มร. เจมส์ โฮแกน ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินเอทิฮัด กล่าวระหว่างงานแถลงข่าวเปิดเที่ยวบินใหม่ที่เชื่อมต่อเมืองหลวงของสองประเทศในกรุงมาดริดว่า เครือข่ายการบินระดับโลกของเอทิฮัดสร้างประโยชน์สำคัญให้แก่สเปนและนำเสนอเที่ยวบินเชื่อมต่อทั้งไปและกลับจากสเปนที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น
งานแถลงข่าวเปิดเที่ยวบินดังกล่าวได้รับเกียรติจาก ดร.ฮิสซ่า อับดุลลา อาห์เหม็ด อัล-โอไทบา เอกอัครราชทูตสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ประจำราชอาณาจักรสเปนเข้าร่วมงาน
มร. เจมส์ โฮแกน กล่าวว่า “การบริการเที่ยวบินสู่กรุงมาดริดรองรับนักเดินทางเพื่อธุรกิจและนักท่องเที่ยวชาวสเปนให้สามารถเดินทางสู่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ดียิ่งขึ้นด้วยการรองรับผู้โดยสาร 2,096 ที่นั่งต่อสัปดาห์ พร้อมนำเสนอการเชื่อมต่ออันสะดวกสบายทั้งขาเข้าและขาออกผ่านศูนย์กลางการบินในอาบูดาบีของเราไปสู่ตลาดที่มีความสำคัญต่างๆในเครือข่ายการบินอันแข็งแกร่งทั่วโลกของสายการบินเอทิฮัด”
เที่ยวบินสู่กรุงมาดริดให้บริการ 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์โดยเครื่องบินแอร์บัส เอ330-200 ซึ่งรองรับผู้โดยสาร 262 คน โดยมี 2 ชั้นโดยสาร ได้แก่ชั้นบิสิเนสคลาสจำนวน 22 ที่นั่งและที่นั่งชั้นอีโคโนมี่คลาสจำนวน 240 ที่นั่ง
นักเดินทางสามารถเดินทางจากกรุงมาดริดโดยหยุดเปลี่ยนเครื่องหนึ่งครั้งที่อาบูดาบีและเชื่อมต่ออย่างสะดวกสบายไปยังจุดหมายปลายทาง 30 แห่งในรัฐอ่าวอาหรับ แอฟริกา อนุทวีปอินเดีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และออสเตรเลียด้วยสายการบินเอทิฮัดและสายการบินพันธมิตร
จากมาดริด นักเดินทางสามารถเชื่อมต่อด้วยสายการบินแอร์ ยูโรป้า เครือข่ายพันธมิตรสายการบินร่วมของเอทิฮัดไปสู่ 8 เมืองในสเปน ได้แก่บาร์เซโลน่า บิลเบา แกรนคานาเลีย ลา คอรุนญ่า ลานซาโรเต พัลมา เดอ มัลยอร์กา เตเนริเฟและวีโก รวมถึงซานโต โดมินโก เมืองหลวงของสาธารณรัฐโดมินิกัน
นอกจากนี้ยังจะมีการเชื่อมต่อกับอีกหลายเมืองของสเปนซึ่งเกิดขึ้นจากการลงนามข้อตกลงระหว่างสายการบินเอทิฮัดกับเรนเฟ(Renfe) ผู้ให้บริการรถไฟของสเปนเมื่อเร็วๆนี้ โดยข้อตกลงดังกล่าวนำเสนอทางเลือกให้แก่นักเดินทางด้วยรถไฟจากมาดริดสู่ 28 เมืองของสเปน รวมถึงบาร์เซโลน่า มาลาก้าและบาเลนเซีย นักเดินทางยังสามารถเชื่อมต่อระหว่างบาร์เซโลน่าและจุดหมาย 8 แห่งในสเปน
“การเพิ่มทางเลือกให้แก่นักเดินทางแสดงให้เห็นถึงโครงสร้างธุรกิจของเราที่มีความแข็งแกร่งและครอบคลุม กลยุทธ์การสร้างพันธมิตรช่วยให้เราทำงานร่วมกับสายการบินรายอื่นๆเพื่อนำเสนอเที่ยวบินเพิ่มมากขึ้น ไปยังจุดหมายปลายทางที่มากขึ้นและการเชื่อมต่อได้มากกว่าเดิม” โฮแกนกล่าว
นอกจากการให้บริการนักเดินทางเพื่อธุรกิจและนักท่องเที่ยว มร. เจมส์ โฮแกน กล่าวเสริมด้วยว่าการบริการใหม่ระหว่างกรุงอาบูดาบีและกรุงมาดริดยังจะขับเคลื่อนและสนับสนุนความสัมพันธ์เชิงการค้าและวัฒนธรรมระหว่างสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และสเปน
“ปัจจุบัน มีบริษัทสเปนประมาณ 1,000 แห่งและมีชาวสเปนกว่า 1,200 คนอาศัยและทำงานอยู่ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยตัวเลขดังกล่าวกำลังเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของสเปนในรัฐอ่าวอาหรับ ด้วยมูลค่าการค้าที่เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวในช่วงห้าปีที่ผ่านมา จาก 1 พันล้านยูโรในปี พ.ศ.2552 เป็น 1.9 พันล้านยูโรในปี พ.ศ. 2557” มร. เจมส์ โฮแกน กล่าวความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการลงทุนระหว่างสองประเทศมีอัตราเติบโตอย่างก้าวกระโดดในหลากหลายอุตสาหกรรม ทั้งปิโตรเคมี การก่อสร้าง การศึกษา สุขภาพ การเดินทางขนส่งและการท่องเที่ยว ตลอดจนธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม นอกจากนี้ สเปนยังลงทุนมหาศาลในด้านการผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเล การบำบัดน้ำและโครงการหมุนเวียนในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
เพื่อสนับสนุนการค้าที่กำลังขยายตัว สายการบินเอทิฮัดนำเสนอบริการการขนส่งสินค้าทางคาร์โก้ 96 ตันต่อสัปดาห์ทั้งไปและกลับจากมาดริด ช่วยกระตุ้นให้ธุรกิจของสเปนเข้าถึงตลาดทั่วโลกได้มากยิ่งขึ้น เสริมสร้างประโยชน์ด้านผลิตผลทางเศรษฐกิจให้แก่สเปน?
คำบรรยายภาพ: มร. เจมส์ โฮแกน ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินเอทิฮัดกล่าวระหว่างงานแถลงข่าวในกรุงมาดริด เมื่อเร็วๆนี้
คำบรรยายภาพ: สายการบินเอทิฮัด เปิดให้บริการเที่ยวบินตรงระหว่างกรุงอาบูดาบีและกรุงมาดริด
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit