นายอดิศร สิงห์สัจจะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทวินไพน์ คอนซัลติ้ง จำกัด ในฐานะบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า การออกพันธบัตรครั้งนี้จะเป็นการเสนอขายพันธบัตรสกุลเงินบาทครั้งที่ 4 ของกระทรวงการเงิน สปป.ลาว นับตั้งแต่ออกจำหน่ายครั้งแรกเมื่อเดือนพฤษภาคม 2556 โดยสปป.ลาวเป็นรัฐบาลต่างชาติประเทศแรกที่ได้รับอนุมัติให้ออกพันธบัตรสกุลเงินบาท ทั้งนี้ การจำหน่ายพันธบัตรของกระทรวงการเงินสปป.ลาวที่ผ่าน ๆ มาได้รับการตอบรับอย่างดีจากนักลงทุนสถาบันของไทย รวมทั้งกลุ่มผู้ลงทุนรายใหญ่ เพราะเป็นทางเลือกใหม่ในการลงทุนของนักลงทุน สำหรับการเสนอขายพันธบัตรครั้งที่ 4 นี้ กำลังอยู่ระหว่างเตรียมการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รวมทั้งอยู่ระหว่างการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ซึ่งแม้ว่าการออกพันธบัตรดังกล่าวจะยังได้รับยกเว้นการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ เนื่องจากกระทรวงการเงิน สปป.ลาว มีคุณสมบัติเทียบเท่าองค์กรภาครัฐต่างประเทศ แต่เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้นักลงทุน ทางกระทรวงการเงิน สปป.ลาว จึงได้ให้บริษัททริส เรทติ้ง ดำเนินการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของพันธบัตรครั้งนี้ ซึ่งจะได้แจ้งผลให้นักลงทุนทราบต่อไป ทั้งนี้คาดว่าจะเสนอขายให้นักลงทุนได้ประมาณเดือนมิถุนายนนี้ ผ่านธนาคารพาณิชย์ชั้นนำของไทย
ที่ผ่านมา กระทรวงการเงิน สปป.ลาว ได้มีการจัดงานสัมมนา Economy of Lao PDR and Investment Opportunity for Thai เมื่อกลางเดือนพฤษภาคม 2558 ที่ผ่านมา เพื่อเป็นการให้ข้อมูลสปป.ลาวแก่นักลงทุน ที่ได้ลงทุนในพันธบัตรของกระทรวงการเงิน สปป.ลาวรุ่นที่ผ่าน ๆ มา รวมทั้งเป็นการให้ข้อมูลเบื้องต้นแก่นักลงทุนรายใหม่ ที่สนใจลงทุนในพันธบัตรรุ่นต่อไป ทั้งนี้ สปป.ลาวมีความมั่นคงในการเมืองอย่างมาก และมีการพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างมั่นคงในช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา โดยมีอัตราการเติบโตของ GDP ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2552-2556) เฉลี่ยอยู่ที่ 7.9% ซึ่งปัจจัยที่สนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจประกอบไปด้วย 4 ส่วนหลัก คือ ภาคอุตสาหกรรม ภาคเกษตรกรรม ภาคบริการ และรายได้จากภาษีขาเข้า ขณะที่เงินเฟ้อปี 2556 อยู่ที่ 6.4% และมีการควบคุมอัตราเงินเฟ้อไว้อยู่ในระดับตัวเลขหลักเดียว นอกจากนี้ สปป.ลาวยังมีความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติต่าง ๆ อาทิ ทองคำ ทองแดง ไฟฟ้าพลังน้ำ ฯลฯ และเป็นผู้ส่งออกพลังงานที่สำคัญ โดยมีลูกค้ารายใหญ่ คือ ไทย จีน และเวียดนาม
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit