โดยมีสถาบันเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชนทั่วประเทศประมาณ 73,000 แห่ง ที่ให้การสนับสนุนด้านผลิตภัณฑ์การเกษตรได้ตลอดทั้งปี และสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับผลิตภัณฑ์การเกษตรของไทยสู่ตลาดโลก โดยตัวอย่างผลิตภัณฑ์แปรรูปที่มีชื่อเสียง ได้แก่ ทุเรียนทอดกรอบ ลำไยอบแห้ง สับปะรดกระป๋อง ไอศกรีมมังคุด และมะม่วง เป็นต้น ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สนับสนุนและส่งเสริมให้สถาบันเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชน หันมาแปรรูปผลไม้และพืชผักเกรดรองหรือที่ยังไม่ได้มาตรฐาน ให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพมาตรฐาน มีการรับรองด้านความปลอดภัย เพื่อเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลไม้และพืชผัก รวมทั้งโรงบรรจุภัณฑ์ ที่ได้มาตรฐานคุณภาพและถูกสุขลักษณะทั้งจาก GMP และมาตรฐานสินค้า Q สร้างอาชีพที่มั่นคง ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม หลังจากลงนามเอ็มโอยูแล้ว จะมีการหารือร่วมกันระหว่างบริษัทการบินไทย.(จำกัด) มหาชน กับสถาบันเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชน โดยมีกรมส่งเสริมการเกษตร และกรมส่งเสริมสหกรณ์เข้าไปมีบทบาทในการผลักดันให้มีการซื้อขายผักผลไม้และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรในระยะยาวอีกด้วย
“ความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กับ กระทรวงคมนาคมในครั้งนี้ จึงเป็นโอกาสอันดีที่ได้ร่วมกันสนับสนุนผลิตภัณฑ์ผลไม้และพืชผักสด รวมทั้งผลิตภัณฑ์แปรรูปทางการเกษตรของไทย โดยมีบริษัทการบินไทย (จำกัด) มหาชน เป็นสื่อกลางในการนำผลไม้และพืชผักสด และผลิตภัณฑ์จากสถาบันเกษตรกรและวิสาหกิจชุมชนที่ผลิตได้มาตรฐานตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำหนดไปสู่ผู้บริโภคทั่วโลกเพิ่มมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาการบินไทยได้มีการสั่งสินค้าเกษตรเซิร์ฟบนเครื่องบ้างแล้ว เช่น สับปะรดภูแล หรือไอศกรีมมังคุด เป็นต้น”นายปีติพงศ์ กล่าว
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit