นายสัมพันธ์ วงษ์ปาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ถิรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TRT ผู้ผลิต จำหน่าย และซ่อมบำรุง หม้อแปลงไฟฟ้าทุกขนาดของคนไทยเพียงแห่งเดียว เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 ปี 2558 ว่า บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีรายได้จากการขายทั้งสิ้น 479.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 68.99 ล้านบาท หรือ 16.82 % เนื่องจากบริษัทฯ มีการส่งมอบสินค้าในส่วนของบริษัทย่อยเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีรายได้จากการบริการ 23.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 17.27 ล้านบาท หรือ 298.79 % ปัจจัยที่ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นสูง เนื่องจากรายได้การซ่อมหม้อแปลงขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น แต่บริษัทฯ มีกำไรขึ้นต้นจากการขายในไตรมาสนี้ 14.64 % ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 24.67 % เนื่องจากราคาขายโดยทั่วไปปรับลดลง และจากตลาดโดยรวมมีการชะลอการสั่งซื้อ จึงทำให้มีการแข่งขันสูง และสินค้าในส่วนของบริษัทย่อย มีโครงสร้างกำไรขั้นต้นต่ำกว่าสินค้าเดิม
สำหรับกำไรขั้นต้นจากการบริการลดลงเท่ากับ 66.27 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 90.48 % เนื่องจากงานที่ส่งมอบเป็นการบริการทั่วไป ซึ่งมีกำไรขึ้นต้นเฉลี่ยตามตลาด นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายในการขายเท่ากับ 27.35 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 0.56 ล้านบาท หรือ 2.00 % และมีค่าใช้จ่ายในการบริหาร 76.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 9.11 ล้านบาท หรือ 13.51 % เนื่องจากค่าใช้จ่ายของบริษัทย่อยมีธุรกิจเพิ่มขึ้น
นายสัมพันธ์ กล่าวต่อไปว่า ในเดือนที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ส่ง บริษัท แอล.ดี.เอส. เมทัลเวิร์ค จำกัด เป็นบริษัทในเครือ ซึ่งเป็นผู้นำในด้านอุตสาหกรรมการผลิตตัวถังหม้อแปลงขนาดใหญ่ และงานโครงสร้างเหล็กคุณภาพสูง เข้าร่วมกับ บริษัท เอ็น.ดี.พี. เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด จัดตั้ง กิจการร่วมค้า แอล.ดี.เอส. – เอ็น.ดี.พี โดยมีสัดส่วน60:40 เพื่อร่วมประมูลงานดำเนินการและบำรุงรักษาระบบสายพานขนถ่ายดินเส้นที่สอง (Operation and Maintenance Agreement relating to the Waste Line 2) ซึ่งบริษัท ไฟฟ้าหงสา จำกัด ได้มอบความไว้วางใจให้ กิจการร่วมค้า แอล.ดี.เอส. – เอ็น.ดี.พี เป็นผู้ดำเนินงานตามสัญญาดังกล่าว โดยสัญญานี้มีมูลค่ากว่า 1,316 ล้านบาท ระยะเวลารวม 4.5 ปี สิ้นสุดสัญญาในเดือนธันวาคม 2562 และหากทั้งสองฝ่ายสามารถบรรลุข้อตกลงในปีที่2561 ก็จะสามารถต่อสัญญาการดำเนินการ และบำรุงรักษาระบบสายพานขนถ่ายดินเส้นที่ 2 ไปได้อีกด้วย
“จากการที่ “ถิรไทย” ได้ประกาศแผนธุรกิจ 5 ปี เมื่อปี 2555 สำหรับปี 2556-2560 ที่ตั้งเป้าการขยายขอบเขตธุรกิจทั้งด้านการผลิต และจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้า และธุรกิจอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับระบบการผลิตและส่งต่อพลังงานไฟฟ้าให้มีรายได้รวม 5,000 ล้าน ซึ่งธุรกิจอื่นจะผ่านทางบริษัทย่อย ได้แก่ บริษัท ถิรไทย อี แอนด์ เอส จำกัด, บริษัท แอล.ดี.เอส. เมทัลเวิร์ค จำกัด จะมีสัดส่วนประมาณร้อยละ 30 ของรายได้รวม ซึ่งในส่วนของบริษัท แอล.ดี.เอส. เมทัลเวิร์ค จำกัด ก็ได้ดำเนินการมีความคืบหน้ามาเป็นลำดับ และคาดว่าจะมีรายได้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่า ในปี 2560 จะสามารถทำรายได้รวมแตะที่ 5,000 ล้านบาทได้แน่ ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ มี Backlog แล้ว 1,874 ล้านบาท และยังได้เข้าร่วมประมูลงานอย่างต่อเนื่องในวงเงินมูลค่ากว่า 8,900 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการไฟฟ้านครหลวง 2,600 ล้านบาท การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 2,500 ล้านบาท และการไฟฟ้าฝ่ายผลิต 300 ล้านบาท และในส่วนของภาคเอกชนภายในประเทศอีก 1,600 ล้านบาท และส่งออกประมาณ 1,600 ล้านบาท และงานประมูลของบริษัทย่อยอีกกว่า 300 ล้านบาท บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถชนะการประมูลงานได้มากกว่า 20-25%” นายสัมพันธ์ กล่าวสรุปในตอนท้าย
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit