เปิดแล้วงานใหญ่แห่งปี Food ingredients Asia 2015 เล็งเงินสะพัดกว่า 1,000 ล้านบาท!

10 Sep 2015
ยูบีเอ็มโชว์สุดยอดเทคโนโลยีอาหาร เล็งเงินสะพัดกว่า 1,000 ล้าน
เปิดแล้วงานใหญ่แห่งปี Food ingredients Asia 2015 เล็งเงินสะพัดกว่า 1,000 ล้านบาท!

ยูบีเอ็ม ทุ่มงบ กว่า30ล้าน ขยายพื้นที่ กว่า40% เพื่อจัดงานแสดงสินค้าเทคโนโลยีและนวัตกรรมส่วนผสมอาหารและเครื่องดื่มหรือที่เรียกว่า งาน ฟู้ด อินกรีเดียนส์ เอเชีย 2015 ดึงยักษ์ใหญ่ บริษัทผู้ผลิต และจัดจำหน่ายส่วนผสมอาหารทั้งบริษัทข้ามชาติ และไทย มากกว่า 650 บริษัท จาก 40 ประเทศร่วมนำเสนอนวัตกรรมส่วนผสมอาหาร เชื่อนักลงทุนต่างชาติยังเชื่อมั่น มองไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนด้านการผลิต และส่งออกอาหารแปรรูปในอาเซียน พร้อมคาดเงินสะพัดกว่า 1,000 ล้านบาท แนะประเทศไทยหนุนผู้ประกอบการรายย่อย เพื่อพัฒนาคุณภาพการผลิตอาหาร และสร้างความแตกต่าง พร้อมตอบสนองความต้องการผู้บริโภคในกลุ่มตลาดใหม่ในอาเซียน อีกทั้งต้องพร้อมจับตลาดฮาลาล - สร้างจุดเด่นผลิตภัณฑ์เจาะตลาดเอเชีย

นายมนู เลียวไพโรจน์ ประธาน บริษัท ยูบีเอ็ม เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "ยูบีเอ็มรับความร่วมมือ จากสถาบันอาหารแห่งชาติ กระทรวงอุตสาหกรรม (NFI), กลุ่มผู้ผลิตอาหาร สภาอุตสากรรมแห่งประเทศไทย, สมาคมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทางอาหาร(FoSTAT),และสมาคมแช่เยือกแข็งไทย, สำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) ในการสนับสนุนการจัดงาน ฟู้ด อินกรีเดียนส์ เอเชีย 2015 ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้า เทคโนโลยี และนวัตกรรมส่วนผสมอาหารและเครื่องดื่มที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย บนพื้นที่กว่า15,000ตารางเมตร ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทคเพื่อรองรับผู้ประกอบการจากทั่วโลกที่สนใจมาเปิดตลาดในไทยและเอเชียเนื่องจากมองเห็นโอกาสที่อาเซียนจะเป็นศูนย์กลางผู้ผลิตและส่งออกอาหารของโลก โดยคาดว่างานฟู้ด อินกรีเดียนส์ เอเชีย 2015 นี้ จะสามารถสร้างเงินสะพัดจากการเจรจาธุรกิจได้กว่า 1,000 ล้านบาท"

นายมนู กล่าวต่อว่า "งานฟู้ด อินกรีเดียนส์ เอเชีย 2015 จะมีการนำเสนอสินค้า และ เทคโนโลยีส่วนผสมอาหารที่ตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการที่มองหานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อนำมาพัฒนาจุดเด่นให้กับผลิตภัณฑ์ของตน ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมนี้ เพราะมียอดการลงทะเบียนเข้างานล่วงหน้าเพิ่มขึ้นกว่า 50 % จากการจัดงานครั้งก่อนในปี 2556โดยส่วนใหญ่เป็นผู้เข้าชมในไทยและชาติในกลุ่มอาเซียน อย่าง มาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ สำหรับกลุ่ม CLMV (เขมร ลาว พม่า เวียดนาม) ก็มีการตอบรับเพิ่มขึ้นในจำนวนที่มากกว่า 70% เพราะส่วนใหญ่มองว่าเป็นโอกาสดีในการศึกษาเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ด้านอาหารและเทรนด์อาหารโดยไม่ต้องเดินทางไปยังต่างประเทศเนื่องจากมีผู้ประกอบการชั้นนำจากทั่วโลกมาร่วมงาน อาทิ บริษัท GNT ผู้ผลิตสารสกัดจากธรรมชาติจากประเทศเยอรมันนี, Jebsen&Jessen ยักษ์ใหญ่ด้านธุรกิจเคมีภัณฑ์และสินค้าอุตสาหกรรมของเอเชีย, DSM Food Specialities ผู้ผลิตวัตถุปรุงแต่งอาหารยักษ์ใหญ่ของโลกจากยุโรปและอเมริกา รวมถึงผู้ประกอบการไทยเองที่อย่ในซุ้มพาวิลเลี่ยนประเทศไทย เป็นต้น

นางสาวรุ้งเพชร ชิตานุวัตร์ ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการธุรกิจ บริษัท ยูบีเอ็ม เอเชีย(ประเทศไทย) กล่าวเพิ่มเติมว่า "นอกจากโอกาสในการแลกเปลี่ยนความคิดกับนักธุรกิจในแวดวงอาหาร และเครื่องดื่มแล้ว ผู้ประกอบการสามารถพบนวัตกรรมอาหารที่ภาคเอกชนนั้นได้ทำการพัฒนาเพื่อสร้างความแตกต่างในการนำไปใช้ การวิจัยพัฒนาสินค้าตามความต้องการของผู้บริโภค และตามลักษณะการผลิตเพื่อให้เหมาะสมกับการนำไปพัฒนาสินค้าอาหารแปรรูป ซึ่งจะเน้นเรื่องคุณค่าทางโภชนาการ การนำเสนออาหารให้น่ารับประทาน การใช้ส่วนผสมให้เหมาะกับการเก็บรักษา และการผลิตอาหารที่ปัจจุบันเน้นอาหารประเภทอาหารพร้อมรับประทาน และภายในงานยังมีกิจกรรมอื่นๆ อาทิ การจัดสัมมนาเกี่ยวกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้าน ส่วนผสมอาหาร โดยผู้สนับสนุนทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ การจัดอภิปรายระดับนานาชาติโดยสมาคมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทางอาหารแห่งประเทศไทย หรือ FoSTAT จัดงานสัมมนาในหัวข้อ New Functional Ingredients for Healthy Living, สัมมนาอาหารฮาลาลนานาชาติ สัมมนาการศึกษาการเตรียมความพร้อมเพื่อขยายสินค้าไปตลาดอินโดนีเซียโดยสถาบันอาหารแห่งชาติ กระทรวงอุตสาหกรรม และสัมมนาอื่นๆจากผู้ประกอบการในธุรกิจอาหารครบวงจรมาร่วมเสวนา นอกจากนี้ ในงาน Fi Asia ยังได้สร้างความพิเศษอีกอย่างหนึ่งคือการจัดแสดงผลงานและนวัตกรรมชิ้นเด่นในช่วงปี 2558 จากทั่วโลก ซึ่งเรียกว่า Innovation Zone(โซนแสดงนวัตกรรม)" เพื่อส่งเสริมและกระตุ้นให้เกิดการค้นคว้าวิจัยเพิ่มมากขึ้น พร้อมทั้งยังได้จัดบริการพิเศษ สำหรับผู้เข้าชมงานที่มาเป็นหมู่คณะ โดยจะมีไกด์นำชมงาน พร้อมทั้งอธิบาย แนะนำความน่าสนใจของแต่ละบริษัทและนวัตกรรมที่นำมาเสนออีกด้วย นอกจากนี้ ในการจัดงานปีนี้ ทางผู้จัดงานได้ทำการจัดโปรแกรมจับคู่เจรจาธุรกิจให้กับผู้ประกอบการที่สนใจหาสินค้าเพื่อการผลิตและพัฒนาอาหารแปรรูป และเครื่องดื่มสำเร็จรูปภายในงาน"

งานฟู้ด อินกรีเดียนส์ เอเชีย 2015 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 9 -11 กันยายน 2558 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค ซึ่งตัวเลขการเติบโตของงานในช่วง 4 ปีที่ผ่านมานั้นเพิ่มสูงขึ้นถึง 25 % นับตั้งแต่ปี 2546 ถึงปัจจุบัน และในปีนี้ ผู้ร่วมแสดงสินค้าเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านส่วนผสมอาหารเข้าร่วมแสดงสินค้าแล้วกว่า 650 บริษัท จาก40 ประเทศทั่วโลก ซึ่งเมื่อเทียบกับงานในปี พ.ศ 2556 นั้น พบว่าจำนวนผู้จัดแสดงเพิ่มขึ้นมากถึง 40% และคาดการณ์ว่าในปีนี้จะมีผู้เข้าร่วมชมงานกว่า 15,000 คน ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการในอาเซียนจะเพิ่มขึ้นกว่า30%