นายวีระศักดิ์ ขวัญเมือง ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กยท. มีนโยบายพร้อมให้การสนับสนุนเกษตรกรชาวสวนยางและสถาบันเกษตรกรที่ได้รับการขึ้นทะเบียน ในเรื่องของการลงทุนแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า ซึ่งการนำน้ำยางไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ยางเพื่อเพิ่มมูลค่านั้น นับว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่งทั้งภาคเกษตรกรผู้ผลิต และภาคอุตสาหกรรมควบคู่กัน ซึ่งขณะนี้ กยท. อยู่ระหว่างการนำเสนอให้คณะกรรมการบริหารการยางแห่งประเทศไทย พิจารณากำหนดระเบียบข้อบังคับ และวิธีการนำเงินไปช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์อย่างเต็มที่ เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไปตามนโยบายรัฐเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางอย่างเร่งด่วน ทั้งในเรื่องของการปลูกแทน การจัดสวัสดิการแก่พี่น้องชาวสวนยาง การพัฒนาสถาบันเกษตรกร รวมถึงงานวิจัยต่างๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาระบบยางพาราของไทย ซึ่งเป็นเรื่องที่ กยท. ต้องบริหารจัดการตามภารกิจหน้าที่ในการดูแลพี่น้องชาวสวนยางทั่วประเทศ
นายวีระศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ กยท. ต้องเร่งดำเนินการวาระเร่งด่วน เพื่อวางโครงสร้างและจัดบุคลากรให้ลงตัว เพื่อบริหาร กยท. ได้อย่างเต็มกำลังสอดคล้องกับภารกิจทั้งหมดตามพระราชบัญญัติการยางแห่งประเทศไทย พ.ศ.2558 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางให้มีความเป็นอยู่ดีขึ้น ทั้งในด้านการปลูก การแปรรูปและอุตสาหกรรม รวมถึงตลาดยาง และให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านยางพาราในภูมิภาคอย่างเต็มรูปแบบ โดยหลักการสำคัญ กยท. ต้องการให้พี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางมีส่วนร่วมบริหารจัดการ กยท. ให้เป็นหน่วยงานเพื่อพี่น้องเกษตรกรอย่างแท้จริง
ด้านนายมนัส บุญพัฒน์ ตัวแทนกลุ่มวิสาหกิจชุมชน กล่าวว่า กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเป็นกลุ่มที่ได้รับความเดือดร้อนจากการขายและแปรรูปน้ำยาง ซึ่งทางกลุ่มต้องการเข้าร่วมโครงการเงินกู้ 5,000 ล้านบาท ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตและสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรชาวสวนยางซึ่งกฎหมายเดิมนั้นไม่รองรับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนในการเข้าร่วมโครงการ อย่างไรก็ตาม ทาง ค.ร.ม. ได้เร่งดำเนินการช่วยเหลือและมีมติเห็นชอบให้มีการเพิ่มกลุ่มสถาบันเกษตรกรที่เป็นวิสาหกิจชุมชนให้สามารถเข้าร่วมโครงการ 5,000 ล้านบาท กับ ธ.ก.ส. ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทางกลุ่มวิสาหกิจชุมชน จึงถือโอกาสนี้ ขอฝากให้ กยท. สนับสนุนกลุ่มด้วยอีกทางหนึ่ง
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit