ทียูเอฟ เผยกำไรสุทธิไตรมาสแรก ปี 2558 เติบโตถึง 58.7 เปอร์เซนต์

18 May 2015
กำไรสุทธิไตรมาสแรกของปี 2558 เท่ากับ 1,507 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58.7 เปอร์เซนต์จากปีก่อน ซึ่งมาจากกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนและยอดขายที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง

ยอดขายรวมของบริษัทไตรมาสแรกอยู่ที่ 28,606 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.4 เปอร์เซนต์ เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีก่อน เป็นผลมาจากการควบรวมกิจการบริษัทเมอร์อไลอัลซ์ บริษัทคิง ออสการ์ และบริษัทโอไรออน

กำไรสุทธิก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีเงินได้ และค่าเสื่อม เพิ่มขึ้น 19.2 เปอร์เซนต์ จากไตรมาสแรกของปี 2557

บริษัท ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ทียูเอฟ รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกประจำปี 2558 มีกำไรสุทธิเท่ากับ 1,507 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58.7 เปอร์เซนต์ จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน สำหรับผลการเติบโตอย่างโดดเด่นของกำไรสุทธิในไตรมาสนี้ เป็นผลมาจากกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนและยอดขายที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน บริษัทสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นที่เท่ากับ 13.8 เปอร์เซนต์ ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกันกับไตรมาสสี่ของปี 2557

สำหรับยอดขายรวมของกลุ่มบริษัทในไตรมาสแรกนี้เท่ากับ 28,606 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.4 เปอร์เซนต์ จากยอดขาย 27,948 ล้านบาทในช่วงเดียวกันกับปีที่แล้ว แม้ว่าช่วงไตรมาสแรกจะอยู่ในช่วงโลว์ซีซั่น นอกจากนี้การเติบโตของยอดขายควรจะต้องโดดเด่นมากกว่านี้ หากไม่ใช่เป็นผลกระทบมาจากราคาวัตถุดิบปลาทูน่าและกุ้งที่ทำให้มูลค่าของยอดขายลดลง และส่งผลต่อธุรกิจรับจ้างผลิต

อย่างไรก็ดี จากการเติบโตของกำไรสุทธิที่โดดเด่นนี้ เป็นผลมาจากกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนและผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจแบรนด์ในยุโรปอันแข็งแกร่งนี้

ถึงแม้ว่าค่าของเงินยูโรที่อ่อนตัว จะช่วยสร้างกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนในไตรมาสนี้ แต่ขณะเดียวกันก็มีผลต่อยอดขายและการทำกำไรให้กับบริษัทจากธุรกิจของเราในยุโรป ซึ่งปกติแล้วในช่วงเวลานี้ ถือเป็นช่วงที่ธุรกิจในยุโรปมักจะมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง

ภาพรวมสัดส่วนรายได้ของ 6 กลุ่มธุรกิจแบ่งตามผลิตภัณฑ์หลักของทียูเอฟในไตรมาสแรกของปี 2558 ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง กลุ่มธุรกิจปลาทูน่ามีสัดส่วนรายได้เท่ากับ 38 เปอร์เซนต์ กลุ่มธุรกิจกุ้งและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับกุ้ง 28 เปอร์เซนต์ กลุ่มธุรกิจปลาซาร์ดีนและปลาแมคเคอเรล 6 เปอร์เซนต์ กลุ่มธุรกิจปลาแซลมอน 9 เปอร์เซนต์ กลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง 6 เปอร์เซนต์ และกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มและผลิตภัณฑ์อื่นๆ 13 เปอร์เซนต์ เมื่อพิจารณาจากตัวเลขจะเห็นว่า ยอดขายของธุรกิจกุ้งและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับกุ้ง และธุรกิจปลาซาร์ดีนและปลาแมคเคอเรลเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากการรับรู้รายได้ของบริษัท เมอร์อไลอันซ์ บริษัท คิง ออสการ์ และบริษัท โอไรออนที่บริษัทฯ ได้เข้าซื้อกิจการไปเมื่อปีที่แล้ว

ขณะที่สัดส่วนรายได้ของกลุ่มธุรกิจทียูเอฟ ประจำปี 2558 แบ่งตามตลาดมีดังนี้ สหรัฐอเมริกา มีสัดส่วน 43 เปอร์เซนต์ ยุโรป 28 เปอร์เซนต์ ตลาดในประเทศ 9 เปอร์เซนต์ ญี่ปุ่น 6 เปอร์เซนต์ และตลาดอื่นๆ รวม 14 เปอร์เซนต์

สำหรับสัดส่วนรายได้ในตลาดสหรัฐอเมริกาที่โดดเด่น ส่วนหนึ่งมาจากผลิตภัณฑ์แช่แข็งที่ช่วยให้บริษัทมีการเติบโตถึง 43 เปอร์เซนต์ของยอดขายรวม นอกจากนี้ ยอดขายภายในประเทศของไตรมาสแรกนี้ ยังเพิ่มขึ้น 25 เปอร์เซนต์ เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีก่อน

นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ทียูเอฟ ผู้นำด้านนวัตกรรมผลิตภัณฑ์อาหารทะเลระดับโลก กล่าวว่า แม้ว่าไตรมาสนี้จะเป็นช่วงโลว์ซีซั่น แต่เราสามารถบริหารจัดการการดำเนินธุรกิจได้เป็นอย่างดี ทำให้กำไรสุทธิเติบโตถึง 58.7 เปอร์เซนต์ ซึ่งเป็นผลการดำเนินงานที่น่าพึงพอใจเป็นอย่างมาก

สิ่งที่เรามุ่งเน้นในปีนี้คือ การบรรลุเป้าหมายรายได้ที่ 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมาจากการขยายการเติบโตของ 6 กลุ่มธุรกิจหลัก รวมถึงการพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทของเราทั่วโลก นายธีรพงศ์ กล่าวสรุป

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit