ดร.กฤษฎา ไชยสงวนมิตต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แลมป์ตั้น ไลท์ติ้ง 2001 จำกัด ผู้ผลิตหลอดไฟและอุปกรณ์ส่องสว่างของคนไทยมานานกว่า 30 ปี เปิดเผยว่า ต้องยอมรับว่าปัจจุบันตลาดการผลิตหลอดไฟมีอัตราการแข่งขันสูง ทั้งจากบริษัทผู้ผลิตในประเทศรวมถึงอินเตอร์แบรนด์ทั้งรายเดิมและรายใหม่ๆ โดยเฉพาะจากประเทศจีน ซึ่งการที่จะรักษาส่วนแบ่งตลาดและความเป็นผู้นำอันดับต้นๆ ของเมืองไทย บริษัทจึงต้องปรับตัวให้สอดรับกับภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลาอีกทั้งไม่หยุดยั้งที่จะคิดสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อสร้างจุดแตกต่างด้านการตลาดและเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์และล่าสุดกับการพัฒนาหลอดไฟแอลอีดี (LED) ที่ติดตั้งวงจรป้องกันฟ้าผ่า (Surge Protection) ขึ้นเป็นรายแรกและรายเดียวของประเทศ ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจยิ่งขึ้นเมื่อเลือกใช้หลอดแอลอีดีจากแลมป์ตั้น โดยขณะนี้เริ่มวางจำหน่ายแล้ว และวางแผนที่จะติดตั้งวงจรดังกล่าวกับหลอดแอลอีดีทุกรุ่นในอนาคต
“ในช่วงฤดูฝนเรามักจะเคยได้ยินได้ฟังข่าวผู้ประสบเหตุฟ้าผ่าเสียชีวิตอยู่บ่อยครั้ง ทำให้เราเกิดแนวคิดว่าทำอย่างไร เราจึงเป็นส่วนหนึ่งในการป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้ โดยเฉพาะให้ตอบโจทย์ลูกค้าในต่างจังหวัดมากขึ้น ทีมวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์จึงร่วมกันพัฒนาติดตั้งวงจรป้องกันฟ้าผ่าขึ้น ซึ่งได้ผ่านการทดสอบแล้วว่ามีประสิทธิภาพอย่างยิ่ง และถึงแม้ว่าการติดตั้งวงจรดังกล่าวจะส่งผลให้ราคาต้นทุนการผลิตสูงขึ้นแต่เรายังคงราคาไว้เช่นเดิมเพราะบริษัทมองว่าหากทำให้ผู้ใช้หลอดไฟแลมป์ตั้นปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินย่อมส่งผลดีต่อภาพลักษณ์บริษัทในระยะยาว” ดร.กฤษฎา กล่าว
ส่วนคุณสมบัติการทำงานของแผงติดตั้งวงจรป้องกันฟ้าผ่า เมื่อเกิดแรงดันไฟฟ้าที่สูงกว่าปกติมากในเวลาฉับพลัน วงจรป้องกันนี้จะทำการตัดไม่ให้กระแสไฟฟ้าเข้าไปทำลายตัววงจรหลัก เมื่อแรงดันกลับมาในสภาวะปกติ วงจรก็จะเปิดให้กระแสไฟฟ้าเข้าสู่วงจรตามปกติได้อย่างฉับไว ยิ่งกว่านั้น เร็วๆนี้ เราจะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์หลอดแอลอีดีอีกหลายชนิด เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายเฉพาะเจาะจง เช่น หลอดแอลอีดีช่วยการเพิ่มการผลิตในภาคเกษตรกรรมและปศุสัตว์
สำหรับกลยุทธ์การตลาดในปี 2558 นี้ บริษัทมุ่งเน้นไปที่การสร้างความรู้ความเข้าใจในการเลือกซื้อหลอดไฟอย่างถูกวิธีแก่ผู้บริโภค เนื่องจาก ปัจจุบันผู้ผลิตหลอดไฟต่างประสบปัญหาการทุ่มตลาดสินค้าคุณภาพต่ำจากต่างประเทศ ซึ่งในข้อเท็จจริงแล้วการเลือกใช้หลอดไฟควรเลือกที่มีอายุการใช้งานยาวนาน และให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยสูงสุดด้วย อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาพฤติกรรมผู้บริโภคพบว่า ส่วนใหญ่เริ่มให้ความสำคัญเรื่องคุณภาพมากกว่าปัจจัยทางด้านราคา ซึ่งหากให้ข้อมูลความรู้ที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์จะมีผลต่อการตัดสินใจซื้อในระยะยาวด้วย เพราะคนส่วนใหญ่มักเลือกแบรนด์ที่ไว้วางใจได้ ประกอบกับปัจจุบันแอลอีดีนั้นปรับราคาลง ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อได้สะดวกขึ้น
ขณะที่สถานการณ์ตลาดแลมป์ตั้นช่วงไตรมาสแรก พบว่า ตลาดยังชะลอตัว แต่เมื่อเข้าสู่ไตรมาสที่ 2 กลับมีสัญญาณที่ดีขึ้นตามลำดับ โดยประเมินว่าทั้งปี 2558 ตัวเลขยอดขายจะเติบโตเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 20 % โดยส่วนใหญ่เป็นยอดขายจากการจัดจำหน่ายในประเทศ ขณะเดียวกันยอดการส่งออก คาดว่าจะเติบโตราว 10% เท่ากับช่วงปี 2557 โดยปีนี้บริษัทจะมุ่งเน้นเพิ่มสัดส่วนตลาดบีทูบี (B2B) และงานโปรเจกต์ต่างๆ มากขึ้น อย่างล่าสุด แลมป์ตั้นได้รับความไว้วางใจจากบริษัทพฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ในการเลือกใช้หลอดแอลอีดีในทุกๆ โครงการของพฤกษา ประจำปี 2558 นับเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจอย่างยิ่งของเรา
ทั้งนี้ ในส่วนของความคืบหน้าโครงการเดอะไบรท์ ไลฟ์สไตล์มอลล์เพื่อชีวิตสุดไบรท์แห่งใหม่ย่านพระราม 2 ขณะนี้การก่อสร้างคืบหน้ากว่า60% ขณะที่ยอดเช่าพื้นที่จากผู้ประกอบธุรกิจร้านค้า ร้านอาหาร สถาบันการเงินและสถานเสริมความงามเกือบเต็ม 100%แล้ว จึงมั่นใจว่าจะสามารถเปิดตัวอย่างเป็นทางการได้ภายในเดือนตุลาคม 2558 ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้อย่างแน่นอน ซึ่งตอนนี้ทางฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์ ได้วางแผนการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดล่วงหน้า ทำให้ภายหลังจากเปิดตัวโครงการเดอะไบรท์ ผู้บริโภคจะได้พบกับกิจกรรมและสีสันความตื่นตาและแปลกใหม่บนถนนพระราม2 ตลอดทั้งปี เรียกได้ว่ามาเติมเต็มไลฟ์สไตล์สุดชิคไม่แตกต่างจากใจกลางเมืองให้เกิดขึ้นที่พระราม2 อย่างแท้จริง
ด้านการร่วมจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์หลอดไฟจากแลมป์ตั้นภายในงาน LED EXPO Thailand 2015 ครั้งนี้ บริษัทมุ่งเน้นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อองค์กร รวมถึงการประชาสัมพันธ์ไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ของเราให้ผู้บริโภคได้รับทราบพร้อมสอดแทรกสาระเรื่องวิธีการเลือกซื้อหลอดไฟอย่างถูกต้อง ซึ่งเชื่อว่าจะได้รับความสนใจจากผู้บริโภครวมถึงภาคธุรกิจต่างๆ เช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit