มนัสการหลวงพ่อคูณองค์ใหญ่สุดในโลกให้แคล้วคลาดปลอดภัย
จังหวัดนครราชสีมา หรือ ที่เรารู้จักและเรียกติดปากว่าเมืองโคราช มีคำขวัญ “เมืองหญิงกล้า ผ้าไหมดี หมี่โคราช ปราสาทหิน ดินด่านเกวียน เหรียญหลวงพ่อคูณ” เป็นจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ โคราชยังมีวัดบ้านไร่ เป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่งใน อ.ด่านขุนทด เป็นวัดที่มีชื่อเสียงของจังหวัด เป็นสถานที่จำพรรษาของพระเทพวิทยาคม หรือ หลวงพ่อคูณ พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง ในแต่ละวันมีผู้คนจากทุกสารทิศเดินทางมานมัสการหลวงพ่อคูณเป็นจำนวนมาก และที่น่ายินดีสำหรับประชาชนชาวไทย ชาวพุทธ ภายในเดือนมิถุนายนนี้ เมืองโคราชจะมีแหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่ยิ่งใหญ่ ที่น่าภาคภูมิใจของชาวอีสาน แหล่งเรียนรู้มรดกธรรม จุดศูนย์รวมใจชาวพุทธที่มุ่งหน้าท่องเทียวเมืองอีสาน นั่นคือ จุดแวะเที่ยวมนัสการหลวงพ่อคูณองค์ใหญ่ที่สุดในโลกที่ก่อสร้างแล้วเสร็จเดือนมิถุนายนนี้ และเปิดให้คนไทยได้แวะมนัสการ ณ.วัดบุไผ่ หรือวัดบ้านไร 2 อำเภอวังน้ำเขียว แหล่งโอโซนที่เยี่ยมสุดของเมืองไทยวัดบ้านไร่2แหล่งเที่ยวใหม่วังน้ำเขียวประตูสู่อีสาน
วัดบ้านไร่2 แหล่งท่องเที่ยวใหม่ประตูสู่ภาคอีสาน ความภาคภูมิใจของชาวโคราช ที่ประดิษฐานรูปหล่อองค์หลวงพ่อคูณที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่นักท่องเที่ยวจะต้องมากราบไหว้สักการะ เพื่อ เป็นศิริมงคลในการเดินทาง ขอพรให้แคล้วคลาดปลอดภัย
วัดบ้านไร่ 2 เดิมทีคือวันบุไผ่ ตั้งอยู่ตั้งอยู่เลขที่ 105หมู่ 5 ต.ไทยสามัคคี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา มีพระครูสุวัฒน์ชยาทร(เงียบ) เป็นเจ้าอาวาส และพล.ต.ต มหัคฆพันธ์ สุรคุปต์ เป็นประธานกรรมการวัดบุไผ่ เดิมวัดบุไผ่ เป็นเพียงสำนักสงฆ์เท่านั้น เริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ.2495 โดยมีผู้เริ่มก่อตั้งครั้งแรกดังนี้ นายอุดม ณรงค์หนู นายถึก เจสันเทียะ นายหล่อ ชนะภักดิ์ ร่วมกับชาวบ้านช่วยกันก่อสร้างวัดขี้น เดิมมีเนื้อที่ประมาณ 7ไร่ ต่อมาขยายเพิ่มเป็น 21 ไร่ 2งาน สิ่งก่อสร้างเดิมมีดังนี้ กุฏิ 1 หลัง ศาลาการเปรียญ 1 หลัง เมรุ 1 หลัง ศาลาธรรมสังเวช 1 หลัง และห้องน้ำ
วัดบุไผ่แห่งนี้ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เคยได้มาจำพรรษา ที่บ้านประชาชน( บ้านคูณพิทักษ์) และมีดำริให้ปรับปรุงวัด เมื่อปี พ.ศ.2548 ได้รับความอนุเคราะห์สนับสนุนงบ จากพระเทพวิทยาคม หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ โดยการนำของประธานวัดบ้านไร่ พล.ต.ต มหัคฆพันธ์ สุรคุปต์ ขณะนั้นดำรงตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา หารือกับพระเทพวิทยาคม หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ได้เห็นความลำบากของพ่อแม่พี่น้องชาวอำเภอวังน้ำเขียวที่ไม่มีอุโบสถที่จะประกอบศาสนกิจ ต้องลงไปบวชลูกหลานที่ อ.ปักธงชัย และอ.นาดี ดังนั้นหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ จึงมีเมตตาให้ ดำเนินการก่อสร้างอุโบสถวัดบุไผ่ขึ้น โดยมีกำหนดการก่อสร้างอุโบสถให้แล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ.2550 และได้มีการพัฒนาวัดบุไผ่ตามลำดับ
ทุกวันนี้วัดบุไผ่ เป็นวัดบ้านไร่แห่งที่ 2 โดยหลวงพ่อคูณได้สนับสนุนเงินเพื่อใช้ในการก่อสร้างวัดบุไผ่ จำนวนกว่า 30 ล้านบาท ปัจจุบันได้มีการปรับปรุงพัฒนา บูรณะก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง ทั้งสร้างถนนในวัดและรอบวัด รั้วกำแพงวัด ซุ้มประตู ทางเข้าออก หอระฆัง เมรุ หอประปา ห้องน้ำ อาคาร ร้านค้า และ อนาคตกำลังสร้างหอบรรจุอัฐิสูง 30 เมตร และมีทางลาดสำหรับคนพิการ ยาว 50 เมตรบริเวณฐานอาคารใต้รูปหล่อหลวงพ่อคูณ ซึ่งหากแล้วเสร็จจะเป็น ศาสนสถานที่สำคัญ เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ในการประกอบพิธีสำคัญทางศาสนาร่วมกันมนัสการหลวงพ่อคูณองค์ใหญ่สุดในโลก
สำหรับองค์หล่อหลวงพ่อคูณที่ใหญ่ที่สุดของโลกนี้ เป็นรูปหล่อเหมือนหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ หน้าตักกว้าง 9 เมตร สูง 18 เมตร ถือเป็นองค์ใหญ่ที่สุดในโลก จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ เพื่อให้ประชาชนชาว จ.นครราชสีมา และจังหวัดใกล้เคียง ที่มีความเคารพศรัทธาได้กราบไหว้บูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล ทั้งนี้ได้ประกอบพิธีเททองครั้งสุดท้ายเมื่อที่ 19 ตุลาคม 2557 ที่ผ่านมา รูปหล่อเหมือนหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ องค์ใหญ่ที่สุดในโลก ดำเนินการวางศิลาฤกษ์ โดย พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ์ เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2557 และหล่อส่วนเศียรหลวงพ่อคูณยกประกอบเรียบร้อย ปิดทองแท้ 96% ณ มลฑลพิธีวัดบ้านไร่ เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2557 โดยมีหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส มิ.ย.เฉลิมฉลองยิ่งใหญ่พระสังฆราช5 ประเทศร่วมพิธี
ปรากฏการณ์ครั้งแรกในเมืองไทยที่มีพระองค์สังฆราช 5 ประเทศ และผู้นำระดับประเทศ ทั้งผู้ว่าราชการ ผู้นำท้องถิ่น มาร่วมพิธีเฉลิมฉลอง องค์หล่อหลวงพ่อคูณองค์ใหญ่ที่สุดในโลก พร้อมกัน
พล.ต.ต มหัคฆพันธ์ สุรคุปต์ เป็นประธานกรรมการวัดบุไผ่ หรือวัดบ้านไร่2เปิดเผย ว่า การก่อสร้างองค์หล่อหลวงพ่อคูณที่ใหญ่ที่สุดในโลกขณะนี้ มีความคืบหน้ากว่า 80 % คาดแล้วเสร็จพร้อมเปิดงานฉลองยิ่งใหญ่ในวันที่ 13 มิถุนายน 2558 นี้ โดยมีสมเด็จพระสังฆราช 4 ประเทศ คือ ลาว กัมพูชา ศรีลังกา ภูฎาน มาร่วมงานเปิดด้วย ถือเป็นความยิ่งใหญ่และมีความสำคัญที่ได้หล่อรูปหลวงพ่อคูณองค์ใหญ่ที่สุดในโลก ในระหว่างที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ เป็นประวัติศาสตร์ของชาติ สำหรับงานฉลอง จะมีกิจกรรมมากมาย อาทิ พิธีทางศาสนาที่องค์สังฆราช 5 ประเทศเข้าร่วม กิจกรรมร่วมลงชื่อจารึกประวัติศาสตร์ มหรสพ อื่นๆ งานจะมีความยิ่งใหญ่อลังการสมกับการเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดผู้คนมาเยือนและมนัสการเป็นแหล่งให้นักท่องเที่ยวมากราบไหว้เป็นศิริมงคล ขอพรให้แคล้วคลาดปลอดภัยในการขับรถเดินทาง
จุดท่องเที่ยวในวัดบ้านไร 2 มีจุดไฮไลท์สำคัญ รองรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนคือ มีจุดสักการะ คือ องค์รูปหล่อหลวงพ่อคูณองค์ใหญ่ และไหว้พระเทพพิทยาคมองค์จำลองหน้ารูปหล่อหลวงพ่อคูณองค์ใหญ่ และบริเวณวงเวียนเทพวิทยาคมจุติ และบริเวณใกล้เคียงยังมีพระหน้าปรกและเจ้าแม่กวนอิม
