"มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล" พร้อมระดมทุนใน mai 120 ล้านหุ้น ตั้งเป้าเป็นผู้นำความเย็นยุคใหม่ ขึ้นแท่นมาร์เก็ตแชร์อันดับหนึ่งของประเทศ

17 Aug 2015
บมจ.มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล (KOOL) ประกาศเตรียมความพร้อมขายหุ้นไอพีโอ 120 ล้านหุ้น ได้ที่ปรึกษามือทอง! บล.ทรีนีตี้ เป็น FA มั่นใจกระแสตอบรับดีเยี่ยม ชูจุดแข็งเป็นผู้นำผลิตภัณฑ์ความเย็นยุคใหม่ ด้วยพัดลมไอเย็นและพัดลมไอน้ำ ที่ลดอุณหภูมิได้เหนือคู่แข่ง มีทีมงานมีความเชี่ยวชาญ พัฒนาโปรดักท์ใหม่ๆ บุกตลาดอย่างต่อเนื่อง พร้อมช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศมากกว่า 450 แห่ง ด้านผู้บริหาร "นพชัย วีระมาน" ระบุหลังระดมทุนจะช่วยให้บริษัทมีศักยภาพในการพัฒนาสินค้า และการสร้างคลังสินค้ารองรับการเติบโตที่สูงขึ้นในอนาคต พร้อมโชว์ผลการดำเนินงานเติบโตอย่างต่อเนื่อง
"มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล" พร้อมระดมทุนใน mai 120 ล้านหุ้น ตั้งเป้าเป็นผู้นำความเย็นยุคใหม่ ขึ้นแท่นมาร์เก็ตแชร์อันดับหนึ่งของประเทศ

นางสาวสุธางค์ คนศิลป กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (KOOL) เปิดเผยว่า KOOL ดำเนินธุรกิจหลักในการจัดหาและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทำความเย็น อาทิ พัดลมไอเย็น พัดลมไอน้ำ และพัดลมอุตสาหกรรม เป็นต้น ภายใต้ตราสินค้าMASTERKOOL และ Cooltop มีความพร้อมที่จะเข้าระดมทุนและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai)ภายในไตรมาส 3/2558 ซึ่งบริษัทจะนำเงินไปใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆ รวมถึงสร้างคลังสินค้าเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคตที่บริษัทตั้งเป้าครองส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) พัดลมไอน้ำและพัดลมไอเย็นสูงที่สุดในประเทศไทย

โดยบริษัทมีแผนเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 120 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 25 ของทุนจดทะเบียน มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.25 บาท จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ซึ่ง KOOL มีจุดแข็งหลายด้าน เพราะเป็นผู้คิดค้นและออกแบบผลิตภัณฑ์เอง ทำให้สินค้าสามารถลดอุณหภูมิได้ดีกว่าคู่แข่ง และยังมีช่องทางการจัดจำหน่ายที่หลากหลายรวมทั้งในและต่างประเทศกว่า 450 แห่ง โดยเฉพาะผ่านทางห้างค้าปลีกสมัยใหม่ เช่น แม็คโคร โฮมโปร์ เมกาโฮม บิ๊กซี บุญถาวร โกลบอลเฮ้าส์ และไทวัสดุ ซึ่งมีช่องทางการจำหน่ายทั้งสิ้น 204 สาขา รวมทั้งมีการจัดจำหน่ายผ่านเว็บไซต์ชั้นนำ นอกจากนี้ยังมีนวัตกรรมต่างๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง เช่น การเป็นผู้จำหน่ายและให้บริการระบบโอโซน ผ่านบริษัทย่อยคือ บริษัท อินโนว์ กรีน โซลูชั่น จำกัด (ingreen) ซึ่งจะเป็นสินค้าที่สามารถพัฒนาใช้ได้ในหลายๆ อุตสาหกรรมจึงยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก"KOOL ก่อตั้งมากว่า 13 ปี สามารถพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างประเทศ เป็นบริษัทที่มีการคิดค้นนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆ ตลอดเวลา มีการพัฒนาตัวสินค้าอย่างต่อเนื่อง มีทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญ เข้าใจสินค้าและตลาดอย่างแท้จริง จึงเป็นอีกบริษัทที่น่าสนใจเป็นอย่างมากสำหรับการลงทุน ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่าจะสามารถเสนอขายหุ้นได้ภายในไตรมาส 3/2558 นี้ "นางสาวสุธางค์ กล่าวในที่สุด

นายนพชัย วีระมาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (KOOL)กล่าวว่า KOOL คือผู้นำตัวจริงสำหรับความเย็นยุคใหม่ ในการแก้ปัญหาอากาศร้อนโดยไม่ต้องใช้แอร์และพัดลม โดยบริษัทได้ออกแบบสินค้าทั้งพัดลมไอเย็น และพัดลมไอน้ำ ให้มีความพิเศษกว่าคู่แข่งซึ่งถือเป็นความโดดเด่นเฉพาะของสินค้าบริษัท ซึ่งในการระดมทุนครั้งนี้จะทำให้บริษัทมีศักยภาพในการพัฒนาสินค้าและการขยายธุรกิจด้านอื่นๆ เช่น การสร้างคลังสินค้า ที่ จ.ชลบุรี เพื่อรองรับการขยายธุรกิจในอนาคตให้เติบโตได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น

สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2558 บริษัทมีผลประกอบการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้รวม 437.26ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 27.17 ล้านบาท ซึ่งรายได้ส่วนใหญ่มาจากพัดลมไอเย็นซึ่งถือเป็นรายได้หลัก ทั้งนี้บริษัทมั่นใจว่าในอนาคตจะมีรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากตลาดของพัดลมไอเย็นทั้งในประเทศและต่างประเทศยังอยู่ในช่วงการเติบโตจึงมีโอกาสขยายตัวได้อีกมาก อีกทั้งสภาพอากาศมีอุณหภูมิร้อนจัดมาก และร้อนนานมากขึ้นเกือบทุกปี ทำให้สินค้าบริษัทเป็นที่นิยมเพิ่มขึ้น