ระหว่างนายนพพล มิลินทางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย จำกัด (มหาชน) และนายอุปกิต ปาจรียางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อันดามันเพาเวอร์ แอนด์ ยูทิลิตี้ จำกัด
โดยนายนพพลได้เปิดเผยว่า การเข้าซื้อหุ้นของ ANDAMAN POWER ในครั้งนี้ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นของ UPA แล้ว เนื่องจากทาง UPA เห็นว่าจะเป็นโอกาสที่ดียิ่งในการลงทุนธุรกิจพลังงานในประเทศเมียนมาร์
"โดยเฉพาะในเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย (Dawei Special Economic Zone: DSEZ) ซึ่งถือเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพสูงใน ASEAN และโรงไฟฟ้าแห่งนี้ก็ถือเป็นโรงไฟฟ้าแห่งแรกในเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ถือเป็นก้าวสำคัญของ UPA ที่จะก้าวเข้าสู่การลงทุนธุรกิจพลังงานเต็มตัว รวมทั้งเป็นการสร้างโอกาสให้ UPA ได้เข้าไปลงทุนธุรกิจพลังงานในเมียนมาร์ ซึ่งมีโครงการโรงไฟฟ้าอีกหลายแห่งในอนาคต เพื่ออนาคตที่มั่นคง แข็งแกร่ง และสร้างรายได้ ผลตอบแทนที่ดีให้แก่บริษัท และผู้ถือหุ้น ของบริษัท UPA ขณะนี้โรงไฟฟ้าแห่งนี้สามารถเดินเครื่องและจ่ายกระแสไฟฟ้าให้แก่รัฐทะนินทายีตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าเรียบร้อยแล้ว"
ด้านนายอุปกิต ปาจรียางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อันดามันเพาเวอร์ แอนด์ ยูทิลิตี้ จำกัด ได้เปิดเผยว่า โครงการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติแห่งนี้ ถือเป็นความร่วมมือและการลงทุนด้านพลังงานที่ประสบความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมเป็นโครงการแรกในเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย (Dawei Special Economic Zone: DSEZ) ประเทศเมียนมาร์
โดยบริษัทจัดสรรการลงทุนในกิจการโรงไฟฟ้าในเขตเศรษฐกิจพิเศษนี้ออกเป็นหลายระยะ ซึ่งในระยะแรกได้แก่ โรงไฟฟ้าขนาดกำลังการผลิต 20 เมกะวัตต์ ได้เริ่มเดินเครื่องจ่ายกระแสไฟฟ้าเรียบร้อยแล้ว ระยะต่อไปได้แก่ โรงไฟฟ้าขนาดกำลังการผลิต 150-200 เมกะวัตต์ จะเริ่มดำเนินการขั้นต้นก่อนการก่อสร้างได้ในเร็วๆนี้ และโรงไฟฟ้าขนาดกำลังการผลิตอีก 300 เมกะวัตต์ ซึ่งจะอยู่ภายใต้เงื่อนไขเกี่ยวกับปริมาณก๊าซธรรมชาติที่ใช้เป็นเชื้อเพลิง ที่ทางบริษัทจะเจรจาทำความตกลงกับทางรัฐบาลเมียนมาร์ในปี 2560
ดังนั้นการเข้าซื้อหุ้น ANDAMAN POWER ของบริษัท UPA ในครั้งนี้เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ จะเสริมศักยภาพการลงทุนของ UPA ด้านพลังงานประเทศเมียนมาร์ ได้เป็นอย่างดี ซึ่งเมียนมาร์ยังมีความต้องการใช้ไฟฟ้าอีกมาก โดยเฉพาะเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการท่าเรือน้ำลึกทวาย (Dawei Deep Sea Port) ที่เป็นโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทย และรัฐบาลเมียนมาร์ ทวายจึงจะเป็นเมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญของภูมิภาคและแหล่งลงทุนใหม่ที่มีศักยภาพสูงของกลุ่มอาเซียนในอนาคตอันใกล้
นอกจากนี้รัฐบาลเมียนมาร์ยังมีโครงการที่จะสร้างโรงไฟฟ้าอีกกว่า 1,000 MW. ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษทวายในเร็วๆนี้ ซึ่งบริษัท UPA จะมีโอกาสอย่างสูงในการเสนอตัวเข้าเป็นผู้ดำเนินการโครงการดังกล่าว
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit