ปีนี้เพิ่มตลาดหุ้นฮ่องกงเข้ามาในรายการแข่งขัน นอกเหนือจากตลาดหลัก คือ มาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และไทย
นางฮามิดาห์ นาเซียดิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านทรัพยากรบุคคล กลุ่มซีไอเอ็มบี กล่าวว่า การแข่งขันซื้อขายหุ้นออนไลน์ระดับภูมิภาค CIMB ASEAN Stock Challenge จัดขึ้นปีนี้เป็นปีที่ 6 ไฮไลต์ปีนี้ คือ การเปิดให้ทีมผู้เข้าแข่งขันลุ้นทริปศึกษาดูงานที่ตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน และชิงเงินรางวัลมูลค่ารวม 38,000 ดอลลาร์สหรัฐ เปิดรับสมัครนักศึกษาระดับปริญญาตรีจาก 5 ประเทศอาเซียน ได้แก่ มาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ไทย และกัมพูชา เพื่อเข้าแข่งขันซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (HKEx) ได้เพิ่มเติมนอกเหนือจากตลาดหลัก 4 แห่งของอาเซียน อย่างตลาดหลักทรัพย์มาเลเซีย ตลาดหลักทรัพย์อินโดนีเซีย (IDX) ตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (SGX) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)
"เราอยากให้ผู้นำในอนาคตของเราได้ตระหนักว่าอาเซียนคือประชาคมเศรษฐกิจที่เต็มไปด้วยโอกาส การแข่งขัน CIMB ASEAN Stock Challenge เปิดโอกาสให้นักศึกษามหาวิทยาลัยใน 5 ประเทศอาเซียนได้ทดลองซื้อขายแบบเรียลไทม์ในตลาดหลักทรัพย์หลายแห่ง โดยในปีนี้ เราได้เพิ่ม HKEx ตลาดหลักทรัพย์ขนาดใหญ่เป็นอันดับสามของเอเชีย เพื่อให้ผู้เข้าแข่งขันได้ซื้อขายนอกตลาดอาเซียนเป็นครั้งแรก และทีมชนะเลิศยังจะได้รับรางวัลทริปศึกษาดูงานตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน เดินทางด้วยสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ (MAS) หุ้นส่วนอย่างเป็นทางการของเรา ซึ่งถือเป็นการยกระดับความท้าทายขึ้นไปอีกขั้น" ฮามิดาห์ นาเซียดิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านทรัพยากรบุคคล กลุ่มซีไอเอ็มบี กล่าว
นายสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมที่เปิดให้นักศึกษาไทยได้สัมผัสประสบการณ์เรียนรู้จริงในการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลัก 4 แห่งในอาเซียน รวมถึงตลาดหุ้นฮ่องกงที่เพิ่มเข้ามาในปีนี้ ธนาคารหวังว่าการแข่งขันครั้งสำคัญนี้จะกระตุ้นให้เยาวชนไทยหันมาสนใจการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น และส่งเสริมให้ตลาดหุ้นไทยเติบโตรุดหน้า และมีนักลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ นับตั้งแต่ CIMB ASEAN Stock Challenge เปิดตัวครั้งแรกในปี 2553 การแข่งขันรายการนี้ได้รับความสนใจจากกลุ่มนักศึกษาทั่วภูมิภาคเพิ่มขึ้นตามลำดับ โดยในปีที่ผ่านมา มีผู้สมัครเข้าร่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 1,395 ทีม และนับเป็นการแข่งขันรายการเดียวของโลกที่จำลองการซื้อขายหลักทรัพย์ข้ามประเทศในตลาดหลักทรัพย์หลักของมาเลเซีย สิงคโปร์ ไทย อินโดนีเซีย และฮ่องกง ซึ่งทีมชนะเลิศและทีมผู้ชนะ 10 อันดับแรกในรอบประเทศจะได้รับใบประกาศนียบัตรแห่งความสำเร็จ พร้อมโอกาสเข้าร่วมฝึกงานกับกลุ่มซีไอเอ็มบี
นักศึกษาที่สนใจ สามารถลงทะเบียนสมัครได้ตั้งแต่ 14 กันยายน 2558 เป็นต้นไป และการแข่งขันจะเริ่มต้นตามเวลาเปิดซื้อขายหลักทรัพย์ในวันที่ 5 ตุลาคม 2558 และสิ้นสุด ณ เวลาปิดซื้อขายในวันที่ 23 ตุลาคม 2558 แต่ละทีมจะได้รับเงินทุนเสมือนจริงจำนวน 80,000 ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อใช้ในการแข่งขันซื้อขายหุ้นออนไลน์ในบรรยากาศสมจริง ด้วยการลงทุนแบบเรียลไทม์ในตลาดหลักทรัพย์ทั้ง 5 แห่ง เพื่อสร้างอัตรากำไรรับรู้สุทธิ (Net Realised Percentage) สูงสุด *
การแข่งขันเบ่งเป็นรอบระดับประเทศและระดับภูมิภาค สำหรับรอบระดับประเทศ ทีมผู้ชนะ 3 อันดับแรกจากแต่ละประเทศจะได้รับรางวัลเงินสด 800 ดอลลาร์สหรัฐ 500 ดอลลาร์สหรัฐ และ 400 ดอลลาร์สหรัฐ ตามลำดับ และจะต้องส่งแผนกลยุทธ์การซื้อขายสำหรับใช้ในการประเมิน จากนั้น หนึ่งทีมจากแต่ละประเทศจะได้รับคัดเลือกเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศที่ตลาดหลักทรัพย์มาเลเซีย กรุงกัวลาลัมเปอร์ ในวันที่ 7 ธันวาคม 2558 คณะกรรมการจะพิจารณาคัดเลือกจากกลยุทธ์ที่ใช้และผลการดำเนินงานระหว่างการแข่งขันของแต่ละทีม
ขณะที่ผู้เข้ารอบสุดท้ายทั้ง 5 ทีมจากมาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ไทย และกัมพูชา จะนำเสนอกลยุทธ์การซื้อขายที่ใช้ตลอดระยะเวลาการแข่งขันต่อคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้ชนะเลิศจะได้รับรางวัลเงินสด 12,000 ดอลลาร์สหรัฐ และทริปศึกษาดูงานที่ตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน รางวัลรองชนะเลิศ ได้แก่ รางวัลเงินสดจำนวน 8,000 ดอลลาร์สหรัฐ 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ และ 1,500 ดอลลาร์สหรัฐ ตามลำดับ
ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนออนไลน์ได้ที่ https://stockchallenge.itradecimb.com ระหว่าง 14 – 25 กันยายน 2558 โดยทีมที่ลงทะเบียนระหว่าง 14 – 18 กันยายน 2558 จะได้รับเงินทุนเสมือนจริงเพิ่มอีก 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ไม่มีค่าใช้จ่ายในการสมัคร)ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ CIMB ASEAN Stock Challenge 2015 ได้ที่ https://stockchallenge.itradecimb.com
*อัตรากำไรรับรู้สุทธิ (Net Realised Percentage) คือ อัตราร้อยละของกำไรทั้งหมดที่ทีมได้รับจากธุรกรรมซื้อขายหลักทรัพย์ หลักทรัพย์ที่ไม่มีการรับรู้กำไร/ขาดทุนเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาซื้อขายจะถูกจำหน่ายโดยอัตโนมัติ ตัวอย่าง: ทีมเริ่มต้นการซื้อขายด้วยเงินทุนเสมือนจริง 80,000 ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อสิ้นสุดการแข่งขัน มีเงินทุนเสมือนจริง 200,000 ดอลลาร์สหรัฐ อัตรากำไรรับรู้สุทธิจะเท่ากับ ร้อยละ 150 [(200,000 – 80,000)/80,000]