อิเมอร์สัน เนทเวอร์ค พาวเวอร์ช่วยให้การรวมโซลูชั่นจัดการโครงสร้างพื้นฐานศูนย์ข้อมูลทำได้ง่ายขึ้นเพื่อปรับปรุงผลิตผลและทัศนวิสัย

วันนี้ อิเมอร์สัน เนทเวอร์ค พาวเวอร์ ซึ่งเป็นธุรกิจหนึ่งของอิเมอร์สัน (NYSE:EMR) และผู้ให้บริการชั้นนำของโลกด้านโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับระบบข้อมูลและเทคโนโลยีสื่อสาร ได้ประกาศพัฒนาการด้านกลยุทธ์โซลูชั่นจัดการโครงสร้างพื้นฐานศูนย์ข้อมูลชั้นนำ นั่นคือแพลตฟอร์มTrellis โซลูชั่นใหม่นี้มาพร้อมกับอินเตอร์เฟซใหม่ RESTful APIs (representational state transfer application programming interfaces) ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อเปลี่ยนแปลงความสามารถในการวางแผนและมีรายงานแพ็คเกจพื้นฐานใหม่ 8 รูปแบบ ด้วยพัฒนาการต่างๆเหล่านี้จะทำให้ลูกค้าแพลตฟอร์ม Trellis สามารถมองเห็นภาพรวมการทำงานของทรัพยากรต่างๆทั้งด้านไอทีและศูนย์ปฏิบัติการได้อย่างสมบูรณ์ สามารถตัดสินใจด้านการจัดการสมรรถภาพได้ดีขึ้น อีกทั้งยังประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย API ใหม่นี้มอบสมรรถนะรูปแบบใหม่ที่สำคัญซึ่งลูกค้าของอิเมอร์สัน เนทเวอร์ค พาวเวอร์เรียกร้องมา เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของ DCIM API เหล่านี้ช่วยทำให้การรวม DCIM และแอพพลิเคชั่นต่างๆที่ทำงานในศูนย์ข้อมูลของลูกค้าเป็นไปอย่างง่ายดายโดยไม่ต้องเปลี่ยนวิธีทำงานเดิมของศูนย์ข้อมูลเหล่านั้น สามารถใช้ API เพื่อสร้างความสามารถในการทำงานร่วมกันกับแอพพลิเคชั่นต่างๆ (ตั้งแต่การจัดการไอทีไปจนถึงระบบบัญชี) และขยายไปถึงแพลตฟอร์มอื่นๆเช่นอุปกรณ์โทรศัพท์เคลื่อนที่ต่างๆและสร้างเส้นทางทำงานเฉพาะตัวที่สะท้อนกระบวนการต่างๆในสภาวะแวดล้อมของลูกค้า

“คุณค่าของ DCIM ขึ้นอยู่กับความสามารถในการรวมข้อมูลปริมาณมากแบบเรียลไทม์จากทุกแห่งในศูนย์ข้อมูล” เจนนิเฟอร์ คอปปี้ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย IDC กล่าว “API ที่ช่วยให้ฟังค์ชั่นต่างๆทำงานร่วมกันได้กับข้อมูลจากหลายๆแหล่งและโซลูชั่นจัดการต่างๆ นั้นเป็นสิ่งจำเป็นต่อการใช้งาน DCIM อย่างประสบความสำเร็จ”

“การเพิ่ม API ขึ้นมาทำให้ความสามารถของแพลตฟอร์ม Trellis ในการเป็นสินทรัพย์ทางธุรกิจเชิงกลยุทธ์ชิ้นหนึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมาก” เอนโซ เกรโค รองประธานและผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายซอฟแวร์ โซลูชั่นศูนย์ข้อมูลของอิเมอร์สัน เนทเวอร์ค พาวเวอร์กล่าว “การรวมศูนย์ปฏิบัติการคอมพิวเตอร์และทรัพยากรด้านไอทีเข้าด้วยกันโดยสมบูรณ์ทำให้ลูกค้าสามารถใช้งานแพลตฟอร์ม Trellis อย่างง่ายดายและมีประสิทธิภาพได้ทุกวันเพื่อให้พวกเขาทำงานได้ง่ายขึ้น และ API เป็นคุณลักษณะที่ทรงพลังเป็นพิเศษ เพราะมันมอบวิธีทำงานที่ชัดเจนสำหรับระบบนิเวศน์ของเราที่รวมถึงเหล่าพันธมิตร ผู้ค้าซอฟแวร์อิสระและผู้ใช้สุดท้ายเพื่อขยายและเพิ่มมูลค่าของแพลตฟอร์ม Trellis”API ในแพลตฟอร์ม Trellis ช่วยให้สามารถติดต่อกับแอพพลิเคชั่นต่างๆเช่นระบบจัดการธุรกิจ แอพพลิเคชั่นเวปไซต์และอุปกรณ์เคลื่อนที่ต่างๆ API เหล่านี้ช่วยเปิดช่องทางเข้าถึงข้อมูลข้ามแพลตฟอร์มและระบบแบบสองทิศทาง และช่วยให้ไอทีจัดสรรค่าใช้จ่ายตามประเภทธุรกิจหรือลูกค้า การสื่อสารนี้ช่วยให้สามารถเก็บและรวบรวมข้อมูลที่สำคัญไว้ในแพลตฟอร์ม Trellis แล้วทีมทำงานศูนย์ข้อมูลจะได้สามารถใช้การวิเคราะห์ขั้นสูงของแพลตฟอร์มนี้เพื่อสร้างข้อมูลที่สามารถนำไปปฏิบัติได้เพื่อช่วยการตัดสินใจและวัดประสิทธิภาพการทำงานทุกระดับชั้น ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้เปลี่ยนเป็นการทำงานแบบใช้ข้อมูลเป็นตัวขับเคลื่อน ความสามารถเหล่านี้สามารถใช้งานกับศูนย์ข้อมูลทุกรูปแบบ รวมทั้งผู้ประกอบการ คลาวด์ การใช้เครื่องจักรและระบบอัตโนมัติในการทำงาน และการขยายจำนวนเซิร์ฟเวอร์แบบไฮเปอร์สเกล เป็นเหตุให้ผู้ปฏิบัติการศูนย์ข้อมูลไม่ต้องห่วงเรื่องการจัดการโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพและหันไปใส่ใจด้านการทำให้แน่ใจว่ามีแอพพลิเคชั่นด้านไอทีพร้อมใช้ในการทำธุรกิจ

นอกจากมีฟีเจอร์ใหม่เรื่อง API แล้วแพลตฟอร์ม Trellis รุ่นล่าสุดยังเพิ่มความสามารถในการวางแผน ภายในแพลตฟอร์ม Trellis สมรรถนะใหม่นี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์ค้นหาสมรรถภาพได้ทันที ตอนนี้ผู้จัดการศูนย์ข้อมูลอาวุโสและผู้บริหารจะทราบได้ถึงแหล่งและอัตราการใช้ทรัพยากรของตน เป็นการเพิ่มความสามารถในการตัดสินใจวางแผน ประโยชน์ของฟังค์ชั่นใหม่นี้ยังช่วยให้ทราบข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสมรรถนะของพอร์ตต่างๆทั่วธุรกิจ (เนื่องจากความสามารถในการจัดการการเชื่อมต่อข้อมูลในโครงการที่สร้างขึ้น) และลดเวลาการวางแผนและการใช้งานอุปกรณ์ใหม่ๆ แพลตฟอร์ม Trellis รุ่นใหม่นี้ยังมาพร้อมกับรายงานใหม่ 8 รูปแบบ รวมถึงรายงานสำคัญๆเรื่องการเชื่อมต่อ สถานะการทำงานและการใช้พลังงาน

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชั่น DCIM ของอิเมอร์สันได้ที่ www.EmersonNetworkPower.Asia.

• ข่าวโซลูชั่น
• ข่าวโปรแกรม
• ข่าวอิเมอร์สัน
• ข่าวอินเตอร์เฟซ
• ข่าวแอพพลิเคชั่น
• ข่าวศูนย์ข้อมูล
• ข่าวพาวเวอร์
• ข่าวอิเมอร์สันฯ