นายสมพล เอกธีรจิตต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีซ อิท จำกัด (มหาชน) (LIT) เปิดเผยว่า ล่าสุดบริษัทได้ร่วมมือกับคู่ค้า และถือเป็นการก้าวสู่อุตสาหกรรมใหม่นอกเหนือจากกลุ่มไอที โดยบริษัทได้เข้าไปให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อ/ ลิสซิ่ง มูลค่าสัญญาเกือบ 40 ล้านบาท เพื่อจัดหารถเพื่อการพาณิชย์ เป็นชนิดรถบรรทุกหัวลาก เพื่อใช้ในการส่งก๊าซธรรมชาติ (NGV) สำหรับยานยนต์จากจุดสถานีต้นทางไปถึงปลายทางโดยคาดว่าจะทยอยจัดหาเพื่อนำไปทดแทนยานยนต์คันเดิมได้ครบทั้งเป้าหมายภายใน 3-6 เดือน ซึ่งแนวโน้มในอนาคตอาจมีการขยายความร่วมมือเพิ่มเติม ให้สอดคล้องกับความต้องการของคู่ค้าซึ่งเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับทั้งสองฝ่ายในการดำเนินธุรกิจร่วมกัน"การให้สินเชื่อนอกเหนือจากกลุ่มไอทีของบริษัทในครั้งนี้ ถือเป็นการตอกย้ำให้เห็นว่า ลีซ อิท ไม่ใช่ ลิซ ไอที และทำให้พอร์ตสินเชื่อของบริษัทโตขึ้นตามแผนงานที่วางเอาไว้ โดยในปีนี้ บริษัทเตรียมเพิ่มสัดส่วนของลูกค้าภาคเอกชนให้มากขึ้น เพื่อขยายฐานลูกค้าและการเติบโตที่ยั่งยืนในอนาคต"นายสมพลกล่าว
นายสมพล กล่าวว่า ตลาดสินเชื่อเอสเอ็มอียังมีช่องว่างให้ขยายฐานลูกค้าได้อีกมาก โดยบริษัทมีแผนงานร่วมมือกับพันธมิตรคู่ค้าเดินหน้าเจาะตลาดใหม่ เพื่อปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อนอกเหนือจากสินค้าไอที โดยแนวโน้มในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ รัฐบาลจะเดินหน้าขยายการลงทุนของภาครัฐอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่เป็นคู่ค้าภาครัฐ มีความต้องการสินเชื่อ เพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียนมากขึ้นและเข้ามาติดต่อขอรับสินเชื่อกับบริษัทอย่างต่อเนื่อง เพราะบริษัทมีจุดแข็ง คือ เข้าใจความต้องการของเอสเอ็มอี จึงสามารถเสนอบริการอนุมัติเงินกู้ให้ลูกค้าได้รวดเร็ว ให้วงเงินสูง และที่สำคัญไม่จำเป็นต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน
ทั้งนี้ ในปีนี้ถือเป็นปีแรกที่บริษัทรุกตลาดภาคเอกชนเอย่างหนัก โดยตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนลูกค้าภาคเอกชนเพิ่มเป็น 30% จากเดิมมีสัดส่วนเพียง 20% ของสินเชื่อรวมเท่านั้น ส่วนที่เหลือยังคงเป็นสินเชื่อที่ปล่อยให้กับหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจ อย่างไรก็ตาม ในแง่ของการบริหารความเสี่ยง บริษัทมีทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจ และมีการบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถสกรีนลูกค้าที่มีศักยภาพ ส่งผลให้หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) อยู่ในระดับต่ำเพียง 2% เท่านั้น เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมอยู่ที่ 3-4% ของสินเชื่อรวม และบริษัทจะรักษาระดับเอ็นพีแอลไม่ให้เกิน 2%
กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีซ อิท กล่าวอีกว่า แนวโน้มสินเชื่อในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้คาดว่าจะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และพอร์ตสินเชื่อน่าจะสามารถแตะที่ระดับ 1,150 ล้านบาท ได้อย่างแน่นอน เนื่องจากความต้องการสินเชื่อของกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอียังมีสูง และบริษัทมั่นใจว่าโปรดักท์ทางการเงินที่มีความหลากหลาย ปล่อยกู้ตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ขั้นตอนการอนุมัติสินเชื่อรวดเร็ว ให้วงเงินสูง และที่สำคัญไม่จำเป็นต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ทำให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างลงตัว
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit