อพท.๗ แจงมติ ครม. ๒๗ มี.ค.๕๘ แก่ส่วนราชการ จ.สุพรรณบุรีเพื่อสร้างความเข้าใจขับเคลื่อนแผนแม่บทฯ เมืองอู่ทองแบบบูรณาการ

20 May 2015
วันที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๕๘ เวลา ๐๙.๓๐-๑๓.๓๐ น. องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) โดย สำนักงานพื้นที่พิเศษเมืองโบราณอู่ทอง (อพท.๗) จัดสัมมนาเรื่อง “แนวทางการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรี” ณ โรงแรมสองพันบุรี อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี
อพท.๗ แจงมติ ครม. ๒๗ มี.ค.๕๘ แก่ส่วนราชการ จ.สุพรรณบุรีเพื่อสร้างความเข้าใจขับเคลื่อนแผนแม่บทฯ เมืองอู่ทองแบบบูรณาการ

นางศิริกุล กสิวิวัฒน์ รองผู้อำนวยการ อพท.และผู้จัดการสำนักงานพื้นที่พิเศษเมืองโบราณอู่ทอง กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดสัมมนานี้ว่า ต้องการชี้แจงมติ ครม.วันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๘ แก่ผู้บริหารระดับสูงและผู้แทนของหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อให้ขับเคลื่อนโครงการและกิจกรรมภายใต้แผนแม่บทฯ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถตั้งคำของบประมาณและมีการเบิกจ่ายงบประมาณไม่ซ้ำซ้อนกัน ทั้งในฝั่ง อพท.เป็นผู้ตั้งเรื่องเสนอของบประมาณ และฝั่งของส่วนราชการอื่นเป็นผู้ตั้งเรื่องเสนอของบประมาณ โดยมติ ครม.วันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๘ ได้รับทราบและเห็นชอบในหลักการแผนแม่บทบูรณาการบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษ ๔ แห่ง คือ พื้นที่พิเศษอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย-ศรีสัชนาลัย-กำแพงเพชร (อพท.๔) พื้นที่พิเศษเลย (อพท.๕) พื้นที่พิเศษเมืองเก่าน่าน (อพท.๖) และพื้นที่พิเศษเมืองโบราณอู่ทอง (อพท.๗)

นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรียังมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย เป็นเจ้าภาพหลักในการจัดระเบียบพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวและจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ที่พัก ที่จอดรถ ทางเดินและสุขา รวมทั้งมอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นเจ้าภาพหลักในการดำเนินโครงการเกี่ยวกับการอนุรักษ์ฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมบริเวณพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว และให้กระทรวงวัฒนธรรมเป็นเจ้าภาพหลักในการดำเนินโครงการด้านการอนุรักษ์วัฒนธรรมของชุมชนในพื้นที่ ให้กระทรวงคมนาคมเป็นเจ้าภาพหลักร่วมกับกระทรวงพลังงานและกระทรวงมหาดไทยบูรณาการพัฒนาและเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่พิเศษให้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ด้านคมนาคมขนส่งของไทย รวมทั้งมอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นเจ้าภาพหลักในด้านการประชาสัมพันธ์และการตลาดที่สอดคล้องกับนโยบายการท่องเที่ยวปี ๒๕๕๘ เป็นปี “ท่องเที่ยววิถีไทย” (2015 Discover Thainess) และเป็นวาระแห่งชาติ จึงมีความจำเป็นที่หลายภาคส่วนจะต้องส่งเสริม สนับสนุน การทำงานร่วมกันเพื่อให้สามารถดำเนินงานตามมติ ครม. ได้อย่างครบถ้วนและมีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการร่วมกัน

“อพท.๗ ขอความร่วมมือทุกหน่วยงานตามแผนแม่บทฯ เร่งหารือและจัดลำดับความสำคัญโครงการที่จะขับเคลื่อนในปีงบประมาณ ๒๕๖๐ แล้วให้นำเสนอไปที่หน่วยงานระดับอำเภออู่ทองและจังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อให้จังหวัดสุพรรณบุรีจัดประชุมเพื่อบูรณาการแผนงานโครงการภายในเดือน พ.ค.๕๘ แล้วจึงส่งรายละเอียดโครงการกลับมาที่หน่วยงานต้นสังกัดโครงการ หลังจากนั้นหน่วยงานต้นสังกัดโครงการก็จะส่งโครงการมาที่ อพท.๗ ภายในเดือน มิ.ย.๕๘ เพื่อให้ อพท.๗ ประมวลผลและนำโครงการทั้งหมดหารือกับสำนักงบประมาณว่าในปีงบประมาณ ๒๕๖๐ จะมีโครงการและใช้งบประมาณเท่าไหร่อย่างไร หลังจากนั้นในเดือน ก.ค.๕๘ นี้ อพท.๗ จะนัดประชุมทุกหน่วยงานอีกครั้งเพื่อสรุปโครงการและกิจกรรมที่จะดำเนินการในปีงบประมาณ ๒๕๖๐ และเชิญผู้แทนสำนักงบประมาณมาช่วยตอบข้อซักถามเพื่อสร้างความเข้าใจในการขับเคลื่อนแผนแม่บทฯ ร่วมกัน” นางศิริกุล กล่าว

รองผู้อำนวยการ อพท. ยังได้ชี้แจงการขับเคลื่อนแผนแม่บทและแผนปฏิบัติการพื้นที่พิเศษเมืองโบราณอู่ทองในช่วงปี ๒๕๕๗-๒๕๕๘ ว่าในปี ๒๕๕๗ มีความก้าวหน้าในการขับเคลื่อนแผนฯ มากกว่าร้อยละ ๓๔ ส่วนใหญ่เป็นการขับเคลื่อนโครงการต่างๆ ของสำนักงานพื้นที่พิเศษเมืองโบราณอู่ทองซึ่งดำเนินการเองและร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการตามบันทึกข้อตกลงร่วมกัน รวมทั้งสิ้น ๑๓ โครงการ ส่วนการขับเคลื่อนโครงการในปี ๒๕๕๘ มี ๑๙ โครงการ ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนแผนงานทุกยุทธศาสตร์การพัฒนา และคาดการณ์ว่าสิ้นปีงบประมาณ ๒๕๕๘ จะมีความก้าวหน้า ร้อยละ ๔๕ ตามแผนฯ ทั้งนี้ หากรวมโครงการที่จะขับเคลื่อนในปี ๒๕๕๙ อีก ๑๓ โครงการ จะมีโครงการที่ขับเคลื่อนในช่วงระหว่างปี ๒๕๕๗-๒๕๕๙ รวมทั้งสิ้น ๔๕ โครงการ หรือคิดเป็นความก้าวหน้าในการขับเคลื่อนแผนแม่บทฯ ร้อยละ ๖๓ ของการดำเนินงานตามแผนแม่บทฯ (แผนแม่บทฯ ๑๐ปี สิ้นสุดปี ๒๕๖๖)

HTML::image(