คุณสมหมาย วิเชียรฉันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี และคุณฑิฆัมพร สุทธิอุดมรัตน์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดจันทบุรี ร่วมพิธีตีธงปล่อยขบวนคาราวานรถอีซูซุจำนวน 22 คัน เพื่อมุ่งหน้าสู่จุดหมายแรกคือด่านบ้านผักกาด อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ซึ่งเป็นทางเข้าสู่ประเทศกัมพูชาทางเขตจังหวัดไพลิน เพื่อเดินทางมุ่งหน้าสู่เมืองพระตะบอง ซึ่งเส้นทางระหว่างนี้ถนนยังคงดี สะดวกสบายมาก จากนั้นก็แวะรับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร Asian ซึ่งอาหารของกัมพูชาถือว่าหน้าตาใกล้เคียงกับอาหารไทยมากหลังจากอิ่มท้องขบวนคาราวานก็ออกเดินทางต่อสู่เมืองหลวงของกัมพูชา นั่นคือกรุงพนมเปญ ท่ามกลางฝนที่ตกกระหน่ำเป็นระยะๆ แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อการเดินทางแต่อย่างใดบรรยากาศตลอด 2 ข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้และทุ่งนาเขียวขจีให้สมาชิกได้เพลิดเพลิน ขบวนใช้เวลาอีกประมาณ 6 ชั่วโมงเต็มในการเดินทางถึงจุดหมายปลายทางของวันแรก ณ โรงแรม Sokha Phnom Penh Hotel & Residence โรงแรมสุดหรูระดับ 6 ดาวเปิดใหม่ พร้อมรับประทานอาหารค่ำในงานเลี้ยงแบบกันเอง และสนุกสนานไปกับการแสดงพื้นเมืองที่จัดเตรียมขึ้นเป็นพิเศษในชุด“ระบำอัปสรา” และอื่นๆ อีกหลายชุดทีเดียว
เช้าวันรุ่งขึ้นสมาชิกประชาคมอีซูซุก็ออกเดินทางท่องเที่ยวในกรุงพนมเปญด้วย รถบัสไปยัง “พระบรมราชวังจตุมุขสิริมงคล” หรือที่ชาวไทยมักเรียกพระราชวังแห่งนี้ว่า "พระราชวังเขมรินทร์" สร้างขึ้นหลังจากที่พระบาทสมเด็จพระนโรดม พรหมบริรักษ์ ทรงย้ายเมืองหลวงจากกรุงอุดง มายังกรุงพนมเปญ สถานที่ส่วนใหญ่ภายในเขตพระราชวังเปิดให้เข้าชมได้ ยกเว้นเขตพระราชฐานที่ประทับ จากนั้นก็เดินต่อไปจุดใกล้เคียงกัน นั่นคือ “วัดพระแก้วมรกตและเจดีย์เงิน” คนส่วนใหญ่รู้จักกันในนาม "วัดพระแก้ว" ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของกัมพูชา สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2435 ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระนโรดม พรหมบริรักษ์ เนื่องจากเป็นวัดที่ตั้งอยู่ภายในเขตพระบรมราชวังจึงไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา
หลังท่องเที่ยวในช่วงเช้าแล้ว สมาชิกคาราวานแวะรับประทานอาหารกลางวันแบบบุฟเฟ่ต์ ณ ร้านอาหาร Tonle Basak 2 ที่ทุกคนสามารถเลือกสรรอาหารได้ตามใจชอบ ราคาสบายกระเป๋ามาก อาหารมีมากมายทำให้เลือกรับประทานกันไม่ถูกเลยทีเดียว เมื่ออิ่มท้องกันเรียบร้อยก็กลับสู่โรงแรม เพื่อตั้งขบวนคาราวานอีซูซุออกเดินทางกันต่อด้วยเส้นทางผ่านจังหวัดกัมปงธม และข้ามแม่น้ำโตนเลสาบมุ่งหน้าเข้าสู่เมืองเสียมเรียบ โดยวันนี้ขบวนคาราวานต้องขับรถกันด้วยความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น ด้วยถนนที่กำลังอยู่ระหว่างการสร้างทาง เป็นหลุมในบางช่วง แต่ด้วยสมรรถนะช่วงล่างอันแข็งแกร่งของอีซูซุ ทำให้ขบวนสามารถขับผ่านเข้าสู่เสียมเรียบได้อย่างสบายๆ เพื่อเข้าพัก ณ Sokha Angkor Resort ในวันรุ่งขึ้นสมาชิกคาราวานท่องเที่ยวกันต่อด้วยรถบัสท้องถิ่นเพื่อความสะดวก สบายในการท่องเที่ยว เริ่มจากการเข้าชม “นครธม” เมืองหลวงแห่งสุดท้ายและเมืองที่เข้มแข็งที่สุดของอาณาจักรขะแมร์ สถาปนาขึ้นในปลายคริสต์ศวรรษที่ 12 โดยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 มีอาณาเขตครอบคลุมพื้นที่ 9 ตารางกิโลเมตร อยู่ทางทิศเหนือของนครวัด ภายในเมืองมีสิ่งก่อสร้างมากมายนับแต่สมัยแรกๆ และที่สร้างโดยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 และรัชทายาท ใจกลางพระนครเป็นปราสาทหลักของพระเจ้าชัยวรมัน เรียกว่า “ปราสาทบายน” และมีพื้นที่สำคัญอื่นๆ รายล้อมพื้นที่ โดยก่อนเข้าไปยังเมืองจะได้สัมผัสถึงความอลังการของแถวยักษ์ (อสูร) ทางด้านขวา และเทวดาทางด้านซ้าย เรียงรายแบกพญานาคอยู่สองข้างสะพาน ก่อนผ่านประตูที่ได้รับการอนุรักษ์ฟื้นฟูไว้ได้เป็นอย่างดี เพื่อเข้าสู่ใจกลางนครธม หลังจากนั้นจึงได้เดินทางไปยัง “ปราสาทตาพรหม” ในบริเวณใกล้เคียงซึ่งเป็นปราสาทหินในยุคท้ายๆ ของอาณาจักรขะแมร์ ยุคที่พระพุทธศาสนามีความเจริญรุ่งเรืองอย่างมาก เพราะสมัยนั้นกษัตริย์สนับสนุนให้มีการสร้างปราสาทนี้เป็นวัดในศาสนาพุทธ การดูแลปราสาทต่างๆ นั้นรัฐบาลได้ทำการตัดต้นไม้ออกจากปราสาทอื่นๆ เพราะกลัวว่าประสาทจะล้มลงหากต้นไม้ใหญ่โตมากๆ แต่สำหรับปราสาทตาพรหมนั้น รัฐบาลมีแนวคิดที่จะคงต้นไม้ไว้เหมือนโบราณที่มีต้นไม้ขึ้นบนปราสาทแทบทุกปราสาทจึงกลายเป็นลักษณะเด่นของปราสาทตาพรหม และเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง ทูมไรเดอร์ อีกด้วย
สำหรับช่วงบ่ายสมาชิกคาราวานเดินทางท่องเที่ยวต่อยัง “นครวัด” ศาสนสถานประจำพระนครของพระเจ้าสุริยชัยวรมันที่ 2 ตัวเทวสถานได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี จนเป็นศูนย์กลางทางศาสนาที่สำคัญเพียงแห่งเดียวที่ยังเหลือรอดมาจนถึงปัจจุบัน นับตั้งแต่ก่อสร้างแล้วเสร็จ แต่เดิมนครวัดเป็นเทวสถานของศาสนาฮินดู ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อถวายแด่พระวิษณุ ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นศาสนาพุทธ นครวัดเป็นสิ่งก่อสร้างทางศาสนาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลก
ตัวเทวสถานถือเป็นที่สุดของสถาปัตยกรรมเขมรสมัยคลาสสิกรุ่งเรือง และได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของประเทศกัมพูชา โดยปรากฏในธงชาติและเป็นจุดท่องเที่ยวหลักของประเทศ ตลอดจนได้รับลงทะเบียนเป็นมรดกโลกภายใต้ชื่อ เมืองพระนคร หลังเสร็จสิ้นจากการเที่ยวชมปราสาทนครวัด ก็ไปช้อปปิ้งกันต่อ ณ “ตลาดซาจ๊ะ” ตลาดเก่าแก่ขึ้นชื่อของเมืองเสียมเรียบซึ่งอยู่ติดกับแม่นํ้าเสียมเรียบ ตลาดที่นี่สามารถใช้เงินไทยเลือกซื้อของที่ระลึกได้ และแน่นอนว่าพ่อค้า แม่ค้าที่นี่สามารถพูดภาษาไทยได้ดีเลยทีเดียววันสุดท้ายของการเดินทาง สมาชิกคาราวานอีซูซุก็มีโอกาสไปชมสถาปัตยกรรมอันสวยงามที่ “ปราสาทบันทายสรี” ปราสาทหินที่ถือได้ว่างดงามที่สุดในประเทศกัมพูชา มีความกลมกลืนอย่างสมบูรณ์ และเป็นปราสาทแห่งเดียวที่สร้างเสร็จแล้วกว่า 1,000 ปี แต่ลวดลายก็ยังมีความคมชัด เหมือนกับสร้างเสร็จใหม่ๆ ปราสาทแห่งนี้สร้างอุทิศถวายพระอิศวรภายใต้พระนามว่า"ตรีภูวนมเหศวร" หรือ "ผู้เป็นใหญ่แห่งโลกทั้งสาม" ปราสาทมีขนาดเล็ก สร้างด้วยหินทรายสีชมพูซึ่งหายาก เนื้อละเอียด การสลักลวดลายดูอ่อนช้อย ลายคมชัด ดูมีชีวิตชีวา
เสร็จสิ้นการท่องเที่ยวขบวนคาราวานอีซูซุก็ออกเดินทางจากเสียมเรียบมายังไทย เข้าทางด่านชายแดนปอยเปต ประเทศกัมพูชา ซึ่งห่างจากไทยเพียง 150 กิโลเมตร เส้นทางราบเรียบแตกต่างจากเมื่อ 10 ปีที่แล้วอย่างชัดเจน ขับสบายๆ ด้วยเวลาเพียง 2 ชั่วโมงเศษเท่านั้น ก็เข้าสู่ประเทศไทยอย่างสวัสดิภาพอีซูซุคาราวานสัญจร เส้นทางที่ 4 ประเทศไทย (จันทบุรี) – กัมพูชา (พนมเปญ –เสียมเรียบ) นี้ เป็นอีกหนึ่งทริปที่ติดตรึงใจสำหรับผู้ร่วมคาราวานทุกท่าน เพราะนอกจากจะได้ชมความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรขอม ยังเกิดจากคนที่ร่วมเดินทางไปด้วยกันได้แบ่งปันความรู้สึก และประสบการณ์อันน่าประทับใจร่วมกันอีกด้วย
“ประทับใจมากที่ได้มาร่วมคาราวานกับอีซูซุ รู้สึกอบอุ่น และได้รับการต้อนรับที่ดีมาก ได้ชมสถานที่อันสวยงาม อลังการจริงๆ น่าประทับใจ อยากเชิญชวนให้สมาชิกอีซูซุทุกท่านได้มีโอกาสมาสัมผัสแบบเราบ้าง รับรองสนุกสนาน และพบแต่ความสุขแน่นอน” เสียงจากผู้ร่วมเดินทาง อีซูซุคาราวานสัญจร คุณพิสูตร สายคำทอน และคุณเสาวณี สายคำทอน รถอีซูซุหมายเลข 02 และอีกหนึ่งเสียงจากสมาชิกใหม่ ที่ร่วมท่องเที่ยวกับคาราวานอีซูซุเป็นครั้งแรก คุณณัฐพงศ์ ผาสุข และคุณณัฐพัชร เกตุกิ่ง รถอีซูซุหมายเลข 22 “รู้สึกตื่นเต้น ช่วงที่ขับรถก็เจอสภาพถนน และภูมิอากาศหลายๆ แบบ มีฝนตกตลอดทาง แต่ก็สนุก และชอบมากกับการท่องเที่ยวแบบคาราวานกับอีซูซุในครั้งนี้ มาคราวนี้คุ้ม สนุกมากทุกวัน ได้มาเจอสมาชิกอีซูซุ ได้มาเที่ยวที่ใหม่ๆ อยากเชิญเพื่อนๆ ที่ใช้รถอีซูซุให้สมัครเข้าร่วมกิจกรรมอีซูซุคาราวานสัญจรกันเยอะๆ”
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit