เพิ่งจะมีข่าวว่าโดนโจรจี้ชิงรถ
มอเตอร์ไซค์อาจอุกอาจ ขณะกำลังจะเดินทาง
กลับบ้าน สำหรับ
ออดี้ “ออดี้-พสิษฐ์ ธนชัยบุญยรัตน์” นักร้อง
ชื่อดัง แต่โชคดีที่เจ้าตัวไม่ได้เสียทรัพย์สิน และไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว “หนุ่มออดี้” กลับถูกมองว่ากุข่าว สร้างเรื่องเพื่อ “สร้างกระแส” ถูกปล้นปลอบๆ หวังเรียกเรตติ้ง และความเห็นใจ งานนี้รายการ “
คนดังนั่งเคลียร์” ทาง “ช่อง 2” เลยต้องส่งเทียบเชิญถึงนักร้องหนุ่มให้มาเคลียร์ใจ เกี่ยวกับประเด็นร้อนดังกล่าว สรุปเรื่องจริงเป็นอย่างไร สร้างกระแสหรือไม่ ไปฟังจากปากเจ้าตัวกันเลยได้ข่าวถูกจี้ ?“คือผมออกไปถนนเกษตร-นวมินทร์ ในกรุงเทพ ใกล้บ้านผมด้วยครับ”ช่วยเล่าตั้งแต่แรก ?“ผมขี่รถมากจากเส้นเกษตรนวมินทร์หลังจากที่ไปเจอวงดนตรีของผม ก็ขี่รถกลับบ้านตามปกติเพราะว่าเวลามันใกล้เที่ยงคืนแล้ว พอขี่มาถึงแถวๆ แยกปัฐวิกรณ์ถ้าคนอยู่แถวๆ นั้นจะทราบ พอถึงตรงนั้นเราก็เลี้ยวขวาเพื่อเข้าเส้นนวมินทร์มุ่งหน้าไปทางบางกะปิ ก็ขี่แบบนี้บ่อยๆ บางทีอยู่กรุงเทพผมก็จะขี่เวสป้ากันโปรดของผม แล้วคราวนี้คืนนั้นโดยไม่ทันตั้งตัวจริงๆ พอถึงโค้งสุดท้ายก่อนที่จะถึงซอยบ้าน หน้าปกซอยนวมิทร์ 30 โค้งอินทรารักษ์มันเป็นโค้งที่มืดมาก ในรัศมี 200 เมตรผมไม่คาดคิดเลยว่าในขณะที่กำลังจะเลี้ยงโค้ง อยู่ดีๆ ก็มีความรู้สึกเหมือนผีหลอก มีเงามาขนาบข้างแล้วก็มีใครเอามือมากระแทกแถวๆ เอว ซึ่งพอประมวนผลทั้งหมดคือเขาตั้งใจจะมาขโมยรถ มีรถมาประกบ 3น ซ้าย ขวา ด้านหลัง คนที่ซ้อนคันหลังฝั่งขวามือของผม เอื้อมมือมาบิดกุญแจให้ดับ แต่ดึงไม่ได้เพราะมันเป็นทางโค้ง อาจจะเป็นมุมที่มันดึงไม่ได้ ตอนนั้นผมก็งง ผมยังไม่ทราบด้วยซ้ำว่าโดนจี้ ผมยังหันไปพูดเลยว่าขอโทษครับพี่ นึกว่าเราไปเฉี่ยวรถใคร หรือว่าคนเมามาเซโดน เราบอกขอโทษครับพี่ เขาก็บอกเฮ้ยมึงหยุดๆ มึงจอดเลย หน้าตาเอาเรื่องมาก ทุกอย่างมันเร็วมาก พอรู้ทุกอย่างขณะนั้น ผมก็บิดเครื่อง แต่พอบิดอ้าวทำไมเงียบล่ะ พอมองไปที่กุยแจ กุยแจถูกบิดดับ ก็เลยประมวนผลว่าโอเคจะโดนทำร้ายแล้ว มันอุกอาจมากครับ ผมก็เลยตั้งสติแล้วก็บิดกุญแจคืน แล้วก็สตาร์ทมือ เผอิญเวสป้ารุ่นนี้มัน 150 ซีซี มันก็เลยออกตัวค่อนข้างทิ้งห่าง แต่ว่าหันไปมองเขาก็ยังตามอยู่ เขาก็ทำท่าเหมือนจะยิง ผมไม่แน่ใจว่าในมือมีปืนหรือแค่ชี้ ก็ขี่แบบหมอบๆ หนีไปประมาณกิโลหนึ่ง จนกระทั่งเจอแยกกรมที่ดิน เป็นแยกที่ติดไฟแดงพอดี ผมไม่อยากติดไฟแดง เพราะกลัว ผมเลยเลี้ยวซ้าย(ผ่านตลอด) เข้าเส้นศรีบูรพา จนไปถึงแยกนิด้า ด้วยความที่ตกใจ สติแตก หนีอย่างเดียว จนกระทั่งไปเจอด่านตรวจของ สน.บึงกลุ่ม ก็เลยเข้าไปขอความช่วยเหลือ พี่ตำรวจบอกว่ามันเป็นช่วงเปลี่ยนกะพอดี”ตำรวจเขาไปขอให้พาไปดูที่เกิดเหตุเหรอ ? “คืออย่างนี้ครับ หลังจากนั้นพอผมตั้งสติได้ ผมก็ค่อยๆ กลับบ้าน พอกลับบ้านเสร็จทางผู้กำกับ สน.บึงกลุ่ม ผู้กำกับ สน.ลาดพร้าว โทรมาหาผม ถามว่าเมื่อกี๋โดนปล้นใช่ไหม เพราะหลังจากที่เขา(โจร)คลาดจากผม 10 นาที เขาก็ก่อเหตุที่หน้าปากซอยศรีบูรพา 11 กับอีกรายหนึ่ง”มั่นใจได้ไงเป็นรายเดียวกัน อาจจะเป็นแก๊งค์อื่นก็ได้ ?“เพราะว่าผมได้ประสานงานกับตำรวจพื้นที่ทั้ง 2 สน. เรื่องดูวงจรปิด เรื่องตรวจสอบเป็นพยาน ที่เจ้าหน้าที่เอามาให้ดูเป็นกล้องวงจรปิดของเหยื่ออีกรายหนึ่ง คือเขาจะให้ผมดูว่าใช่กลุ่มเดียวกันหรือเปล่า แล้วก็เห็นวิธีการทำร้ายเหยื่อใจกล้องนั้น มันน่ากลัวมาก คือโดนถีบรถให้ล้ม แล้วก็กระชากกระเป๋าผู้หญิงที่ซ้อน แล้วก็ทำร้ายร่างการหนุ่มที่ขี่มา บังคับเอาเงิน เอาโทรศัพท์แล้วก็ยึดเอากุญแจรถไว้ แล้วก็หนีไป แต่ว่าตามไม่ได้เพราะไม่มีกุญแจ แต่สำหรับของผม เพื่อนวิเคราะห์กันว่าน่าจะต้องการขโมยรถ เพราะว่ารถเวสป้า ถ้ามันล้มต้องทำสีทั้งคัน มันจะใช้เงินซ่อมแซมเยอะ เขาก็เลยไม่ได้ถีบรถผม”เขาจะเอารถไปทำอะไร รถแพงเหรอ ?“ก็น่าจะเป็นอย่างนั้นมั้งครับ”หลังจากประสานกับตำรวจ ดูกล้องแล้วยังไง ?“เจ้าหน้าที่ตำรวจกับผมก็ประสานงานกันเพราะว่าคืนนั้นมี ผู้ประสบเหตุเป็นเหยื่อรวมทั้งผมด้วย 3 ราย หลังจากที่ผมหนีมาได้ หลังจากนั้นมีอีก 2 เหตุตอน 00.09 นาที กับ 00.20 นาที ในบริเวณรัศมี 1 กิโลเมตร”ถามจริงๆ โดนปล้นหรือเจอโจทย์เก่า ไปทำอะไรใครไว้ ?“(หัวเราะ)วัยรุ่นครับ แก๊งค์ที่มาปล้นน่าจะอายุไม่เกิน 25 ครับ สิ่งที่ผมคิดคือผมเจอพวกบ้าเลือดที่จะทำร้ายผม ผมเลยบิดหนี ไมได้คิดด้วยซ้ำว่าจะโดนปล้น มาวิเคราะห์ทีหลังถึงจะคิด”ก็ไม่เห็นโดนอะไร ?“อันนี้ถือเป็นเรื่องดี ถ้าวันนี้ผมเสร็จพวกเขา ผมโดนทำร้ายมันอาจจะเป็นข่าวดังกว่านี้ แต่มันจะคุ้มกันไหมครับ ผมอาจจะเสียรถไป หรือแม้กระทั่งเสียชีวิตด้วยซ้ำ ผมมีงานอะไรเต็มไปหมดที่ต้องทำอยู่เรื่อยๆ ฉะนั้นมันคงจะเสียหมด”เวสป้ามันแพงเหรอ ?“เวสป้าตัวนั้นมันเพิ่งออกใหม่ แต่ผมว่ามันไม่ได้อยู่ที่ยี่ห้อหรอกครับ อะไรที่มันมีมูลค่าโจรเอาหมดแหละ”