นายประพัฒน์ เชยชม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสการตลาดและขาย บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการนิสสัน จีที อคาเดมี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างส่งผู้เข้าแข่งขันทั้ง 6 คน ไปเข้าสุดยอดค่ายปั้นนักแข่งที่สนามซิลเวอร์สโตน ประเทศอังกฤษ ว่าทีมไทยแลนด์ซึ่งเตรียมพร้อมมาอย่างเต็มที่ สามารถฝ่าด่านการทดสอบที่เต็มไปด้วยความเข้มข้นไปได้อย่างดี โดยทุกคนต่างแสดงให้เห็นถึงความกระฉับกระเฉง ใส่ใจต่อการเรียนรู้ ประพฤติตามกฎ กติกา มารยาท ในการเริ่มต้นเป็นนักแข่งได้อย่างน่าชื่นชม
ทั้งนี้การทดสอบที่มีทั้งความพร้อมของร่างกายที่ผู้เข้าแข่งขันทุกชาติจะต้องเข้าทดสอบ ก็คือการทดสอบความคล่องแคล่วว่องไวของสายตา รวมถึงความสัมพันธ์กับการเคลื่อนไหวของร่างกายที่เรียกว่า BATAK Test ซึ่งทีมไทยแลนด์สามารถผ่านการทดสอบร่างกายได้ทุกคน และได้ไปต่อกับกิจกรรมที่ให้สุดยอดโอกาสและประสบการณ์ ซึ่งสำหรับทีมไทย ทางจีที อคาเดมี ได้จัดโค้ชที่เต็มไปด้วยพลังและความสามารถ มีประสบการณ์สูง มาให้คำแนะนำการปฏิบัติตนและเทคนิคการขับแข่งนั่นคือ แซนดี้ สตูวิค ยอดนักแข่งรถลูกครึ่งไทย-นอร์เวย์ เจ้าของแชมป์ยูโรเปี้ยน ฟอร์มูล่า 3 โอเพ่น 2014
ตลอดช่วง 3 วันแรก ของการเข้าค่ายสุดยอดปั้นนักแข่ง สิ่งที่ทำให้ผู้เข้าแข่งทุกคนปลื้มสุดๆ จนหลายคนถึงกับบอกว่าฝันที่เป็นจริง ซึ่งแม้ว่าจะมีเพียง 1 คนเท่านั้นที่จะได้ไปต่อ แต่การได้ใช้ชีวิตอยู่บนสนามแข่ง และได้ลงขับรถแข่งหลากรูปแบบทั้งรถซิงเกิ้ลซีท (Single Seaters) หรือรถล้อเปิด รถเคเตอร์แฮม (Caterhams) และรถไฮดาวน์ฟอร์ซ (High-Downforce) หรือรถที่มีแรงกดกระทำบนตัวรถสูง อย่างรถรุ่น LM ของ John Palmer และนิสสัน จีที-อาร์ และทดสอบฝีมือการขับจริงด้วยรถยนต์นิสสัน 370Z บนสนามสโตว์ เซอร์กิต (Stowe Circuit) ที่ให้ประสบการณ์ที่สุดยอดและแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับการขับแข่งบนจอคอมพิวเตอร์
ค่ายปั้นนักแข่งนิสสัน จีที อคาเดมี ได้รับการดีไซน์อย่างสมบูรณ์แบบ แต่ละกิจกรรม มีความเข้มข้นและให้ประสบการณ์การเรียนรู้ที่หาได้ยากยิ่ง อย่างเช่น “กิจกรรม จีที นินจา แอสซอล์ท” (GT Ninja Assault ) ที่มีทั้งการไต่เชือก ไต่ราว และข้ามกำแพงขนาดใหญ่ ท่ามกลางกองไฟอันร้อนระอุและหมอกควัน พิสูจน์ความทรหดอดทนของร่างกายและน้ำใจแห่งความสามัคคี เพื่อวัดความพร้อมทั้งใจ-กาย หรือ “กิจกรรมยิมคาน่า” (Gymkhana Knockout Competition) ที่ถือเป็นแบบทดสอบวัดทักษะการบังคับรถ การควบคุมพวงมาลัย เพราะต้องขับหลบหลีกสิ่งกีดขวางต่างๆ ภายใต้ความกดดันในเรื่องของเวลา เพราะผู้เข้าแข่งขันที่ทำเวลาได้ช้าที่สุดจะต้องถูกคัดออก ซึ่งในแบบทดสอบนี้ตลอดการแข่งขันที่ขับเคี่ยวและสูสีมาก ผู้เข้าแข่งขันจากประเทศไทยได้ฉายแววการเป็นนักขับมืออาชีพอย่างแท้จริง
หนึ่งในลักษณะเฉพาะของ จีที อคาเดมี เรซ แคมป์ ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา คือ การตัดสินของกรรมการให้สมาชิกแต่ละทีมออกจากการแข่งขันวันละ 1-2 คน ซึ่งสำหรับสามวันของการแข่งขัน ทีมไทยแลนด์ ซึ่งมีผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด 6 คน ปรากฏว่า คนที่ถูกคัดออกเป็นคนแรกคือ นายณัฐนันท์ คฤโฆษ จากบททดสอบขับจริงด้วยรถยนต์นิสสัน 370Z ตามด้วยนายภาณุวิทย์ ธำรงโชติ ในวันที่สองจากกิจกรรมจีที นินจา แอสซอล์ท ซึ่งถึงแม้ว่าในกิจกรรมนี้ นายธนินท์รัฐ อิธิรัฐภูวภัทร์ จะได้รับบาดเจ็บข้อเท้าพลิกจากอุบัติเหตุมือหลุดจากราวขณะฝึกซ้อมจนทำให้ไม่สามารถแข่งได้จนจบ แต่เนื่องจากทำผลงานการขับแข่งไว้ได้ดีในวันแรก จึงทำให้กรรมการให้อยู่ต่อในการแข่งขันถัดไป และจากกิจกรรมขับขี่หลบหลีกสิ่งกีดขวางสไตล์ยิมคาน่า ทำให้นายเพียรพัฒน์ รณเรืองฤทธิ์ ที่ทำเวลาได้ช้าที่สุด ต้องออกจากการแข่งขัน ปิดฉากการตามล่าความฝันในวันที่สามของการแข่งขัน เหลือผู้เข้าแข่งขันเพียง 3 คนสุดท้ายจากทีมไทยแลนด์ ใครจะเป็นคนต่อไปที่ถูกคัดออกและใครจะได้เป็นแชมป์ประเทศไทย ได้ลงแข่งขันกับอีก 4 ประเทศ อันได้แก่ ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อินเดีย และอินโดนีเซีย เพื่อลุ้นคะแนนรวมเป็นแชมป์ จีที อคาเดมี เอเชีย ต้องมาลุ้นกัน โดยจะมีการประกาศผลวันที่ 20 สิงหาคม นี้
ด้านมร. ร็อบ บาร์ฟ (Rob Barff) หัวหน้าคณะกรรมการตัดสินการแข่งขัน กล่าวว่า “ทุกทีมที่มาร่วมการแข่งขัน เรซ แคมป์ ในวันนี้ ต่างมีศักยภาพไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับผู้เข้าแข่งขันทุกคน ก็คือ ตั้งใจทำให้ดีที่สุดตลอดเวลา และฟังคำแนะนำจากกรรมการและหัวหน้าทีมทุกท่าน เพราะเขาเหล่านั้นล้วนเป็นมืออาชีพ แล้วพยายามนำข้อชี้แนะมาปรับแก้จุดอ่อนของตนและของทีมเพื่อให้ก้าวไปได้ไกลที่สุด”
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามความเคลื่อนไหวพร้อมร่วมโหวตผู้เข้าแข่งขัน เพื่อลุ้นรับของรางวัลที่ระลึกจากนิสสัน จีที อคาเดมี ได้ที่ gtacademy.nissan.co.th
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit