พญ.กรุณา อธิกิจ อายุรแพทย์ทั่วไป รพ.ปิยะเวท แนะนำว่า “สำหรับเชื้อไวรัสเมอร์ส ที่แพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ ถือว่าเป็นเรื่องที่คนไทยต้องหันมาตระหนักให้มากขึ้น เพราะยังไม่มีวัคซีนที่สามารถป้องกันหรือยาที่รักษาโรคนี้ได้โดยตรง ทำได้เพียงการรักษาไปตามอาการเพื่อประคับประคองเท่านั้น ในส่วนของการติดต่อจากคนสู่คน จะติดต่อผ่านทางการสัมผัสหรือสารคัดหลั่งจากร่างกายผู้ติดเชื้อ อาทิ น้ำลาย น้ำมูก เหงื่อ เลือด สารคัดหลั่งต่าง ๆ และจะเพิ่มจำนวน แพร่กระจายอย่างรวดเร็วเมื่อไวรัสเข้าไปรวมกับเซลล์ของร่างกายที่อุณหภูมิพอเหมาะ ทำให้เซลล์ที่ติดเชื้อตายลง ระบบการทำงานของร่างกายล้มเหลว โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบทางเดินหายใจ ปอด และไต ผู้ป่วยที่ได้รับเชื้อจะมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ แต่อาการจะทรุดลงอย่างรวดเร็วเมื่อไวรัสแพร่กระจายเข้าสู่ปอด หากลุกลามไปถึงขั้นนั้นอาจจะเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้”
สำหรับประเทศไทยยังไม่พบว่ามีผู้ป่วยจากการติดเชื้อไวรัสนี้ แต่ก็ไม่ควรประมาท เพราะประเทศไทยอยู่ในเขตเส้นศูนย์สูตร มีสภาพอากาศร้อนชื้น ซึ่งไวรัสชนิดนี้ทนทานต่อความร้อน และเจริญเติบโตได้ดีในที่ๆ มีอุณหภูมิสูง และล่าสุดพบผู้ติดเชื้อนี้ในประเทศแถบเอเซียซึ่งไม่ไกลจากประเทศไทยนัก แต่อย่างไรก็ดีแพทย์ยังได้ให้คำแนะนำเพิ่มสำหรับการป้องกันตัวเองจากการติดเชื้อเมอร์ส ว่าถึงแม้จะยังไม่พบเชื้อไวรัสนี้ในไทยแต่ก็ไม่ควรละเลยสุขภาพ ควรหมั่นดูแลสุขอนามัยให้ดี ล้างมือบ่อย ๆ ควรใช้ช้อนกลางในการรับประทานอาหาร หลีกเลี่ยงการไปในที่แออัดหากมีความจำเป็นควรสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง และถ้าพบว่าตนเองมีอาการไข้สูง ไอ มีน้ำมูก หายใจหอบเหนื่อย อาเจียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีประวัติเดินทางมาจากประเทศที่กำลังมีการระบาดของเชื้อไวรัส ในช่วง14 วัน ก่อนเริ่มป่วย ควรรีบมาพบแพทย์ โดยด่วนเพื่อการดูแลรักษาที่ถูกต้องและทันท่วงที และหากไม่มีความจำเป็นควรหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังประเทศที่กำลังมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสในช่วงนี้จะดีที่สุด
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit