กองทุนอ้อยและน้ำตาล เดินหน้ากู้เงิน 1.69 หมื่นล้านบาท ช่วยเหลือชาวไร่อ้อย คาดพร้อมจ่าย 21 ก.ค. นี้

10 Jul 2015
คณะกรรมการกองทุนอ้อยและน้ำตาล เผยที่ประชุม คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้กองทุนฯ กู้เงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จำนวน 1.69 หมื่นล้านบาท (ตามปริมาณอ้อยจริง) เมื่อฤดูการผลิตปี 2557/2558 มีจำนวนทั้งสิ้น 1.05 แสนล้านตัน โดยให้ชาวไร่อ้อยทุกรายมาลงนามเอกสารและตรวจสอบข้อมูลปริมาณอ้อยกับจำนวนเงินให้ถูกต้อง ก่อนเสนอขอรับเงินจากกองทุนฯ ซึ่งจะมีเกษตรกรชาวไร่อ้อยได้รับการช่วยเหลือประมาณ 150,000 คน ตามที่ได้จดทะเบียนไว้ คาดว่าจะสามารถจ่ายเงินเข้าบัญชีเงินฝากของชาวไร่อ้อย ที่ส่งเอกสารครบถ้วนแล้ว ภายในวันที่ 21 กรกฎาคม 2558 เป็นต้นไป สำหรับการชำระหนี้เงินกู้นั้น มีกำหนดชำระเป็นเวลา 18 เดือน นับจากเดือนพฤศจิกายน 2558 และจะแล้วเสร็จในเดือนเมษายน 2560 โดยใช้รายได้จากการขายน้ำตาลทรายภายในประเทศ กิโลกรัมละ 5 บาท มาทยอยชำระหนี้ประมาณเดือนละ 1,000 ล้านบาท พร้อมทั้งจัดตั้งคณะทำงานตรวจสอบกำกับดูแลการจ่ายเงิน สร้างความเชื่อมั่นว่าเงินทุกบาทจะถูกจ่ายด้วยความโปร่งใส กำหนดประชุมนัดแรกในวันที่ 13-14 กรกฎาคม นี้

นายอาทิตย์ วุฒิคะโร อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ในฐานะประธานกรรมการกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้เห็นชอบให้ช่วยเหลือชาวไร่อ้อย ที่ส่งอ้อยในฤดูการผลิตปี 2557/2558 อัตราตันละ 160 บาท และอนุมัติให้กองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย กู้เงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จำนวน 1.69 หมื่นล้านบาท (ตามปริมาณอ้อยจริง) เมื่อฤดูการผลิตปี 2557/2558 มีจำนวนทั้งสิ้น 1.05 แสนล้านตันนั้น ขณะนี้กองทุนฯ ได้ส่งคำขอกู้ไปยัง ธ.ก.ส. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะสามารถจ่ายเงินเข้าบัญชีเงินฝากของชาวไร่อ้อย ที่ส่งเอกสารครบถ้วนแล้ว ภายในวันที่ 21 กรกฎาคม 2558 เป็นต้นไป และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการจ่ายเงินให้กับเกษตรกรโดยเร็ว จึงมอบหมายให้โรงงานน้ำตาลและเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายแต่ละแห่ง จัดทำเอกสารเพื่อขอรับเงินจากกองทุนฯ โดยให้ชาวไร่อ้อยมาลงนามเอกสารและตรวจสอบข้อมูลปริมาณอ้อยกับจำนวนเงิน ให้ถูกต้องก่อนเสนอขอรับเงิน ซึ่งจะมีเกษตรกรชาวไร่อ้อยได้รับการช่วยเหลือประมาณ 150,000 คน ตามที่ได้จดทะเบียนไว้

ทั้งนี้ สำหรับวงเงินที่ใช้ในการช่วยเหลือชาวไร่อ้อยครั้งนี้นั้น ทางกองทุนฯ ได้รับการประสานงานจาก ธ.ก.ส. เสนออัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน การยกเว้นค่าธรรมเนียมการวิเคราะห์เงินกู้ การยกเว้นค่าบริการโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากของเกษตรกร โดยการชำระหนี้เงินกู้ดังกล่าว มีกำหนดชำระเป็นเวลา 18 เดือน นับจากเดือนพฤศจิกายน 2558 และจะแล้วเสร็จในเดือนเมษายน 2560 โดยใช้รายได้จากการขายน้ำตาลทรายภายในประเทศ กิโลกรัมละ 5 บาท มาทยอยจ่ายชำระหนี้ ประมาณเดือนละ 1,000 ล้านบาท

นายอาทิตย์ กล่าวเสริมว่า อย่างไรก็ดี เพื่อให้การดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยโดยเร็ว ขณะนี้กองทุนฯ ได้มีการจัดตั้งคณะทำงานตรวจสอบกำกับการจ่ายเงินช่วยเหลือเพิ่มค่าอ้อยในฤดูการผลิตปี 2557/2558 มาตรวจสอบอีกขั้นหนึ่ง ซึ่งสามารถให้ความเชื่อมั่นได้ว่าเงินทุกบาทจะถูกจ่ายด้วยความโปร่งใส โดยจะมีการประชุมคณะกรรมการในวันที่ 13-14 กรกฎาคมนี้ หลังจากนั้นวันที่ 16 กรกฎาคม จะมีพิธีลงนามในสัญญากู้เงินและสัมมนาในหัวข้อ "การแก้ไขปัญหาอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายในอนาคต" เพื่อหาทางช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยอย่างยั่งยืน