เอพิคอร์ ERP 10 คือซอฟต์แวร์วางแผนทรัพยากรองค์กรล่าสุดจาก เอพิคอร์ ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชั่นซอฟต์แวร์สำหรับธุรกิจจากประเทศสหรัฐอเมริกา เอพิคอร์ ERP 10 ถูกออกแบบบนหลักการสำคัญ 5 ประการ ได้แก่ การเพิ่มทางเลือกในการใช้งาน การทำงานร่วมกัน การตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลง ความง่ายในการใช้งาน และการรองรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ เอพิคอร์ ERP 10 จึงเป็นโซลูชั่นอันชาญฉลาดสำหรับบริษัทที่ต้องการยกระดับความสามารถในการแข่งขันในตลาดอาเซียนที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว
เมื่ออายุเฉลี่ยของพนักงานฝ่ายปฏิบัติงานด้านการผลิตสูงขึ้น หมายถึงบริษัทในภาคการผลิตกำลังเผชิญกับความท้าทายที่จะดึงดูดพนักงานรุ่นใหม่ๆ
เคร็ก ชาร์ลตัน รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป เอพิคอร์ เอเชียแปซิฟิก โอเปอร์เรชั่น กล่าวว่า “เราเชื่อมั่นว่า มืออาชีพในอุตสาหกรรมการผลิตที่ให้ความสำคัญกับข้อมูลในการตัดสินใจ จะต้องการโซลูชั่น ERP ไม่ว่าพวกเขาจะทำงานที่ใดก็ตาม พวกเขาคาดหวังว่าจะมีเทคโนโลยีให้พวกเขาใช้งาน และบริษัทที่ไม่มีโซลูชั่น ERP จะพบกับความท้าทายในการสรรหาพนักงานรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพ”วิธีการหนึ่งที่จะช่วยบริษัทสรรหาพนักงานรุ่นใหม่ คือ การใช้เทคโนโลยีในที่ทำงาน ในปัจจุบัน พนักงานรุ่นใหม่ต้องการให้นายจ้างจัดเตรียมการเข้าถึงเทคโนโลยีในที่ทำงาน เช่นเดียวกับที่พวกเขาใช้เทคโนโลยีในชีวิตประจำวันเวลาอยู่บ้าน
ผลก็คือ บริษัทที่กำลังมองหาพนักงานรุ่นใหม่ๆ ต้องคำนึงถึงการนำเทคโนโลยีที่ปรับใช้ได้ง่ายมาใช้เพื่อดึงดูดและรักษาพนักงานรุ่นใหม่ซึ่งเติบโตมาในยุคดิจิทัล ดร. วิลเลียม ลี ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสำหรับธุรกิจ ผู้ร่วมก่อตั้งและหัวหน้าส่วนงานฝึกอบรม บริษัทสมาร์ท เมโธโดโลยี บริษัทที่ปรึกษาจากประเทศสิงคโปร์ ที่ช่วยให้หลายบริษัทเติบโตในภูมิภาคอาเซียน กล่าว
ดร. ลี ร่วมงานกับเอพิคอร์ในการให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการในอาเซียน เกี่ยวกับซอฟต์แวร์ ERP ซึ่งช่วยในด้านการเพิ่มผลกำไรให้แก่ผู้ประกอบการ ด้วยวัตถุประสงค์นี้เอง เอพิคอร์ จึงได้จัดกิจกรรมพิเศษถ่ายทอดสดผ่านเครือข่ายเว็บแคสต์ (webcast) ภายใต้หัวข้อ “เทรนด์เทคโนโลยีที่สำคัญ ที่จะช่วยพลิกโฉมการปฏิบัติงานเชิงธุรกิจของผู้ประกอบการ” ในวันที่ 14 มิถุนายน ที่จะถึงนี้ เวลา 8:30 น. ตามเวลาในประเทศไทย ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนออนไลน์ได้ที่นี่
“ผู้ประกอบการในอาเซียนจำเป็นต้องใช้ซอฟต์แวร์ ERP เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน นอกจากนั้นพนักงานรุ่นใหม่ยังต้องการและเล็งเห็นถึงความจำเป็นของเทคโนโลยีสำหรับธุรกิจในที่ทำงาน” ดร. ลี กล่าว “พนักงานเหล่านี้จะรู้สึกผิดหวังหากไม่มีเทคโนโลยีที่ว่านี้ แต่ถ้าหากบริษัทมีเทคโนโลยี ERP ที่ดีให้แก่พนักงาน พวกเขาจะกลายมาเป็นสินทรัพย์อันแข็งแกร่งขององค์กร”
ดร. ลี ได้ร่วมมือกับเอพิคอร์ ผู้นำในการผลักดันผู้ประกอบการในอาเซียนในการพัฒนาธุรกิจด้วยซอฟต์แวร์ ERP ดร. ลี กล่าวว่า เอพิคอร์ ERP 10 ได้รับความสนใจจากพนักงานรุ่นใหม่ เนื่องจากพนักงานเหล่านี้ต้องการเชื่อมต่อกับโลกออนไลน์และได้รับข้อมูลข่าวสาร เหมือนที่พวกเขาได้รับผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์เมื่อพวกเขาอยู่ที่บ้าน หรือผ่านทางอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ในเวลาส่วนตัว
เมื่อพิจารณาจากสถิติประชากรในภูมิภาคอาเซียน พบว่าข้อมูลเชิงลึกที่ ดร. ลี นำเสนอสอดคล้องและเหมาะสมกับสถานการณ์ในภูมิภาคนี้เป็นอย่างมาก
ประชากรกลุ่มคนทำงานในอาเซียนเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มประเทศ “อาเซียน 6” ซึ่งได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม ในประเทศเหล่านี้ ประชากรกลุ่มคนทำงานมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 23 ถึง 35 ปี
“ค่าตอบแทนการทำงานสูงและสิทธิประโยชน์จูงใจที่มีมูลค่ามากอาจไม่เพียงพออีกต่อไป สำหรับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่กำลังก้าวเข้าสู่วัยแรงงานและจะกลายเป็นกลุ่มคนกลุ่มใหญ่ที่สุดในตลาดแรงงาน บริษัทต้องสำรวจซอฟต์แวร์ที่กำลังใช้อยู่ และทำให้แน่ใจว่าเทคโนโลยีที่มีอยู่จะสามารถสร้างบรรยากาศในการทำงานอย่างมีส่วนร่วมและเป็นอิสระต่อกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่พนักงานรุ่นใหม่กำลังมองหา บริษัทที่ยังคงใช้ซอฟต์แวร์ที่ล้าสมัยอาจถูกมองข้ามโดยพนักงานที่มีศักยภาพเหล่านี้” ดร. ลี กล่าว
เส้นแบ่งระหว่างเทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับผู้บริโภค และเทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับองค์กรธุรกิจ กำลังเลือนลางลงทุกขณะ เมื่อพนักงานรุ่นใหม่นำเครื่องมือสื่อสารมาใช้ในที่ทำงานและคาดหวังว่าเทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับธุรกิจจะสามารถตอบสนองได้เช่นเดียวกับเทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับผู้บริโภค ซอฟต์แวร์ ERP เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เกิดการปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพ มีความต่อเนื่อง และสนับสนุนความร่วมมือในทีมอีกด้วย ดร. ลี กล่าวเพิ่มเติม
“ซอฟต์แวร์ ERP เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ หรือคน Gen-M” ดร. ลี กล่าว “มันคือซอฟต์แวร์เพื่อการทำงานร่วมกัน เพื่อการแบ่งบันข้อมูลข่าวสารและข้อมูลเชิงลึก”
ดร. ลี กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกเหนือไปจากการดึงดูดคนทำงานรุ่นใหม่แล้ว ความยืดหยุ่น และการตอบสนองอย่างรวดเร็วต่อตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป เป็นสิ่งสำคัญในการเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด บริษัทจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีที่ปรับเปลี่ยนได้ง่ายและมีความคล่องตัว เพื่อช่วยให้ทำงานได้รวดเร็วและสะดวกยิ่งขึ้น
ในประเทศไทย เอพิคอร์ ERP ได้ช่วยให้ผู้ประกอบการชาวไทยและต่างชาติ ขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดในระดับภูมิภาค เมื่อผู้ประกอบการขยายธุรกิจเข้าสู่ประเทศเพื่อนบ้าน เช่น พม่า ลาว หรือเวียดนาม บริษัทเหล่านี้ต้องการเครื่องมือเพื่อใช้จัดการการปฏิบัติงานตลอดห่วงโซ่คุณค่า (value chain operations) เอพิคอร์ ERP 10 ช่วยให้บริษัทสร้างความร่วมมือตลอดห่วงโซ่คุณค่า ด้วยการแบ่งปันข้อมูลระหว่างทีมในท้องถิ่น
ความสามารถในการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของเอพิคอร์ ERP 10 ยังช่วยให้บริษัทสามารถจัดการข้อมูลโดยการปลดล็อกศักยภาพของเทรนด์การจัดการข้อมูล และนำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่ได้จากการวิเคราะห์ ผลก็คือ บริษัทสามารถเข้าใจลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น พยากรณ์ทิศทางและผลลัพธ์ทางธุรกิจได้อย่างแม่นยำ และสามารถใช้ข้อมูลในการตัดสินใจได้แบบเรียลไทม์
นอกจากนี้ เอพิคอร์ ERP 10 ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต ซอฟต์แวร์ของเอพิคอร์ต้องการการสนับสนุนจากฝ่ายไอทีน้อย ผู้ใช้สามารถเลือกใช้บริการซอฟต์แวร์ได้ทั้งบนพรีมิส (on premise) หรือบนคลาวด์ หรือใช้สลับไปมาระหว่างแพลตฟอร์มอื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย เนื่องจากซอฟต์แวร์ของเอพิคอร์สามารถทำงานได้บนหลากหลายแพลตฟอร์ม รวมทั้งบนอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่
เอพิคอร์ ซอฟต์แวร์ คอร์ปอร์เรชั่น ได้ขยายธุรกิจมายังภูมิภาคเอเซีย ในปี พ.ศ. 2535 และได้ก่อตั้งสำนักงานแห่งแรกในประเทศมาเลเซีย เอพิคอร์ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 และได้ช่วยผู้ประกอบการชาวไทยและชาวต่างชาติในการใช้ซอฟต์แวร์ ERP ดร. ลี คาดการณ์ว่า บริษัทผู้ผลิตสัญชาติไทยที่ต้องการยกระดับความสามารถในการแข่งขัน จะหันมาใช้เทคโนโลยีดิจิทัลกันมากขึ้น“เมื่อบริษัทผู้ผลิตสินค้าต่างๆ ได้ทดลองใช้ระบบ ERP และเห็นถึงประโยชน์ที่พวกเขาได้รับ พวกเขาจะกลายมาเป็นผู้ใช้งานอย่างสม่ำเสมอ” ดร. ลี กล่าว “กลุ่มคนทำงานรุ่นใหม่นี้จะกลายมาเป็นผู้ใช้งานประจำของซอฟต์แวร์ ERP และนี่คือสัญญาณที่ดีของความสามารถในการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นของภาคการผลิตในภูมิภาคอาเซียน”
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit