นางหทัยรัตน์ อติชาติ ผู้จัดการฝ่ายนโยบายด้านรัฐกิจและกิจการสัมพันธ์ เชฟรอนประเทศไทย กล่าวถึง ความคืบหน้าโครงการ "Chevron Enjoy Science: สนุกวิทย์ พลังคิด เพื่ออนาคต" ในพื้นที่ภาคอีสานว่า "ทางโครงการได้มีการพัฒนาความร่วมมือขึ้นอีกขั้น โดยได้รับการตอบรับจากมหาวิทยาลัยขอนแก่นที่ยินดีจะให้ความร่วมมือในการเป็นศูนย์กลาง เพื่อถ่ายทอดทักษะและแลกเปลี่ยนความรู้ ทั้งในการพัฒนาหลักสูตรการผลิตครู การอบรมและพัฒนาศักยภาพของคุณครูในจังหวัด และการพัฒนาทางด้านวิจัยทางการศึกษา ให้กับคณะครูและผู้บริหารในภาคี 123 โรงเรียนทั่วจังหวัดขอนแก่น มุ่งหวังให้เกิดความเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายที่สามารถนำองค์ความรู้และประสบการณ์ ด้าน STEM จากโครงการ ไปพัฒนาเยาวชนได้ตามเป้าหมายอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน"
"ก่อนหน้านี้ โครงการ Chevron Enjoy Science: สนุกวิทย์ พลังคิด เพื่ออนาคต ได้มีการลงนามความร่วมมือกับ องค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น เทศบาลนครขอนแก่น สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และโรงเรียนในพื้นที่ต่างๆ 76 แห่งในขอนแก่น เพื่อยกระดับการเรียนการสอน STEM ไปแล้ว และวันนี้เราได้ลงนามกับโรงเรียนในเขตพื้นที่การศึกษาเขต 5 และ 25 อีก 47 โรงเรียน รวมเป็น 123 โรงเรียน รวมถึงยังได้พัฒนาไปอีกขั้น โดยร่วมกับมหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่มีความพร้อมครบทุกด้าน ทั้งมีเครือข่ายทางการศึกษา รับหน้าที่เป็นแกนนำดำเนินการให้ครอบคลุมโรงเรียนในโครงการฯ ทั้ง 123 โรงเรียนในจังหวัดขอนแก่น" นางหทัยรัตน์ กล่าว
นายปิยะบุตร ชลวิจารณ์ ประธานอำนวยการ สถาบันคีนันแห่งเอเซีย กล่าวในฐานะผู้บริหารโครงการว่าสถาบันคีนันแห่งเอเซียมีความเชี่ยวชาญในด้านนวัตกรรมการศึกษามากว่า 10 ปี และได้เชื่อมโยงองค์ความรู้และวีธีการเรียนการสอนแบบใหม่ ที่ได้รับการพิสูจน์จากนานาชาติแล้ว ว่าส่งผลดีต่อการเรียนรู้ในระยะยาวของเยาวชน โดยนำมาปรับใช้ในประเทศไทย"
"สำหรับโครงการ "Chevron Enjoy Science: สนุกวิทย์ พลังคิด เพื่ออนาคต" นี้ คีนันได้ร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญจาก Teachers College มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ประเทศสหรัฐอเมริกา และคณาจารย์ของมหาวิทยาลัยฯ เพื่อพัฒนาความร่วมมือเพื่อให้มหาวิทยาลัยขอนแก่นเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาครู พัฒนาผู้บริหารสถานศึกษา และยกระดับคุณภาพสถานศึกษาในระดับภูมิภาคในระยะยาว นอกจากนี้จะร่วมกันในการพัฒนาศักยภาพนักศึกษาฝึกประสบการณ์ในกลุ่มโรงเรียนเป้าหมาย โดยร่วมกับสถาบันพัฒนาคุณภาพครูและหน่วยงานอื่นๆ ของมหาวิทยาลัย นอกจากนี้ ยังจะร่วมมือกันในการพัฒนาความร่วมมือในการดำเนินกิจกรรมด้านการสร้างความตระหนักด้าน STEM แก่นักเรียนและชุมชนในขอนแก่นและในภาคอีสานต่อไป"
นายกำธร ถาวรสถิต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า "วิสัยทัศน์สำคัญในการพัฒนาจังหวัดขอนแก่น คือ การยกระดับเพื่อเป็น "มหานครแห่งอาเซียน" ที่มีความพร้อมทางการแข่งขันรอบด้าน โดยส่งเสริมการศึกษาและเรียนรู้ให้เยาวชนได้รับโอกาสอย่างทั่วถึง จะเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์สำคัญที่ทำให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย การเข้าร่วมโครงการ "Chevron Enjoy Science: สนุกวิทย์ พลังคิด เพื่ออนาคต" จะทำให้เกิดการยกระดับการเรียนรู้ พัฒนาเยาวชนให้มีทักษะเท่าทันยุคดิจิทัล โดยเฉพาะเมื่อเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน จะทำให้เกิดการลงทุนระหว่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้งานที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาด้าน STEM เพิ่มขึ้นตามมาด้วย ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์กับเยาวชนในขอนแก่นอย่างแท้จริง"
ขณะที่ ศาสตราจารย์ ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและการถ่ายทอดเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวเสริมว่า การเข้าร่วมโครงการฯ ในครั้งนี้ เพราะเล็งเห็นความตั้งใจของผู้บริหารโครงการฯ ที่ต้องการพัฒนาการศึกษา ซึ่งบทบาทความร่วมมือของมหาวิทยาลัยขอนแก่น จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนด้วยกัน 1) เป็นศูนย์กลางพัฒนาบุคลากรทางการศึกษา อาทิ พัฒนาครู ผู้บริหารสถานศึกษา นักศึกษาเพื่อฝึกประสบการณ์ในโรงเรียนกลุ่มเป้าหมาย 2) บริหารจัดการสื่อสนับสนุน เพื่อให้กระจายสู่ความต้องการในการใช้ของโรงเรียนในเครือข่ายได้อย่างทั่วถึง และ 3) พัฒนาความร่วมมือในการดำเนินกิจกรรมด้านการสร้างความตระหนักด้าน STEM แก่ผู้เรียนและชุมชน"
"ความร่วมมือในโครงการ Chevron Enjoy Science นี้ มหาวิทยาลัยฯ เป็นผู้นำแนวทางและองค์ความรู้การพัฒนาครูที่ได้รับจากโครงการฯ ไปร่วมถ่ายทอดให้กับครูในจังหวัดขอนแก่น อย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 5 ปี จึงคาดว่าจะเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม โดยภายหลังจบโครงการฯ มหาวิทยาลัยฯ ก็จะยังคงสานต่อการเป็นศูนย์กลางของเครือข่ายการศึกษาในระดับจังหวัด และภูมิภาคต่อไป"
อนึ่ง โครงการ "Chevron Enjoy Science : สนุกวิทย์ พลังคิด เพื่ออนาคต" โดยความร่วมมือของบริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด สถาบันคีนันแห่งเอเซีย และ 7 องค์กรภาครัฐ ซึ่งสอดคล้องตามนโยบาย "รัฐร่วมเอกชน" ของรัฐบาล มีวัตถุประสงค์ในการมุ่งเน้นพัฒนาเศรษฐกิจและส่งเสริมศักยภาพทางการแข่งขันของประเทศอย่างยั่งยืน ผ่านการพัฒนาการศึกษากลุ่มวิชา STEM ทั้งในการศึกษาสายสามัญและสายอาชีพหรืออาชีวศึกษา อันจะเป็นพื้นฐานช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศอย่างยั่งยืน
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit