรุงด้วยวัสดุจากธรรมชาติ และมีการการวิจัยใช้อุปกรณ์ระบบดิจิตอล ทำให้เกิด 'เทรนด์ไทยโทน' ในรูปเฉดสีไทยมากกว่า 200 สี มาสร้างสรรค์ผลงานเชิงวิจิตรศิลป์ที่เป็นเสน่ห์ของเครือข่ายศิลปินในเชียงราย และขยายผลให้เป็นผลงานเชิงสร้างสรรค์ที่สามารถสร้างคุณค่าและมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ ได้ในรูปแบบนวัตกรรมของที่ระลึกสำหรับการท่องเที่ยว หรือ "ฝากไทย" ซึ่ง วธ. อยากให้การดำเนินงานด้าน"สีไทยโทน" และ "ฝากไทย" คู่ขนานกันออกไป เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการนำ "เสน่ห์ไทย" จากทุนวัฒนธรรมมาเพิ่มคุณค่าและมูลค่าทางเศรษฐกิจและสังคม และส่งเสริมอุตสาหกรรมเชิงสร้างสรรค์ อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มีการเปิดนิทรรศการสีไทยโทน วธ.จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นต้น มาศึกษาผลงานของศิลปินเพื่อร่วมผลักดันการดำเนินงานต่อไป รวมทั้งจะทำเป็นโมเดลต้นแบบนำไปขยายผลและพัฒนาสู่ภูมิภาคต่างๆด้วย
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit