สำหรับสาเหตุหลักเกิดจากน้ำทะเลหนุนสูงในแม่น้ำบางปะกง ทำให้น้ำดิบที่นำมาผลิตน้ำประปามีค่าความเค็มสูงเกินค่ามาตรฐานถึง 8 เท่า (ในช่วงสูงสุด) ขณะนี้ อีสท์ วอเตอร์ ได้ประสานการประปาบางคล้า เพื่อช่วยส่งน้ำประปาจากประปาฉะเชิงเทรา และประปาบางปะกง ไปบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ที่ประสบปัญหาในอำเภอบ้านโพธิ์ ได้แก่ ชุมชนตำบลแสนภูดาษ ตำบลคลองประเวศ ตำบลสนามจันทร์ ตำบลลาดขวาง ตำบลเทพราช และตำบลบางกรูด รวมถึงได้นำรถน้ำดื่มเคลื่อนที่ระบบ RO (Reverse Osmosis) วิ่งให้บริการชาวบ้านที่เดือดร้อนเพื่อเป็นการช่วยแก้ปัญหาในเบื้องต้นแล้ว
อย่างไรก็ตาม ปัญหาดังกล่าวจะเกิดในช่วงฤดูร้อนของทุกปี (เมษายน-พฤษภาคม) เนื่องจากเป็นช่วงหน้าแล้งทำให้เกิดน้ำทะเลหนุนสูง น้ำดิบที่นำมาผลิตน้ำประปาจึงมีค่าความเค็มเกินมาตรฐาน ส่งผลต่อน้ำประปาที่ผลิตออกมามีรสกร่อย ดังนั้น หนทางแก้ปัญหาระยะยาวของพื้นที่ดังกล่าวแบบเบ็ดเสร็จ ก็คือการจัดหาแหล่งน้ำดิบที่มีคุณภาพ ซึ่ง อีสท์ วอเตอร์ มีการลงทุนในระบบเครือข่ายท่อส่งน้ำดิบมากกว่า 20 ปี และครอบคลุมในพื้นที่ภาคตะวันออกถึง 400 กิโลเมตร ใช้เงินลงทุนกว่า 12,000 ล้านบาท จึงมีความพร้อมที่จะให้บริการน้ำดิบและน้ำประปาที่สามารถรับประกันทั้งในด้านปริมาณน้ำที่เพียงพอและคุณภาพที่ได้มาตรฐานอย่างแน่นอน โดยพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา อีสท์วอเตอร์ได้ก่อสร้างท่อเชื่อมโยงจากแม่น้ำบางปะกงไปยังอ่างเก็บน้ำบางพระ ระยะทางกว่า 60 กิโลเมตร
ด้าน นายวันชัย หล่อวัฒนตระกูล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ กล่าวเสริมอีกว่า “อีสท์ วอเตอร์ ได้คำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมในการดูแลคุณภาพน้ำดิบให้ได้สูงกว่ามาตรฐานที่กำหนด โดยได้ริเริ่มนำเทคโนโลยีโอโซนมาติดตั้งเพื่อเพิ่มคุณภาพของน้ำดิบที่ประปาฉะเชิงเทรา ประปาบางปะกง และประปาบ่อวินก่อนเดินหน้าขยายให้ครบทุกกิจการประปาเพื่อยกระดับคุณภาพการให้บริการประปาเพิ่มขึ้น”
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit