คำแถลงเนื่องในงานรำลึกวีรชนพฤษภาประชาธิปไตย

18 May 2015
มูลนิธิวีรชนประชาธิปไตยซึ่งก่อตั้งโดยมีที่มาจากเหตุการณ์พฤษภาคม 2535 มีดำริจะจัดงานรำลึก 23 ปี พฤษภาประชาธิปไตยเพื่อแสดงกตัญญูกตเวทิตาต่อบรรดาวีรชนผู้สูญเสียในเหตุการณ์ดังกล่าวเมื่อ 23 ปีที่ผ่านมา และเพื่อให้สังคมได้ตระหนักถึงความเสียสละอันยิ่งใหญ่ และการรู้รักในคุณค่าประชาธิปไตยที่แลกมาด้วยชีวิต แม้กิจกรรมรำลึกนี้จะจัดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์บ้านเมืองในช่วงเปลี่ยนผ่านและมีรัฐบาลชั่วคราวที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งก็ตาม เพื่อระลึกถึงวีรภาพความอาจหาญของวีรชน และสืบทอดเจตนารมณ์ของผู้สละชีวิตเพื่อต่อสู้กับเผด็จการในครั้งนั้น และสะท้อนการยืนยันในหลักการประชาธิปไตยที่เรายึดมั่นมาโดยตลอด

นายอนุสรณ์ ธรรมใจ ประธานกรรมการมูลนิธิวีรชนประชาธิปไตย เปิดเผยว่า การจัดงานรำลึกเนื่องในโอกาสครบรอบ 23 ปีเหตุการณ์พฤษภาคม 2535 โดยมูลนิธิวีรชนประชาธิปไตยในวันอาทิตย์ที่ 17พฤษภาคมนั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. กระตุ้นให้สาธารณชนเห็นความสำคัญของเหตุการณ์พฤษภา 2535 และ ตอกย้ำบทเรียนเพื่อให้สังคมหลีกเลี่ยงความรุนแรงนองเลือดจากวิกฤตการณ์ทางการเมือง 2. ตอกย้ำและสืบทอดเจตนารมณ์ของวีรชนเดือนพฤษภาในการต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพ หลักการประชาธิปไตยและผู้นำประเทศมาจากประชาชนและนายกรัฐมนตรีมาจากการเลือกตั้ง 3. ส่งเสริมกิจกรรมในเครือข่ายองค์กรประชาธิปไตยที่เข้าร่วม 4. เสนอบทบาทที่ชัดเจนของมูลนิธิฯตามเจตนารมณ์ของวีรชนพฤษภาให้เป็นที่ประจักษ์

นายอนุสรณ์ กล่าวว่า ในปีนี้ ทางมูลนิธิได้จัดงานในรูปแบบสหปาฐกถาโดยเชิญผู้มีบทบาทในเหตุการณ์รณรงค์ประชาธิปไตย ณ เวลานั้น เช่น เรืออากาศตรี ฉลาด วรฉัตร นายแพทย์สันต์ หัตถีรัตน์ นายแพทย์เหวง โตจิราการ และครูประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ อดีตกรรมการสมาพันธ์ประชาธิปไตยมาเป็นองค์ปาฐก และเสนองานวัฒนธรรม ศิลปดนตรี บทกวีเพื่อประธิปไตย ตลอดจนการวางหรีดรำลึกในวันอาทิตย์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 เวลา 13.00 น. ณ อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา (ตึกหลัง) และวางหรีดรำลึกวีรชนผู้สละ เวลา16.00 น. ณ. ลานประติมากรรมประวัติศาสตร์ประชาธิปไตย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ อย่างไรก็ตาม ทางมูลนิธิได้รับการติดต่อจากนายทหาร คสช. ให้งดจัดกิจกรรมโดยเฉพะปาฐกถา และ ได้มีนายทหารพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาเยี่ยมที่สำนักงานมูลนิธิวีรชนประชาธิปไตยจำนวนหนึ่ง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิได้ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี ทางนายทหารจาก คสช. ต้องการให้งดจัดกิจกรรมโดยอ้างว่าเหตุการณ์บ้านเมืองยังไม่สงบจึงไม่อยากให้จัดกิจกรรมสัมมนาทางการเมือง ทางมูลนิธิได้ให้ร่วมมือโดยงดจัดกิจกรรมปาฐกถา แต่ขอจัดกิจกรรมวางหรีดเพื่อเป็นการรำลึกถึงผู้สละชีวิตให้กับการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของประเทศนี้

ทั้งนี้การจัดกิจกรรมปาฐกถาในครั้งก่อนช่วงปลายเดือนเมษายน ทางมูลนิธิได้ให้ความร่วมมือกับ นายทหารจาก คสช. ในการงดจัดกิจกรรมเปิดห้องประชุมนวมทอง ไพรวัลย์ ซึ่งเป็นกิจกรรมภายในของมูลนิธิเพื่อรำลึกถึงวีรชนที่สละชีวิตเพื่อหลักการประชาธิปไตยไปแล้วครั้งหนึ่ง การใช้ชื่อห้องประชุมเพื่อเป็นเกียรติแก่สามัญชนผู้เสียสละกล้าหาญในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ทาง คสช.ไม่ให้จัด มูลนิธิก็ได้ให้ร่วมมืองดจัดทันที ประธานมูลนิธิวีรชนประชาธิปไตยจึงขอความร่วมมือมาทาง คสช.บ้าง โดยอยากให้ คสช.ช่วยกำกับให้การร่างรัฐธรรมนูญเป็นไปตามหลักการประชาธิปไตย ไม่สืบทอดอำนาจ และคืนอำนาจให้ประชาชนโดยคืนสู่ประชาธิปไตยและการเลือกตั้งตามกรอบเวลาที่ประกาศเอาไว้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทางคสช. จะให้ความร่วมมือกับมูลนิธิเช่นเดียวกับ ที่มูลนิธิให้ความร่วมมือกับ คสช. เพื่อความปรองดองสมานฉันท์ เพื่อกลับคืนสู่ประชาธิปไตยอย่างสันติสุข

นายอนุสรณ์ ธรรมใจ กล่าวย้อนไปในอดีตว่า เหตุการณ์พฤษภาคมมหาโหด 2535 เป็นเหตุการณ์ที่ประชาชนเคลื่อนไหวประท้วงรัฐบาลที่ พล.อ.สุจินดา คราประยูร เป็นนายกรัฐมนตรี และต่อต้านการสืบทอดอำนาจของคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) ระหว่างวันที่ 17- 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2535 ซึ่งเป็นการรัฐประหารรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2534 อันนำไปสู่เหตุการณ์ปราบปรามและการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารกับประชาชนผู้ชุมนุม มีผู้เสียชีวิตกว่า 40 คนและบาดเจ็บจำนวนกว่า 600 คน รวมทั้งมีผู้สูญหายจำนวนมาก เหตุการณ์ดังกล่าวนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง

นายอนุสรณ์กล่าวว่า สังคมไทยโดยเฉพาะผู้อำนาจรัฐควรเรียนรู้จากบทเรียนเพื่อหลีกเลี่ยงความรุนแรงนองเลือดจากการสลายการชุมนุมและการทำร้ายผู้ชุมนุม เพราะหลังเหตุการณ์พฤษภาคม 2535 ก็ยังมีเหตุการณ์จากการสลายการชุมนุมเกิดขึ้นเป็นระยะๆ โดยครั้งรุนแรงที่สุด คือ เหตุการณ์เดือนพฤษภาคม 2553 มีผู้เสียชีวิตถึง 98 คน ส่วนเหตุการณ์เดือนพฤษภาในปี พ.ศ.2535นั้น มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 44 ราย ดังมีรายนามดังต่อไปนี้กฤษฎา เนียมมีศรี:ถูกตีและถูกกระสุนปืนกิตติกรณ์ เขียวบริบูรณ์:ถูกกระสุนกิตติพงษ์ สุปิงคลัด:ถูกกระสุนเกรียงไกร จารุสาร:ถูกกระสุนกอบกุล สินธุสิงห์:ถูกกระสุนจักรพันธ์ อัมราช:ถูกกระสุนจักราวุธ นามตะ:ถูกกระสุนเฉลิมพล สังข์เอม:สมองบอบช้ำชัยรัตน์ ณ นคร:ถูกกระสุนซี้ฮง แซ่เตีย:ถูกกระสุนณรงค์ ธงทอง:ถูกกระสุนทวี มวยดี:ถูกตีศีรษะทวีศักดิ์ ปานะถึก:ถูกกระสุนนคร สอนปัญญา:ถูกกระสุนบุญมี แสงสุ่มบุญมี วงษ์สิงโต:ถูกกระสุนบุญคง ทันนา:ถูกกระสุนปรัชญา ศรีสะอาด:ถูกกระสุนประสงค์ ทิพย์พิมล:ถูกกระสุนปรีดา เอี่ยมสำอางค์:ถูกกระสุนพิพัฒน์ สุริยากุล:ถูกกระสุนภูวนาท วิศาลธรกุล:ถูกกระสุนภิรมย์ รามขาว:ถูกกระสุนมะยูนัน ยีดัม:ถูกกระสุนมนัส นนทศิริ:ถูกกระสุนวีระ จิตติชานนท์:ถูกกระสุนวงเดือน บัวจันทร์:ถูกกระสุนวีรชัย อัศวพิทยานนท์:ถูกกระสุนศรากร แย้มประนิตย์:ถูกกระสุนสมชาย สุธีรัตน์:ถูกกระสุนสำรวม ตรีเข้ม:ถูกกระสุนสาโรจน์ ยามินทร์:ถูกกระสุนสมเพชร เจริญเนตร:ถูกกระสุนสุชาต พาป้อ:ถูกกระสุนสุรพันธ์ ชูช่วยสมาน กลิ่นภู่:ถูกกระสุนสัญญา เพ็งสา:ถูกกระสุนหนู แก้วภมร:ถูกกระสุนอภิวัฒน์ มาสขาว:ถูกกระสุนเอกพจน์ จารุกิจไพศาล:ถูกกระสุนเอียน นิวมีเก้นไม่ทราบชื่ออีก 3 ราย รวม 44 ราย?