นายประเสริฐ บุญประเสริฐ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหัวเขา อำเภอเดิมบางนางบวชจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า องค์การบริหารส่วนตำบลหัวเขา มี 12 หมู่บ้าน เกษตรกรส่วนใหญ่จะปลูกข้าวเป็นหลัก และมีอ้อยเป็นบางส่วนประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ มันประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ ช่วงนี้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนจากการที่ฝนไม่ตกเป็นเวลาเกือบ 2 เดือนมาแล้ว บวกกับที่รัฐบาลสั่งให้ชะลอการทำนาปี และแม้ว่ารัฐบาลไม่สั่งให้ชะลอ เกษตรกรก็ต้องหยุดทำการเกษตรอยู่แล้วเนื่องจากไม่มีน้ำเพียงพอ แต่ที่ทำกันไปก่อนก็เนื่องจากมีฝนตกตั้งแต่ 14 เมษายนที่ผ่านมา มีน้ำทั่วทุ่ง จึงมีการหว่านเมล็ดข้าวตั้งแต่นั้นมา หลังจากนั้นก็ไม่มีน้ำมาอีกเลย ทำให้ต้องวิดน้ำจากชลประทาน และมีการผลัดเวรสูบน้ำจากคลองชลประทานกับเกษตรกรอำเภอดอนเจดีย์ แต่คิดว่ายังไงก็ยังไม่มีน้ำเพียงพอที่จะเลี้ยงต้นข้าวที่ปลูกไว้แล้วแน่นอน จนกระทั่งท่านนายกรัฐมนตรีได้กล่าวเมื่อ 2 วันก่อนว่า จะให้มีการนำน้ำบาดาลมาใช้บรรเทาปัญหาของเกษตรกร ผมก็เห็นว่าน่าจะเป็นหนทางที่ช่วยเกษตรกรได้อีกทางหนึ่ง และกรมทรัพยากรน้ำบาดาลท่านก็รวดเร็วมาก วันนี้เข้ามาถึงพื้นที่และเริ่มเจาะแล้ว พวกเราชาวบ้านหัวไทรย์ หมู่ 4 ก็ดีใจมาก
ด้านนายทศพล ปรึกษา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 บ้านหัวไทรย์ กล่าวว่า การเข้ามาเจาะน้ำบาดาลของกรมทรัพยากรน้ำบาดาลครั้งนี้ จะช่วยให้พื้นที่การเกษตรกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ในพื้นที่ทั้งหมดของบ้านหัวไทรย์รอดพ้นจากปัญหาภัยแล้ง เพราะพื้นที่การเกษตรของบ้านหัวไทรย์ส่วนใหญ่ต้องอาศัยน้ำจากเขื่อนกระเสียว ซึ่ง ณ ขณะนี้ระดับน้ำที่เขื่อนกระเสียวต่ำกว่าเกณฑ์มาก จึงไม่มีการปล่อยน้ำมาให้เกษตรกรแล้ว ตอนนี้ก็ไม่มีใครลงทุนทำนาแล้ว เพราะกลัวปัญหาภัยแล้ง ถ้าจะเริ่มทำนาปีกันได้ก็ต้องรอให้มีการปล่อยน้ำประมาณวันที่ 17 กรกฎาคม 2558 แต่ถ้าเกิดไม่มีฝนตกลงมาก็อาจจะต้องรอกันต่อไป