พักนี้มีข่าวหนาหู "จิ๊บ-วสุ แสงสิง
แก้ว" สนิทสนม "
จ๊ะจ๋า-พริมรตา เดชอุดม" เป็นพิเศษ งานนี้หนุ่มใหญ่เลยขอเปิดปากความสัมพันธ์คุมเครือ กลางรายการ "
โชว์แตกฟอง" ทาง"ช่อง 2" ข่าวลึก
บันเทิงร้อน ชมเปาะจ๊ะจ๋าสดใสร่าเริง เรื่องน้อง
หนิมเอเอฟ กับจ๊ะจ๋าเป็นไง ? "จริงๆ ก็เป็นข่าวมาเกือบปีแล้วนะ ไม่ได้เป็นข่าวใหม่อะไร จริงๆ ต้องบอกว่ารู้จัก เวลาเรากลับมาอยู่ในวงการ เราก็มีโอกาสที่จะรู้จักมักคุ้น กับเพื่อนๆ น้องๆ อีกหลายๆ ท่านแล้วก็ มีโอกาสที่จะใกล้ชิดกันจากการงานสนิทสนมกัน ผมเองในปัจจุบันก็ต้องบอกว่าเคยผ่านชีวิตสมรสมาครั้งหนึ่งเมื่อ ตอนนั้นอายุ 20 กว่าๆ หลังจากนั้นเราก็กลับมาอยู่คนเดียวแล้วก็ยังไม่มีโอกาสได้ไปศึกษา หรือลงตัวกับใครอย่างเป็นทางการ สถานะเป็นทางการคือยังโสดอยู่ เพราะฉะนั้นโอกาสที่เราจะสนิทสนม คุ้นเคยกันแล้วก็พูดคุยกันจากสถานะเพื่อนร่วมงานมาเป็นคนที่คุยกันใกล้ชิดมากขึ้นมันก็สามารถเกิดขึ้นได้ เพราะเราเองก็ไม่ได้เป็นคนที่จะปิดตัวเองในเรื่องนี้ 100% เพียงแต่ว่าในการกระทำอย่างนั้นเราก็ต้องมีขอบเขตชัดเจน มีเส้นที่เหมาะสม ที่เราจะไม่ได้ไปก้าวข้ามมัน" ตามข่าวคือหนิมโกรธที่ไม่เคยให้เกียรติเปิดตัวว่าเป็นแฟน ? "คำว่าแฟนแล้วแต่คนจะมองนะครับ แต่สำหรับผมเองรุ่นที่ผมโตมา ถ้าเราใช้คำคำนี้ปั๊บมันเหมือนมัดข้อมือทุกส่วน ทุกฝ่ายเลย แล้วเราเองก็ไม่ได้อยู่ในวัยสีชมพู วัยหวาน เดี๋ยวมีแฟน เดี๋ยวเลิกกับแฟน เราเป็นผู้ใหญ่แล้ว แล้วก็เคยผ่านชีวิตคู่มาแล้ว เพราะฉะนั้นคำคำนี้ผมจะระวังมาก เคยพูดหลายๆ ที่ว่ารุ่นนี้แล้วถ้าเรียกใครว่าแฟน แปลว่าผมจะแต่งเลย ผมใช้คำนั้นเลย ไม่อยากให้มันเกิดผลกระทบตามหลัง สมมุติถ้าเกิดว่าศึกษากันไปแล้วไม่ใช่ แล้วก็ห่างกันไปก็ไม่อยากให้คำนี้ต้องไปพ่วงติดอยู่กับฝั่งผู้หญิง" พูดตรงนี้เคลียร์มาก แต่เคลียร์กับน้องเขารึป่าว ทำให้น้องเขาเข้าใจผิดรึป่าว ? "ข่าวที่เกิดขึ้น จริง 10 เดือนแล้ว อันนี้เรากำลังคุยเรื่องที่มันผ่านมาแล้ว แต่ว่าหลังจากนั้นที่เขาใช้โซเชี่ยลโพสขี้นมาด้วยอารมณ์ตอนนั้นซึ่งอาจจะกำลังโกรธ ซึ่งมันก็วูบวาบขึ้นมา เพราะว่าเขาก็เพิ่งจะยี่สิบเศษๆ เราก็เข้าใจ ทีนี้หลังจากนั้น จริงๆ ก็ไม่กี่วันพอเขานิ่งลงแล้ว อารมณ์เย็นลงแล้ว เขาก็เสียใจ เขาก็ขอโทษบอกว่าเขาไม่น่าไปใจร้อนใช้โซเชี่ยลอย่างนี้เพราะว่ามันเกิดผลกระทบตามมาอย่างที่เจ้าตัวก็นึกไม่ถึงเหมือนกันว่าจะกลายเป็นข่าวใหญ่โตขึ้นมา ซึ่งเราเองก็พูดกับเขาตรงๆ ว่าไม่เป็นไร เข้าใจเพราะว่าเราผ่านวัยอย่างนั้นมาแล้ว(ยิ้ม) เข้าใจว่าเวลาอารมณ์มันหวือหวาขึ้นมาบางทีมันก็อยากจะระบาย" เรื่องมันผ่านไปแล้ว ? "ผ่านไปแล้วครับ ล่าสุเดเพิ่งจะมีข่าวลงในหนังสือพิมพ์ฉบับใหญ่ว่าร่วมงานกันได้สบาย"แล้วจ๊ะจ๋าล่ะ ? "มาทีละประเด็นใช่มั้ย(หัวเราะ) กับคุณจ๊ะจ๋าก็สนิท นี่เขายังฝากสวัสดีมาเลยเนี่ย กับคุณจ๊ะจ๋าคืออย่างนี้ครับ ด้วยงานตลอดเมื่อปีที่แล้วคุณจ๊ะจ๋ามาเป็นพิธีกรประจำให้กับวงเดอะพาเลส ซึ่งมีองค์กรประกันชีวิต 1 องค์กร เรียกว่า ว่าจ้างเหมาทั้งปีเดินทางกัน 20 กว่าจังหวัด ทุกสัปดาห์ก็ไปกับเดอพาเลส เขาเป็นพิธีกร วงเราก็ไปร้องเพลงกัน ก็สนิทกันแน่นอนอยู่แล้ว เหมือนถ่ายละครอะไรอย่างนี้ เจอกันก็พูดคุยกัน พอสนิทก็มีการพูดคุย มีภาพถ่ายกับที่วงออกมา" มันไม่ใช่แค่ภาพงานกับวง แต่มีดอกไม้ไปให้จ๊ะจ๋าตลอด เวลามีงาน ? "อันนี้ไม่ปฏิเสธเลย อย่างที่บอกว่าสนิทกัน อย่างตอนนี้ถ้าถามจากจ๊ะจ๋าเขาก็ใช้คำจากปากเขาเองกว่าเป็นคู่หู(ยิ้ม) เพราะว่าพูดคุยกันได้ในหลายๆ เรื่องแล้วก็จะมีงาน อย่างปีนี้ทางองค์กรก็จ้าซ้ำอีก ก็ยังเดินสายกันอยู่ทุกอาทิตย์" สรุปคืออะไร ? "สรุปก็คือเพื่อนกัน แล้วก็เป็นเพื่อนที่สนิท ใช้คำว่าเพื่อนต่างวัยแล้วกัน แล้วก็พูดคุยปรึกษาหารือกันได้ในหลายๆ เรื่อง" เขาเป็นคนน่ารักนะ ? "ใช่ครับ เป็นคนสดในร่าเริง" เขาทำให้เรากลายเป็นเด็ก ? "เท่านี้เด็กพอรึยังครับ(หัวเราะ) ผมคิดว่าอย่างนี้ครับ ตอนนี้ผมกลับเข้ามาทำงานในวงการบันเทิงมากขึ้น หลายๆ คนที่เราเคยรู้จัก ตอนนี้ก็มาเป็นผู้ผลิต ผู้จัด จริงๆ วงการมันไม่ได้กว้างทุกคนรู้จักกันหมด ทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลัง แล้วเดี๋ยวไม่ทางใดก็ทางหนึ่งเราก็ต้องมีโอกาสไปเจอกัน เพราะฉะนั้นเรารักษาความรู้สึกที่ดีๆ คิดบวกๆ กันไว้ดีที่สุด แต่ว่าไม่ต้องไปจับจ้องมากกว่าถ้าสนิทกันมันต้องเป็นเรื่องเชิงหนุ่มสาว ผู้หญิงผู้ชายอย่างเดียว 100% จริงๆ ข้อสรุปตรงนั้นมันก็ยังไม่เกิดขึ้น" ใช้คำว่าดูๆ กันไป ? "เอาเป็นว่าแต่ละวันอยู่ในจุดที่เราสบายใจที่สุดดีกว่า" มาที่เรื่องสุขภาพยังหล่อไม่เปลี่ยน ทำยังไง ? "ความหล่อหรือความแก่(หัวเราะ) อย่างหนึ่งอาจจะเป็นเรื่องกีฬาที่เป็นกิจวัต กิจกรรมของเรามาตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว เราก็จะพายามดูแลตัวเองไม่ให้ขาดจากการออกกำลัง เขาบอกว่ากีฬาเป็นยาวิเศษนี่ของจริงนะครับ เพราะว่า ออกกำลังแล้วมี่ความสุข ร่างกายมันก็จะหลั่งสารมีความสุขออกมา" เมื่อก่อนตีเทนนิส ตอนนี้ยังเล่นอยู่ไหม ? "ยังตีเทนนิสอยู่ครับ ยังแข่งอยู่ด้วยแต่แข่งในระดับซีเนียร์นะครับ ในระดับที่อายุเกิน 45 ก็ยังมีแข่งกันอยู่ ฝึกซ้อมตลอดครับ" อาหารการกิน ? "เรื่องรับประทานนี่เปลี่ยนเยอะเลย สมัยก่อนเราชอบรับประทานเนื้อเดี๋ยวนี้เนื้อสัตว์ เนื้อแดง แป้ง ลดเยอะมาก มาเน้นพวกผัก พวกปลาแทน สมัยก่อนเขาบอกว่ากินบาทอ้วนสลึง แต่เดียวนี้กินสลึงจะอ้วนเป็นบาตร(ยิ้ม) ต้องระวัง เราเป็นในสิ่งที่เรากิน ให้ร่างกายรับของเบาๆ ย่อย ง่ายๆ การพักผ่อนสำคัญ พยายามนอนให้ได้คืนหนึ่ง 7 ชั่วโมงเป็นต้นไป มันจะมีผลกับสุขภาพร่างกาย