ยาสมิน อลาดาด คาน รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้ กล่าวว่า "ดีเอชแอลมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มีส่วนช่วยธุรกิจเอสเอ็มอีและผู้ประกอบการค้าในประเทศไทยให้มีโอกาสก้าวสู่เวทีการค้าโลกด้วยความเชี่ยวชาญของเรา ในฐานะที่ดีเอชแอลเป็นผู้ประกอบการและเป็นผู้อำนวยความสะดวกด้านการค้าระหว่างประเทศ ใน 220 ประเทศและอาณาเขตต่างๆ ทั่วโลก เราจึงมั่นใจว่าเราสามารถเสนอแนะโอกาสใหม่ๆ และช่วยเพิ่มโอกาสการค้าระหว่างประเทศให้กับผู้ประกอบการได้"
ในงานสัมมนา "การค้าไร้พรมแดน" ได้รับเกียรติจาก มร.เรย์มอนด์ ยี รองประธานด้านธุรการทางข้อบังคับและศุลกากร ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกฏเกณฑ์และข้อบังคับศุลกากรประจำภูมิภาค มาเป็นผู้บรรยายให้กับนักธุรกิจในไทยเพื่อความเข้าใจเกี่ยวกับเงื่อนไขต่างๆของศุลกากร ทั้งนี้ การสัมมนาครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งในความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของดีเอชแอล ที่ต้องการแบ่งปันความรู้ความเชี่ยวชาญทางศุลกากรขององค์กร ในฐานะที่เป็นผู้อำนวยความสะดวกด้านการค้าระหว่างประเทศ
ดีเอชแอลมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านศุลกากรกว่า 4,100 คนทั่วโลก รวมถึงด้านโครงสร้างธรรมาภิบาลระดับโลก (Global Governance Structure) ที่เป็นเครื่องรับประกันมาตรฐานระดับโลก ด้วยข้อบัญญัติในการทำงานทั่วทั้งองค์กรที่ได้มาตรฐานและเป็นหนึ่งเดียวกัน ทั้งนี้ ดีเอชแอลยังยึดมั่นที่จะเข้าร่วมในทุกมาตรการและโครงการด้านความปลอดภัยและศุลกากร อาทิ C-TPAT ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือระหว่างศุลกากรสหรัฐกับภาคธุรกิจเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงปลอดภัยให้กับประเทศสหรัฐอเมริกาจากกลุ่มผู้ก่อการร้าย และ AEO ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ให้กับองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสินค้า โดยได้รับการรับรองจากศุลกากรของแต่ละประเทศว่าได้ปฏิบัติตามกรอบมาตรฐานขององค์การศุลกากรโลก นอกจากนี้ ดีเอชแอลยังได้สร้างสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับหน่วยงานภาครัฐ ทั้งในระดับท้องถิ่น ภูมิภาค และระดับโลก อาทิ องค์การศุลกากรโลก
การจัดสัมมนา "การค้าไร้พรมแดน" ณ โรงแรมอีสติน แกรนด์ สาธร กรุงเทพฯ เมื่อวันอังคารที่ 14 กรกฏาคมที่ผ่านมา เป็นงานสัมมนาที่ได้รับการร่วมมือจากทางกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และกรมศุลกากร
ชนัญญารักษ์ เพ็ชร์รัตน์ กรรมการผู้จัดการ ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ประเทศไทยและภาคพื้นอินโดจีนกล่าวเสริมว่า "การค้าระหว่างประเทศนับเป็นสิ่งสำคัญยิ่งต่อความมั่นคงในระยะยาวของธุรกิจเอสเอ็มอี ที่ต่างกำลังมองหาช่องทางในการทำธุรกิจระหว่างประเทศ ด้วยข้อตกลงทางการค้าเสรีที่ครอบคลุม และความร่วมมือกันทางการค้าและการลงทุนระหว่างองค์กรการค้าโลกและประชาคมอาเซียน ได้ก่อให้เกิดช่องทางและโอกาสมากมายให้กับอนาคตที่มั่นคงและสดใสกับธุรกิจเอสเอ็มอี ในการขยายกิจการในระดับสากล การสัมมนาครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมความเข้าใจที่สำคัญในด้านการศุลกากร และเป็นการแสดงเจตจำนงของเรา ที่ต้องการช่วยเหลือและสนับสนุนลูกค้าของดีเอชแอล"
ดีเอชแอล เอ็กซ์เพรส ประเทศไทยเป็นองค์กรระดับมาตรฐาน AEO ที่ดำเนินกิจการตลอด 24 ชั่วโมง ณ สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ ซึ่งร้อยละ 70 ของสินค้าขนส่งขาเข้า สามารถผ่านการตรวจสอบจากศุลกากรภายใน 1 ชั่วโมงนับจากเวลาที่สินค้ามาถึงเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ดีเอชแอล เอ็กซ์เพรสประเทศไทยได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ ร่วมกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เพื่ออำนวยความสะดวก และสนับสนุนโอกาสในการทำการค้าระหว่างประเทศให้กับธุรกิจทุกขนาดในประเทศไทย
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit