โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความตระหนักเกี่ยวกับนโยบาย Talent Mobility และกลไกการสนับสนุนการเคลื่อนย้ายบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม (วทน.) จากสถาบันอุดมศึกษาและสถาบันวิจัยของภาครัฐไปปฏิบัติงานในภาคเอกชน ตลอดจนแสดงศักยภาพด้านผลงานการวิจัยและพัฒนาของบุคลากรด้าน วทน. ในมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยที่ร่วมโครงการ รวมถึงการจัดกิจกรรมจับคู่ความร่วมมือและสร้างเครือข่ายวิจัยระหว่างสถาบันอุดมศึกษา ภาครัฐและสถานประกอบการที่เกี่ยวข้อง จึงกำหนดจัดงาน “Talent Mobility Fair ภาคเหนือ 2015” ในวันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม 2558 เวลา 08.30-17.00 น. ณ ห้องแกรนด์ล้านนา บอลรูม โรงแรมแชงกรีล่า เชียงใหม่ โดยได้รับเกียรติจาก ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นประธานเปิดงานและปาฐกถาพิเศษเรื่อง “Talent Mobility ก้าวสำคัญเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของภาคเอกชนและแผนปฏิรูปการพัฒนาด้าน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมของประเทศ” พร้อมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ร่วมเสวนาในหัวข้อดังกล่าวเพิ่มความหลากหลายทางความคิด
อนึ่ง เพื่อผลักดันและสนับสนุนให้การดำเนินโครงการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเต็มรูปแบบ สภามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้มีมติอนุมัติข้อบังคับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ว่าด้วยการสนับสนุนผู้ปฏิบัติงานในมหาวิทยาลัยไปปฏิบัติงานในภาคเอกชน พ.ศ. 2557 โดยกรอบระยะเวลาที่สนับสนุนให้พนักงานในมหาวิทยาลัยไปปฏิบัติงานในภาคเอกชนได้คราวละไม่น้อยกว่า 3 เดือน แต่ไม่เกิน 1 ปีและต่อสัญญาได้ไม่เกิน 3 ครั้ง โดยมี ศูนย์อำนวยความสะดวก Talent Mobility ภาคเหนือ หรือ TM Northern Clearing House ที่จัดตั้งขึ้นภายในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยทำหน้าที่รับผิดชอบการดำเนินโครงการ Talent Mobilityภายในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อช่วยผลักดันและส่งเสริมการทำงานแก่ศูนย์อำนวยความสะดวกของมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ในเขตพื้นที่ภาคเหนือที่ต้องการเข้าร่วมโครงการ Talent mobility ซึ่งมีอยู่ 2 แห่ง คือ 1). อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (STeP) และ 2). ศูนย์นวัตกรรมและการจัดการความรู้ วิทยาลัยศิลปะ สื่อ และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (KIC)
สำหรับขั้นตอนการดำเนินงานของ TM Northern Clearing House เริ่มจากสถานประกอบการ แจ้งความต้องการบุคลากรทางด้าน วทน. มาที่ TM Northern Clearing House โดยมีโจทย์หรือปัญหาการทำโครงการวิจัยและพัฒนาที่ชัดเจน จากนั้นทางศูนย์ฯ จะติดต่อไปยังบุคลากรและต้นสังกัดจากฐานข้อมูลTalent Mobility โดยคัดเลือกบุคลากรที่ตรงกับความต้องการของสถานประกอบการ เมื่อบุคลากรตอบรับและต้นสังกัดอนุมัติการไปปฏิบัติงานในสถานประกอบการเรียบร้อยแล้ว ทางศูนย์ฯ จะติดต่อกลับไปยังสถานประกอบการ เพื่อประสานงานทำสัญญาและตกลงรายละเอียดทั้งหมดของโครงการโดยเจ้าหน้าที่จากศูนย์ฯ จะมีการติดตามและประเมินผลอย่างต่อเนื่อง โดยทั้ง 2 ฝ่ายจะได้รับประโยชน์จากการเข้าร่วมโครงการ ทั้งประโยชน์ต่ออาจารย์หรือนักวิจัยที่เข้าร่วมโครงการ ประโยชน์ต่อมหาวิทยาลัยหรือหน่วยงานภาครัฐ อาทิเช่น เกิดกลไกความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย หน่วยงานภาครัฐและมีการทำงานวิจัยร่วมกันอย่างต่อเนื่อง เป็นต้น
ทั้งนี้การดำเนินโครงการ Talent Mobility ที่ผ่านมา มีทั้งหมด 7 โครงการ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโครงการสำคัญที่มุ่งสนับสนุนการทำงานระหว่างมหาวิทยาลัย หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในการพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถการทำวิจัยและยกระดับความสามารถในด้านการผลิตและบริการ ซึ่งก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้การถ่ายทอดเทคโนโลยีที่มีศักยภาพเชิงบวกต่อระบบเศรษฐกิจและความสามารถในการแข่งขันของการพัฒนาประเทศต่อไปในอนาคต
ติดต่อสอบถามและขอรับการบริการของศูนย์อำนวยความสะดวก Talent Mobility ภาคเหนือ หรือTM Northern Clearing House ทั้ง 2 แห่ง คือ อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (e-mail: [email protected]) และ ศูนย์นวัตกรรมและการจัดการความรู้ วิทยาลัยศิลปะ สื่อ และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (e-mail: [email protected])
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit