นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพิจารณาสิทธิพิเศษของหน่วยงานและรัฐวิสาหกิจ ครั้งที่ 2/2558 ในวันนี้ (11 มิ.ย.) ว่า คณะกรรมการพิจารณาสิทธิพิเศษฯ ได้อนุมัติให้ผู้ขายหรือผู้ให้บริการที่มีรายชื่อตามบัญชีนวัตกรรมไทยตามที่หน่วยงานจัดทำบัญชีนวัตกรรมไทยที่ได้รับมอบหมายจากคณะรัฐมนตรี ได้รับสิทธิพิเศษ โดยให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารราชการแผ่นดินส่วนท้องถิ่น หน่วยงานอื่นซึ่งมีกฎหมายบัญญัติให้มีฐานะเป็นราชการบริหารส่วนท้องถิ่น หรือหน่วยงานอื่นของรัฐที่ประสงค์จะจัดซื้อหรือจัดจ้างจากผู้ขายหรือผู้ให้บริการที่มีรายชื่อตามบัญชีนวัตกรรมไทยได้ โดยวิธีกรณีพิเศษ
หากผลิตภัณฑ์หรือบริการนวัตกรรมที่จัดซื้อหรือจัดจ้างมีผู้ขายหรือผู้ให้บริการที่มีรายชื่อตามบัญชีนวัตกรรมไทยตั้งแต่ 2 รายขึ้นไป ให้ดำเนินการแจ้งผู้ขายหรือผู้ให้บริการที่มีรายชื่อตามบัญชีนวัตกรรมไทยทุกรายเข้าเสนอราคาแล้วจัดซื้อจากรายที่เสนอราคาต่ำสุด
อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวต่อว่า ขณะนี้มีผลงานวัตกรรมไทยที่ได้ขึ้นบัญชีแล้วกว่า 100 รายการ เช่น เครื่องรบกวนสัญญาณโทรศัพท์มือถือ T-Box ที่ใช้ตัดสัญญาณการจุดชนวนระเบิดด้วยโทรศัพท์มือถือ เสื้อเกราะกันกระสุนเซรามิกส์น้ำหนักเบา เครื่องช่วยฟังดิจิทัล PO2 ช่วยในการฟังของผู้ที่บกพร่องทางการได้ยิน นาฬิกาเพื่อสุขภาพ Wellograph เป็นเครื่องที่มีเซนเซอร์วัดการเต้นของหัวใจอย่างแม่นยำ รถพยาบาลนาโน เคลือบสีผนังด้วยสารนาโนที่มีฤทธิ์ในการฆ่าและยับยั้งการเติบโตของเชื้อโรค เก้าอี้ทำฟันสำหรับผู้พิการ รถตัดอ้อย ใช้ทดแทนแรงงานในการตัดอ้อย และ เครื่องฆ่ามอดข้าวด้วยคลื่นวิทยุ
“หลังจากนี้ จะนำเสนอผลการพิจารณาของคณะกรรมการฯ ดังกล่าวต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป นโยบายนี้จะช่วยกระตุ้นผู้ประกอบการไทยให้หันมาผลิตและให้บริการสินค้าที่เป็นนวัตกรรม ซึ่งสร้างมูลค่าเพิ่มได้สูงกว่าผลิตภัณฑ์และบริการแบบเดิม รวมทั้งยังช่วยผลักดันการวิจัย และพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ ไปสู่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ยิ่งขึ้น ทำให้มีการต่อยอดนวัตกรรมของไทยให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน” นายมนัส กล่าว
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit