เนสเปรสโซเปิดตัวศูนย์การผลิตแห่งที่ 3 รุกตอบโจทย์ความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภค

11 Sep 2015
ด้วยการลงทุนเชิงยุทธศาสตร์ครั้งนี้ เนสเปรสโซได้ทุ่มเงินทุนเพื่อตอกย้ำความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกาแฟ และเร่งการพัฒนาในต่างประเทศ

ข้อมูลอ้างอิง: สามารถเข้าดูรูปได้ที่สำนักข่าว European pressphoto agency หรือ epa ที่ http://www.epa.eu หรือ http://www.presseportal.ch/de/nr/100007465

(รูป: http://photos.prnewswire.com/prnh/20150909/265027 )

เนสท์เล่ เนสเปรสโซ เปิดตัวศูนย์การผลิตขึ้นที่เมืองโรมอนต์แล้ววันนี้ โดยมีนายโจฮาน ชไนเดอร์-อัมมานน์ กรรมการสหพันธรัฐและหัวหน้าสำนักงานสหพันธรัฐด้านเศรษฐกิจ และนายบีต วอนลานเทน สภาที่ปรึกษาราชการแผ่นดินและรัฐมนตรีเศรษฐกิจและการจัดหางานของหน่วยปกครองฟรายเบิร์ก พร้อมด้วยนายโรเจอร์ โบรดาร์ด นายกเทศมนตรีเมืองโรมอนต์เข้าร่วมงาน โดยศูนย์การผลิตแห่งนี้ ถือเป็นศูนย์การผลิตแห่งที่ 3 ในสวิตเซอร์แลนด์ตั้งแต่ปี 2545 หลังจากที่ได้มีการจัดตั้งศูนย์การผลิตก่อนหน้านี้ขึ้นที่เมืองอว็องซ์ และเมืองออร์บ

"ศูนย์การผลิตแห่งนี้แสดงให้เห็นถึงการลงทุนเชิงกลยุทธ์ในระยะยาว เพื่อตอบสนองความต้องการกาแฟที่มีคุณภาพสูงอย่างเนสเปรสโซของผู้บริโภคทั่วโลกในอนาคต" นายพอล บัลค์ ซีอีโอ ของ เนสท์เล่ เอสเอ กล่าว "ศูนย์การผลิตแห่งนี้ไม่เพียงแต่นำมาซึ่งความสำเร็จในส่วนของธุรกิจกาแฟที่กำลังขยายตัวของเนสเปรสโซเท่านั้น แต่ยังเป็นความสำเร็จของระบบเศรษฐกิจและสังคมท้องถิ่นระดับภูมิภาค และระดับชาติด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังเป็นปัจจัยบ่งชี้ให้เห็นถึงความรักที่มีต่อแผ่นดินเกิด ซึ่งเป็นแผ่นดินที่เราได้ร่วมแบ่งปันคุณค่าแห่งความเป็นเลิศและนวัตกรรม"

ศูนย์การผลิตโรมอนต์ถือเป็นศูนย์แห่งความเป็นเลิศและความเชี่ยวชาญด้านกาแฟอย่างแท้จริง ที่ใช้เวลาในการก่อสร้างจนแล้วเสร็จภายใน 2 ปี ด้วยเงินลงทุนกว่า 300 ล้านฟรังก์สวิส นับตั้งแต่ปี 2545 เนสเปรสโซได้ทุ่มเงินลงทุนไปกว่า 1.1 พันล้านฟรังก์สวิสในการสร้างโรงงานอุตสาหกรรมในหน่วยปกครองวอด และฟรายบอร์ก

นอกจากผลิตภัณฑ์แคปซูลกาแฟแบบคลาสสิกของเนสเปรสโซแล้ว ศูนย์การผลิตแห่งนี้จะเป็นผู้ผลิตแคปซูลกาแฟ VirtuoLine แบบ Grand Cru ทั้ง 14 ชนิด ซึ่งได้เริ่มผลิตขึ้นตั้งแต่ปี 2557 ในสหรัฐ และแคนาดา โดยแคปซูลกาแฟดังกล่าวถูกออกแบบเพื่อตอบสนองทางเลือกของชาวอเมริกาเหนือที่ต้องการบริโภคกาแฟถ้วยใหญ่

"ด้วยการผลิตแคปซูลกาแฟ VertuoLine ศูนย์การผลิตที่โรมอนต์จะช่วยสนับสนุนการเติบโตในอเมริกาเหนือ โดยอุตสาหกรรมกาแฟของเนสเปรสโซซึ่งถูกขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมสามารถทำกำไรได้ถึงกว่า 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐนี้ กำลังเติบโตขึ้นอย่างมากในภูมิภาคดังกล่าว ด้วย VertuoLine เราจึงมีผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการที่เพิ่มขึ้นได้ " ฌอง มาร์ก ดูวอยซิน ซีอีโอของ เนสท์เล เนสเปรสโซ เอสเอ กล่าว

ผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจท้องถิ่น

ด้วยการจัดตั้งศูนย์การผลิตเมืองอว็องซ์ และเมืองออร์บ เนสเปรสโซมีเป้าหมายที่จะสร้างผลกระทบเชิงบวกในระยะยาวทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมที่เมืองโรมอนต์ในหน่วยปกครองฟรายเบิร์ก ซึ่งศูนย์การผลิตแห่งใหม่นี้ก่อให้เกิดการจ้างงานพนักงานใหม่ๆที่มีทักษะกว่า 125 ราย ซึ่งส่งผลให้เนสเปรสโซมีจำนวนพนักงานทั้งสิ้น 2,300 รายในสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งถือเป็นจำนวนที่มากกว่าบริษัทท้องถิ่น 25 บริษัทที่อยู่ในบริเวณโครงการเดียวกัน โดยใช้งบประมาณ 60% ของงบประมาณทั้งหมด

"การตัดสินใจสร้างโรงงานแห่งใหม่ของเนสเปรสโซที่เมืองโรมอนต์ ถือเป็นรางวัลชิ้นงามสำหรับการตอบแทนความมุ่งมั่นในการทำงานของบริษัทให้กับประเทศ อีกทั้งยังเป็นการสนับสนุนให้เรายังคงพยายามที่จะส่งเสริมจุดแข็งของสวิตเซอร์แลนด์ ในฐานะแหล่งการผลิต และการยกระดับการจ้างงาน" โจฮาน ชไนเดอร์-อัมมานน์ กรรมการสหพันธรัฐและหัวหน้าหน่วยสหพันธรัฐด้านเศรษฐกิจ กล่าว

"การเปิดตัวศูนย์แห่งความเป็นเลิศแห่งใหม่ของเนสเปรสโซถือเป็นช่วงเวลาแห่งความยินดีและภาคภูมิใจ โดยมีประชาชนชาวฟรายเบิร์กร่วมเฉลิมฉลองด้วยความยินดีอย่างล้นหลาม นับเป็นสิ่งที่ช่วยย้ำเตือนว่าฟรายเบิร์กเป็นแหล่งเศรษฐกิจที่มีความน่าสนใจสำหรับบริษัทอุตสาหกรรมระหว่างประเทศ" นายบีต วอนลานเทน สภาที่ปรึกษาราชการแผ่นดินและรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจและการจัดหางานของหน่วยปกครองฟรายเบิร์กกล่าว

"การมาถึงของเนสเปรสโซได้สร้างความมั่นใจในอนาคตทางเศรษฐกิจให้แก่ภูมิภาคของเราอีกครั้ง" นายโรเจอร์ โบรดาร์ด นายกเทศมนตรีโรมอนต์กล่าว

ศูนย์การผลิตในสวิตเซอร์แลนด์แห่งแรกที่ได้รับมาตรฐานของ LEED(R) ระดับทองคำ

โรมอนต์เป็นศูนย์การผลิตแห่งแรกในสวิตเซอร์แลนด์ อีกทั้งยังเป็นโรงงานของเนสท์เล่แห่งแรกในสวิตเซอร์แลนด์ที่ได้รับมาตรฐาน LEED(R) ระดับทองคำ (ผู้นำด้านพลังงานและการออกแบบสิ่งแวดล้อม) ใบรับรองนี้ไม่เพียงแค่ครอบคลุมถึงเรื่องการใช้พลังงานและน้ำอย่างมีประสิทธิภาพภายในอาคารของโรงงานเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงการประเมินด้านสุขภาพและสวัสดิภาพของพนักงานในที่ทำงานด้วยเช่นกัน และยังรวมถึงการดำเนินการด้านโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่เป็นภัยต่อสิ่งแวดล้อม ส่วนหนึ่งของตัวอย่างด้านการดำเนินการของเอสเปรสโซเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานตามที่ LEED(R) ได้ตั้งไว้มีดังนี้ การใช้วัสดุก่อสร้างแบบรีไซเคิลจำนวน 20% ของจำนวนวัสดุก่อสร้างทั้งหมด การลดปริมาณการใช้พลังงานลง 18% โดยการใช้วัสดุฟื้นฟูความร้อนโดยเครื่องอบ การใช้กระจก 3 ชั้น และการใช้ระบบแสง LED

ใบรับรองมาตรฐาน LEED(R) ได้ช่วยขยายความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืนของเนสเปรสโซ ด้วยการสร้างความเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ด้านความยั่งยืนระดับโลกที่ชื่อว่า The Positive Cup

เนสเปรสโซ ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติสวิสที่เข้าถึงตลาดทั่วโลก ได้เลือกที่จะก่อตั้งศูนย์การผลิตแห่งที่สามขึ้นที่เมืองโรมอนต์ เนื่องจากความเป็นเลิศและความรู้ของชาวสวิส โครงสร้างพื้นฐานที่มีความน่าเชื่อถือและแข็งแกร่ง กลุ่มแรงงานที่มีทักษะ ร่วมถึงมีปัจจัยเชิงกลยุทธ์ต่างๆ มากมายที่สามารถรับประกันความเชื่อมั่นด้านมาตรฐานที่เนสเปรสโซได้ตั้งไว้

ข้อเท็จจริงและตัวเลขเกี่ยวกับศูนย์การผลิตเนสเปรสโซในเมืองโรมอนต์

  • ศูนย์การผลิตของเนสเปรสโซแห่งที่สามในสวิตเซอร์แลนด์ หลังจากที่ได้ตั้งศูนย์ขึ้นในเมืองออร์บ (2545) และเมืองอว็องซ์(2551) - ซึ่งเป็นการผลิตเพื่อส่งสินค้าไปยังทั่วโลกจากสวิตเซอร์แลนด์
  • ยอดการลงทุนในโรมอนต์: 300 ล้านฟรังก์สวิส
  • ยอดลงทุนทั้งหมดในโรงงานการผลิตตั้งแต่ปี 2545: 1.1 พันล้านฟรังก์สวิส
  • พื้นที่โรงงานทั้งหมด 11 เฮกตาร์(เท่ากับสนามฟุตบอล 15 แห่ง)
  • พื้นที่สำหรับอาคาร 21,000 ตารางเมตร
  • ระยะเวลาในการก่อสร้าง: 2 ปี
  • ยอดอาคารสูงสุด 40 เมตร
  • ใช้กำลังคนกว่า 3,200 คน ในการก่อสร้าง
  • มีพื้นคอนกรีตทั้งหมด 25,000 ตารางเมตร บริเวณส่วนหน้าอาคารทั้งหมด 35,000 ตารางเมตร และการใช้สายไฟฟ้าความยาว 500 กิโลเมตร การใช้ท่อลำเลียงน้ำความยาว 70 กิโลเมตร และมีการใช้รางขนส่งรวมทั้งสิ้น 2,400 เมตร
  • จำนวนพนักงานในศูนย์การผลิต 125 คน
  • มีการผลิตแคปซูลกาแฟแบบคลาสสิกและแบบ VertuoLine
  • เป็นโรงงานแห่งแรกที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจาก LEED(R) ในสวิตเซอร์แลนด์ อีกทั้งยังเป็นศูนย์การผลิตแห่งแรกของเนสท์เล่ในสวิตเซอร์แลนด์ที่ได้รับการรับรองจาก LEED(R)

เนื้อหาเพิ่มเติม

สามารถดาวน์โหลดภาพจากเว็บไซต์ในเครือเนสเปรสโซตั้งแต่เวลา 16.00 น. (CET) ได้ที่: http://www.nestle-nespresso.com/media/library/pictures

เบื้องหลังแห่งการได้รับมาตรฐานจาก LEED(R) [http://www.nestle-nespresso.com/asset-libraries/Documents/Nespresso_Romont_LEED_certification_backgrounder_2015_09_10_EN.pdf ]

สามารถขอดูฟุตเทจแบบบีโรลได้ตามคำร้องขอ

เกี่ยวกับเนสท์เล่ เนสเปรสโซ เอสเอ

บริษัท เนสท์เล่ เนสเปรสโซ เอสเอ (Nestle Nespresso S.A.) เป็นผู้บุกเบิกและแบบฉบับกาแฟพรีเมียมที่มีคุณภาพสูงสุด สำนักงานใหญ่ของบริษัทอยู่ที่เมืองโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เนสเปรสโซเปิดให้บริการใน 62 ประเทศ และมีพนักงานมากกว่า 10,500 คน ในปี 2557 บริษัทมีเครือข่ายค้าปลีกที่ร้านจำหน่ายกว่า 400 แห่ง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม เข้าชมเว็บไซต์เนสท์เล่ เนสเปรสโซ ได้ที่ http://www.nestle-nespresso.com

เกี่ยวกับ VertuoLine

VertuoLine เป็นระบบชงกาแฟที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการในการบริโภคกาแฟถ้วยใหญ่ของชาวอเมริกาเหนือ โดยระบบสกัดกาแฟนี้ถือเป็นการปฏิวัติวิธีการชงกาแฟแบบใหม่ เพื่อมอบความเพลิดเพลินให้แก่ผู้บริโภคโดยมีการใช้เทคโนโลยี Centrifusion(TM) ทั้งนี้ VirtuoLine ช่วยส่งมอบความแม่นยำในระดับสูง โดยเทคโนโลยีบาร์โค้ดจะสามารถจดจำแคปซูลขนาด Grand Cru ได้ และจะสามารถกลั่นกาแฟถ้วยโปรดออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ แคปซูลขนาด Grand Cru ทั้ง 14 ชนิดซึ่งรวมถึง กาแฟแบบเพิ่มคาเฟอีนแบบมาก-น้อย และกาแฟแต่งรสต่างๆ รวมทั้งแบบเอสเพรสโซ มีจำหน่ายเฉพาะที่สหรัฐฯ และแคนาดา

สื่อมวลชนกรุณาติดต่อ

Diane Duperret, ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์องค์กร

บริษัท เนสท์เล เนสเปรสโซ เอสเอ

โทรสายตรง: +41-21-796-92-89

เบอร์โทรกลาง: +41-21-796-95-95

อีเมล:[email protected]

แหล่งข่าว: เนสท์เล เนสเปรสโซ เอสเอ