ไมล์สโตน ฟู้ดฯ ดึง “เซ้นต์ มาร์ค” คาเฟ่แบรนด์ดังจากญี่ปุ่นขยายสาขาในไทย

11 Dec 2015
ไมล์สโตน ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอเรจ (ประเทศไทย) ผู้ประกอบการด้านอาหารและเครื่องดื่ม ดึง "St. Marc Cefe (เซ้นต์ มาร์ค คาเฟ่)" แฟรนไชส์เบเกอรี่และเครื่องดื่มแบรนด์ดังจากญี่ปุ่นขยายสาขาในไทย สบช่อง ว่างตลาดขนมต่างประเทศยังเติบโตได้ มั่นใจรสชาติคุณภาพและบริการถูกจริตนักชิมชาวไทย ใช้กลยุทธ์สร้างการรับรู้ผ่านโซเชี่ยลมีเดีย ตั้งเป้าขยาย 5 สาขาต่อปี
ไมล์สโตน ฟู้ดฯ ดึง “เซ้นต์ มาร์ค” คาเฟ่แบรนด์ดังจากญี่ปุ่นขยายสาขาในไทย

นายชัยทัต กมลวิศิษฏ์ ผู้อำนวยการ บริษัท ไมล์สโตน ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทเป็นผู้ดำเนินธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม โดยมีความสนใจในศาสตร์และวัฒนธรรมการทำขนมและเบเกอรี่สไตล์ยุโรปอยู่แล้ว โดยเฉพาะช็อคโกแลตครัวซองท์ (Chocolate Croissant) และจากการศึกษาพบว่าหนึ่งในร้านช็อคโกแลตครัวซองท์ที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมคือแบรนด์ "เซ้นต์ มาร์ค คาเฟ่" (St.Marc Cafe) ซึ่งเป็นหนึ่งในแปดแบรนด์ภายใต้การบริหารของ กลุ่มเซ้นต์ มาร์ค โฮลดิ้ง ประเทศญี่ปุ่น ที่มีกว่า 400 สาขาในญี่ปุ่น จีน และในอาเซียน จึงมีความสนใจที่จะนำแบรนด์ดังกล่าวเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย โดยเซ้นต์ มาร์ค คาเฟ่ เป็นแบรนด์ร้านเบเกอรี่และคาเฟ่ที่โดดเด่นด้านแบเกอรี่ เครื่องดื่ม และของหวาน ซึ่งมีเมนูที่เป็นเอกลักษณ์ของร้านคือ Choco Cro (ช็อคโก โคร) หรือช็อคโกแลตครัวซองท์ ซึ่งเป็นที่นิยมของชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยว จนได้รับการยอมรับว่าเป็น The best chocolate croissant in Japan

"การนำแบรนด์ St.Marc Cafe มาขยายสาขาในประเทศไทย มีปัจจัยหลักๆ สามข้อ คือ ปัจจัยด้านการเติบโตของธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งพบว่ายังคงมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีการแข่งขันกันสูง แต่ด้วยพฤติกรรมของคนไทยที่ยังคงนิยมทานอาหารนอกบ้าน โดยเฉพาะขนม ของหวาน หรือเบเกอรี่ ชอบไปนั่งร้านกาแฟ ชอบมองหาสถานที่ใหม่ๆ ในการพบปะพูดคุยทั้งเรื่องส่วนตัวและธุรกิจ พร้อมเปิดรับสิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ประกอบกับผู้บริโภคชาวไทยยังเป็นคนทันสมัยอยู่ในกระแสหรือเทรนด์อยู่เสมอ ปัจจัยที่สอง คือ เรามีความเชื่อมั่นว่ารสชาติและคุณภาพของ Choco Cro (ช็อคโก โคร) ซึ่งเป็นเมนูเด่นของร้าน รวมทั้งเมนูอื่นๆ จะตอบสนองความต้องการของผู้ที่มองหาเบเกอรี่รสชาติดีและมีคุณภาพ และเชื่อว่าหากลูกค้าได้ชิมแล้วจะเกิดการกลับมาซื้อซ้ำ (repeat) อย่างแน่นอนส่วนอีกปัจจัยหนึ่ง คือ ปัจจัยด้านความน่าเชื่อถือและแข็งแกร่งของแบรนด์ St.Marc Cafe ในด้านคุณภาพของสินค้า และบริการ ซึ่งเป็นที่ยอมรับของทั้งชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่นมายาวนาน และสำหรับผู้บริโภคชาวไทยที่เคยได้ไปร้านนี้ในประเทศญี่ปุ่นก็มีการนำร้านนี้มารีวิวผ่านโซเชียลมีเดียกันจำนวนมาก ว่าเป็นร้านที่หากไปท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นแล้วจะต้องไปใช้บริการให้ได้ ดังนั้นจึงเชื่อว่าเมื่อ St.Marc Cafe เปิดให้บริการในเมืองไทยน่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ประกอบกับรูปแบบการให้บริการแบบ Japanese Service Mind น่าจะสอดคล้องกับวัฒนธรรมและประทับใจผู้บริโภคชาวไทยได้ไม่ยาก"

St.Marc Cafe สาขาแรกที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เปิดให้บริการเมื่อ 1 ธันวาคม ที่ผ่านมา และกำลังจะเปิดบริการสาขาศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ในวันที่ 20 ธันวาคม และศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา บางนา วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2559 ตามลำดับ โดยตั้งเป้าที่จะขยายสาขาให้ได้ 5 สาขาต่อปี ทั้งในรูปแบบร้านภายในศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ และแบบ Stand Alone (สแตนอะโลน) ในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยงบประมาณการลงทุนต่อสาขาประมาณ 10 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าแฟรนไชส์และค่าตกแต่งร้าน ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาคืนทุนในระยะเวลา 2 ปี

ด้าน คุณฐิตินารถ กมลวิศิษฏ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ไมล์สโตน ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า กลุ่มเป้าหมายของ St.Marc Cafe คือ พนักงานออฟฟิศ 50% วัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา 30% และครอบครัว 20% โดย สินค้าของ St.Marc Cafe แบ่งออกเป็นประเภทเบเกอรี่ เครื่องดื่มร้อน-เย็น และของหวาน ในราคาตั้งแต่ 50-250 บาท อยู่ในช่วงราคาที่จับต้องได้ ไม่สูงมากจนเกินไป และสินค้าภายในร้านยังตอบโจทย์ความต้องการของทุกวัย ส่วนการออกแบบตกแต่งร้านเน้นโทนอบอุ่นของสีน้ำตาลและส้ม มีการผสมผสานกันระหว่างความทันสมัยแต่ยังคงมีกลิ่นอายของวัฒนธรรมญี่ปุ่น ให้บรรยากาศที่นั่งสบาย สามารถใช้เป็นที่พบปะ พูดคุย หรือแฮงค์เอ้าท์ของกลุ่มครอบครัว และเพื่อนๆ ได้

"St.Marc Cafe เป็นคาเฟ่ที่มีคอนเซปท์ว่า Freshly Bake จำหน่ายเบเกอรี่และเครื่องดื่มที่มีคุณภาพและรสชาติมาตรฐานเดียวกับประเทศญี่ปุ่น ที่อบสดใหม่จากในร้าน โดยเมนูเด่นของร้าน คือ ช็อคโกแลต ครัวซองท์ หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า ช็อคโก โคร (Choco Cro) นั้น นอกจากรสช็อคโกแลตแล้ว ยังมีการเพิ่มรสชาติต่างๆ เข้าไปตามเทศกาล อาทิ มัชฉะ ไดฟูกุ (ชาเขียว โมจิ และถั่วแดง) ไวท์ช็อคโกแลต สตอเบอรี่ และอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีเมนูขนมและเครื่องดื่มอื่นๆ ที่โดดเด่นไม่แพ้กัน เช่น ฟูจิซี่รี่ส์ (Fuji Series) ขนมบัตเตอร์แดนิช (Butter Danish) มาพร้อมซอฟท์ครีมที่มีท้อปปิ้งหลากหลายตามความชอบที่อบสดใหม่ทุกครั้ง รวมไปถึง Matcha Series เครื่องดื่มตระกูลมัชฉะ อาทิ มัชฉะ ลาเต้ (Matcha Latte) และในช่วงฤดูกาลพิเศษก็ยังมีการทำรสชาติเฉพาะออกมาตามฤดูกาลเหล่านั้นในญี่ปุ่น พร้อมด้วยโปรโมชั่นในช่วงเทศกาลสำคัญทุกเทศกาลด้วยเช่นกัน โดยวัตถุดิบสำหรับกลุ่มสินค้าหลักนั้นจะนำเข้ามาจากญี่ปุ่นทั้งหมด

อีกจุดเด่นหนึ่งที่ ST. Marc Cafe ในประเทศญี่ปุ่นและทุกสาขานอกประเทศมีเหมือนกัน คือการให้บริการแบบ Japanese Service Mind คือหัวใจการบริการที่พนักงานทุกคนพึงมี การให้บริการด้วยความใส่ใจ ความตั้งใจ ความอดทน และมีความเข้าใจถึงความต้องการของลูกค้า ส่วนการสร้างการรับรู้ของ St.Marc Cafe นั้น แบ่งออกเป็นทางสื่อออนไลน์ 60% สื่อออฟไลน์ 40% ที่ให้ความสำคัญกับสื่อออนไลน์ค่อนข้างมาก เพราะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงกลุ่ม ทำให้ลูกค้าเห็นหน้าตาของเบเกอรี่และของหวานได้ทันที สร้างความอยากรู้อยากลอง

สำหรับในช่วงฉลองเปิด St.Marc Cafe เป็นครั้งแรกนี้ ทางร้านได้มอบโปรโมชั่นพิเศษให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ แชะ แชร์ โชว์ ลด 10% ถึงวันที่ 31 ธันวาคมนี้ St.Marc Cafe เปิดให้บริการแล้วที่สาขาศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิลด์ ชั้น 3 โซน Eden บริเวณทางเชื่อมไปอาคารดิ ออฟฟิศ ในวันธรรมดาตั้งแต่เวลา 7.00 - 22.00 น. และวันเสาร์ - อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น.ติดตามความเคลื่อนไหวของ St.Marc Cafe ได้ทาง facebook.com/stmarccafethailand