การศึกษาทางคลินิกของเฮอร์บาไลฟ์พิสูจน์พบน้ำมันปลาร่วมกับอาหารที่จำกัดแคลอรี่และอาหารทดแทนมื้ออาหารปกติมีประสิทธิผลในการจัดการโรคอ้วนลงพุง

เฮอร์บาไลฟ์ บริษัทโภชนาการระดับโลก ได้แถลงข้อมูลจากการศึกษาทางคลินิกที่ได้ดำเนินการในความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ไทเป ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการรับประทานอาหารทดแทนมื้ออาหารปกติ ร่วมกับน้ำมันปลาและอาหารที่มีการควบคุมแคลอรี่ ช่วยในการจัดการน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยในการปรับปรุงอาการที่เกี่ยวเนื่องกับโรคอ้วนลงพุง ในกลุ่มผู้เข้าร่วมในการศึกษาครั้งนี้

นี่เป็นการศึกษาทางคลินิกครั้งแรกสำหรับกรณีลักษณะนี้ในไต้หวัน และผลการศึกษาได้แสดงให้เห็นว่าระยะเวลากว่า 12 สัปดาห์ ผู้เข้าร่วมการศึกษามีน้ำหนักลดลงโดยเฉลี่ย 4.5 กก. รอบเอวลดลง 6.5 ซ.ม. และสัดส่วนไขมันในร่างกายลดลง 2.5% นอกจากนี้ระดับน้ำตาลในเลือด, ระดับไตรกลีเซอไรด์, และระดับไลโปโปรตีนคอเลสเตอรอลความหนาแน่นต่ำ(LDLc) ถูกควบคุมได้โดยวิธีนี้

น้ำมันปลาร่วมกับอาหารที่จำกัดแคลอรี่และอาหารทดแทนมื้ออาหารปกติ มีประสิทธิภาพทางการแพทย์สำหรับการจัดการกับโรคอ้วนลงพุง

การศึกษาทางคลินิกนี้ได้คัดเลือกผู้ป่วยอาสาสมัคร 188 รายที่มีโรคอ้วนลงพุงในประเทศไต้หวัน พวกเขาจะถูกสุ่มจัดให้อยู่ในหนึ่งในสี่กลุ่ม ได้แก่ กลุ่ม"อาหารจำกัดแคลอรี่"; กลุ่ม"อาหารจำกัดแคลอรี่ร่วมกับอาหารทดแทนมื้ออาหารปกติ"; กลุ่ม"อาหารจำกัดแคลอรี่ร่วมกับน้ำมันปลา"; และ กลุ่ม "อาหารจำกัดแคลอรี่ร่วมกับอาหารทดแทนมื้ออาหารปกติและน้ำมันปลา" เพื่อดำเนินการศึกษาผลของอาหารควบคุมในกลุ่มต่างๆ และเฝ้าสังเกตในช่วงระยะเวลา 12 สัปดาห์ ผู้เข้าร่วมเสร็จสิ้นการศึกษาอย่างสมบูรณ์ 179 ราย

ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่า โดยเฉลี่ย ผู้เข้าร่วมจากกลุ่ม "อาหารจำกัดแคลอรี่ร่วมกับน้ำมันปลา" น้ำหนักลดลง 4.5 กก. รอบเอวลดลง 6.5 ซ.ม. และค่าสัดส่วนไขมันในร่างกายลดลง 2.5% นอกจากนี้ ในการเปรียบเทียบกับอีกสามกลุ่มก็พบว่ากลุ่ม "อาหารจำกัดแคลอรี่ร่วมกับอาหารทดแทนมื้ออาหารปกติและน้ำมันปลา" ได้รับผลลัพธ์ที่ดีขึ้นจากเรื่องของค่าน้ำตาลในกระแสโลหิตที่มีค่าดีขึ้นและมีระดับที่คงที่มากขึ้น, ไตรกลีเซอไรด์, LDLc และความดันโลหิตก็มีผลลัพธ์โดยรวมที่ดีขึ้นจากภาวะอ้วนลงพุง

นพ.เดวิด ฮีเบอร์, M.D., Ph.D., F.A.C.P., F.A.S.N. -- ประธานกรรมการสถาบันโภชนาการเฮอร์บาไลฟ์และคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านโภชนาการ -- กล่าวว่า "โรคอ้วนลงพุงเป็นภาวะที่พบได้ระหว่าง 20-30 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใหญ่วัยกลางคนในหลายๆ ประเทศ โดยมีลักษณะจากการที่มีการเพิ่มขึ้นของขนาดรอบเอว, น้ำตาลในกระแสโลหิต, คอเลสเตอรอล และความดันโลหิต โรคอ้วนลงพุงยังเพิ่มความเสี่ยงของโรคเบาหวานและโรคหัวใจอีกด้วย ในกลุ่มคนเอเชีย ภาวะเช่นนี้เป็นเรื่องพบได้มากขึ้นแม้แต่คนที่น้ำหนักตัวปกติก็ตาม

"ผลการวิจัยทางคลินิกที่ได้ดำเนินการในความร่วมมือระหว่างเฮอร์บาไลฟ์และมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ไทเปนับเป็นการศึกษาที่มีความสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิผลของการรับประทานอาหารทดแทนมื้ออาหารปกติร่วมกับกรดไขมันโอเมก้า 3 สำหรับการวางแผนการจัดการน้ำหนักในอาสาสมัครที่มีโรคอ้วนลงพุง โรคอ้วนลงพุงและผลที่ตามมาส่อเค้าอย่างมีนัยสำคัญต่อภาวะทางกายภาพและทางเศรษฐกิจ เอเชียเป็นศูนย์กลางของการแพร่ระบาดของโลก มันทำให้เรามีกำลังใจที่จะเห็นว่าสิ่งที่เราเชื่อจะเป็นข้อมูลที่มีความหมายที่จะช่วยหน่วงเวลา หรือแม้กระทั่งช่วยป้องกันการลุกลามไปสู่ปัญหาสุขภาพที่รุนแรงโดยการปรับปรุงภาวะโรคอ้วนลงพุง ในการศึกษานี้และการวิจัยอื่นๆ ที่ได้ดำเนินการโดยบริษัทเป็นความทุ่มเทของเฮอร์บาไลฟ์ที่จะช่วยต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคอ้วนทั่วโลก

ผลจากการศึกษาได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ใน "Journal of Functional Foods," วารสารที่มีชื่อเสียงในด้านการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์อาหาร และ "European Journal of Clinical Nutrition," วารสารโภชนาการที่มีชื่อเสียงในระดับนานาชาติสูงและต่ำสำหรับการจัดการน้ำหนัก

นพ.เดวิด ฮีเบอร์ ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า อาหารที่มีค่า GI ต่ำนั้นสามารถลดการหลั่งอินซูลินในร่างกายมนุษย์, ลดการผลิตแคลอรี่และช่วยลดการก่อตัวของไขมัน นอกเหนือจากนี้ น้ำมันปลายังอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า-3 ซึ่งสามารถลดกลไกปฏิกิริยาการอักเสบ และช่วยลดระดับของ LDL และไตรกลีเซอไรด์ เพื่อป้องกันการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด และมีประสิทธิภาพในการปรับปรุงโรคอ้วนลงพุง

• ข่าวเฮอร์บาไลฟ์
• ข่าวคลินิก
• ข่าวน้ำมัน
• ข่าวไต้หวัน
• ข่าวโรคอ้วน
• ข่าวไทเป
• ข่าวแพทยศาสตร์
• ข่าวมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์