CHO เผย ปัจจุบันตุนงานในมือแล้ว 620.91 ลบ.ทยอยรับรู้ปีนี้-ปีหน้า พร้อมแจกข่าวดี จับมือพันธมิตรเยอรมัน ร่วมพัฒนาระบบอุปกรณ์และชิ้นส่วนสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์

01 Dec 2015
บมจ.ช.ทวี ดอลลาเซียน (CHO) ตุนงานในมือ 620.91 ล้านบาท ทยอยรับรู้ตั้งแต่ปีนี้-ปีหน้า พร้อมร่วมประมูลงานใหม่ต่อเนื่อง ด้านบิ๊กบอส "สุรเดช ทวีแสงสกุลไทย" เผยจับมือ พันธมิตรทางธุรกิจจากบริษัท FRAMO GmbH ประเทศเยอรมัน นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาพัฒนาระบบอุปกรณ์และชิ้นส่วนสำหรับยานยนต์เพื่อการขนส่งที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าและควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ในเชิงพาณิชย์มาใช้เพิ่มศักยภาพบริษัทให้แข็งแกร่ง

นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ช. ทวี ดอลลาเซียน จำกัด (มหาชน)(CHO) ประกอบธุรกิจเป็นผู้ออกแบบ สร้างสรรค์ ผลิตตัวถังและติดตั้งระบบวิศวกรรมที่เกี่ยวกับยานยนต์เพื่อการพาณิชย์ รวมทั้งเป็นผู้ผสานเทคโนโลยีเกี่ยวกับระบบราง และโลจิสติกส์เข้ากับการจัดการอย่างมืออาชีพ เปิดเผยว่า บริษัทยังคงมีปริมาณงานในมือ (Backlog) กว่า 620.91 ล้านบาท ที่คาดว่าจะรับรู้เป็นรายได้ตั้งแต่ไตรมาส 4/2558 และที่เหลือทยอยรับรู้ในปี 2559 โดยขณะนี้อยู่ระหว่างยื่นประมูลโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง

"ปัจจุบัน บริษัทมีปริมาณงานในมือ (Backlog) กว่า 620.91 ล้านบาท ที่คาดว่าจะรับรู้เป็นรายได้ในไตรมาส 4/2558 ประมาณ 370 ล้านบาท ที่เหลือทยอยรับรู้ในปี 2559 โดยขณะนี้อยู่ระหว่างยื่นประมูลโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง" นายสุรเดช กล่าวนอกจากนี้ บริษัทฯได้ร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจจากบริษัท FRAMO GmbH ประเทศเยอรมัน เพื่อนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาพัฒนาระบบอุปกรณ์และชิ้นส่วนสำหรับยานยนต์เพื่อการขนส่งที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าและควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ในเชิงพาณิชย์ โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ฯ ดังกล่าว ที่เหมาะสมสำหรับผู้ประกอบการทุกระดับในประเทศไทย อีกทั้ง ยังเป็นการเตรียมความพร้อมด้านเทคโนโลยีของบริษัทเพื่อรองรับงานโครงการรถเมล์ขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้าขององค์การขนส่งมวลชน (ขสมก.) ที่คาดว่าจะเปิดประมูลต่อจากรถเมล์ล็อตแรกจำนวน 489 คันที่เป็นระบบก๊าซธรรมชาติอีกด้วย

"ภายในไตรมาส 1/2559 บริษัทฯ เตรียมนำรถขนส่งเชิงพาณิชย์ประเภท 6 ล้อขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้าคันแรกของประเทศไทย นำมาทดลองใช้จริงในเส้นทางการขนส่งของบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) (CPALL) ตามที่บริษัท ฯ กับ CPALL และสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ ได้ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) 3 ฝ่าย เมื่อไตรมาส 2/2558 ที่ผ่านมา เพื่อร่วมดำเนินโครงการการพัฒนายานยนต์และพลังงานทางเลือกในระบบโลจิสติกส์" นายสุรเดช กล่าว

ขณะที่ ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2558 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 32.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.04 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 11,680.3% เมื่อเทียบจากช่วงไตรมาส 2/2558 ที่มีกำไรสุทธิ 0.27 ล้านบาท เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจที่มีการรับรู้รายได้จากการผลิตตามสัดส่วนของงานที่ทำเสร็จ ทำให้บริษัทฯ รับรู้รายได้เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน ซึ่งมาจากงานผลิตที่มีคำสั่งซื้อทั้งในและต่างประเทศ