ทั้งนี้เพื่อรองรับอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวนั้น มีการปรับภูมิทัศน์วัดให้ร่มรื่นย์มีจุดนั่งพักผ่อน และถ่ายรูป รอบๆวัด มีร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึก 22 คูหา มีห้องน้ำสะอาดบริการ 80 ห้อง อื่นๆ
นอกจากนี้บริเวณฐานใต้องค์รูปหล่อองค์ใหญ่ยังมีห้องโถงใหญ่ ขนาด 30X30 เมตร ไว้สำหรับการปฏิบัติธรรม จัดนิทรรศการด้านศาสนา จัดงานบุญ รวมถึงเป็นวัดแรกที่ให้จัดงานแต่งในวัดได้ด้วย ห้องแห่งนี้มีขนาดใหญ่รองรับแขกได้ถึง300-400 คน
ส่วนกิจกรรมสำคัญของวัดบ้านไร่ 2 นั้นมีตลอดปี เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศ และ เพื่อประชาชนที่ต้องการมาไหว้พระทำบุญกิจกรรมที่สำคัญ คือ ต้นเดือนธันวาคมทุกปีจะมีพิธีอุปสมบทหมู่เฉลิมพระชนพรรษาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และงานพิธีประเพณีทางศาสนาในวันสำคัญต่างๆรวมถึงงานประเพณีงานบุญ และปลายเดือนธ.ค. ถึงต้นม.ค.ประมาณ 10 วันจะเป็นเทศกาลขอพรปีใหม่ ไหว้พระเดินทางปลอดภัย และช่วง 22 ก.พ.จะเป็นช่วงการครบรองวางศิลาฤกษ์องค์หล่อหลวงพ่อคูณและรับการกิจกรรมเทศกาลหน้าหนาวของวังน้ำเขียว และช่วงเดือนเมษายน จะเป็นงานสรงน้ำพระหลวงพ่อคูณองค์ใหญ่ และเดือนตุลาคม ฉลองวันครบรอบจุติหลวงพ่อคูณ และอื่นๆอีกหลายกิจกรรมสร้างรายได้ชุมชนดึงนักท่องเที่ยวสู่อีสานเพิ่ม
หลังจากเปิดเฉลิมฉลองวัดแห่งนี้แล้ว ต่อไปวัดจะเป็นแหล่องท่องเที่ยวใหม่ คาดว่า จะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวมาเยือนวัดบ้านไร่2 เพิ่มมากขึ้น คาดการณ์จะมีรถจอดไหว้หลวงพ่อคูณองค์ใหญ่ขอพรให้แคล้วคลาดปลอดภัยและเป็นศิริมงคล มากกว่า 30 % ของจำนวนรถที่วิ่งผ่านถนนเส้น 504 เพื่อขึ้นสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือลงสู่ภาคกลาง โดยปัจจุบันมีรถยนต์สัญจรผ่านเส้นนี้ในวันปกติกว่า 11,000 คันและช่วงเทศกาลมากถึง 77,000 คัน
สำหรับสถิติยอดนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าสู่อีสานในปี 2558 โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย คาดการณ์ว่า จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวอีสานปีนี้ ประมาณ 27.9 ล้านคน สร้างรายได้ 65,000 ล้านบาท และมีโอกาสเติบโตอีก 20% ทั้งนี้พฤติกรรมนักท่องเที่ยวจะใช้เวลาเที่ยวอีสาน 2 คืน 3 วัน และ90 % จะเดินทางท่องเที่ยวโดยรถส่วนตัว
ทั้งนี้วัดบ้านไร่ 2 แหล่งท่องเที่ยวใหม่นี้ จะสร้างรายได้ทางเศรษฐกิจ และชุมชน เพราะนักท่องเที่ยวที่มาสักการะหลวงพ่อคูณองค์ใหญ่แล้วจะต้องเยือนแหล่งท่องเที่ยวที่มีอยู่รอบวัดหลายๆแห่งอาทิ 'ตำบลไทยสามัคคี' ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่งเช่น‘ศูนย์กลางจำหน่ายเบญจมาศตัดดอก’ ที่ขับรถจากปากทางไทยสามัคคีเข้ามาประมาณ 2 กิโลเมตร ดอกเบญจมาศที่นี่ปลูกโดยเกษตรกรที่อยู่ในเขตหมู่ที่ 5 ละแวกหลัง 'วัดบุไผ่' ของตำบลไทยสามัคคี ทุกๆ เช้าชาวบ้านจะนำผลผลิตของตนมาจำหน่ายกันที่นี่ ซึ่งมีมากมายถึง 40 สายพันธุ์ โดยจะมีการคัดแยกเป็นกลุ่มดอกสีขาว สีเหลือง สีแดง สีม่วง สีส้ม และสีชมพู ซึ่งชาวบ้านจะแยกกันปลูกในที่ทางของตัวเอง โดยแบ่งเป็นแปลงๆ ตามสีสันของดอก นักท่องเที่ยวสามารถแวะชมและเลือกหาดอกไม้ที่ถูกใจติดไม้ติดมือกลับไปได้สร้างบรรยากาศท่องเที่ยววังน้ำเขียวให้คึกคักได้ตลอดปี
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit