โลโก้ - http://photos.prnewswire.com/prnh/20141221/165715LOGO
"ศูนย์คลินิกของ NIH ได้ดำเนินการศึกษาจนเสร็จสิ้น และพบแนวทางที่สำคัญในการรักษาโรคไวรัสตับอักเสบ ดี ซึ่งมักก่อให้เกิดโรคตับแข็งและภาวะอื่นๆที่เป็นอันตรายถึงชีวิต" นายแพทย์ธีโอ เฮลเลอร์ หัวหน้าคณะวิจัยจากสถาบันโรคเบาหวาน โรคระบบทางเดินอาหาร และโรคไตแห่งชาติ ในสังกัดของ NIH กล่าว "เราภูมิใจอย่างยิ่งที่ผลการวิจัยครั้งนี้ได้เผยแพร่ในวารสาร The Lancet Infectious Diseases"
ผลวิจัยพบว่า ระดับของไวรัส HDV RNA ลดลงอย่างมีนัยสำคัญหลังผู้ป่วยได้รับยา Lonafarnib เป็นเวลา 28 วัน เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ได้รับยาหลอก โดยอัตราการลดลงของไวรัส HDV RNA มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระหว่างกลุ่มที่ได้รับยาขนาด 100 มิลลิกรัม วันละสองครั้ง และขนาด 200 มิลลิกรัม วันละสองครั้ง เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ได้รับยาหลอก (p = 0.03 และ <0.0001 ตามลำดับ) นอกจากนั้นยังพบว่า การปรับตัวลดลงของระดับไวรัส HDV RNA มีความสัมพันธ์กับระดับยา Lonafarnib อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งถือเป็นอีกหลักฐานที่บ่งชี้ถึงประสิทธิภาพของ Lonafarnib ในการรักษาโรคไวรัสตับอักเสบ ดี ชนิดเรื้อรัง ผลการวิจัยยังบ่งชี้ว่าร่างกายของผู้ป่วยยอมรับ Lonafarnib ได้ดี ส่วนอาการข้างเคียงไม่พึงประสงค์ที่พบได้มากที่สุดคืออาการเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร
"นี่เป็นการวิจัยครั้งแรกเพื่อประเมินตัวยา Lonafarnib ในการรักษาผู้ป่วยโรคไวรัสตับอักเสบ ดี และเรายินดีเป็นอย่างยิ่งกับผลลัพธ์ที่ออกมา" เดวิด คอรี ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของไอเกอร์ กล่าว "ไวรัสตับอักเสบ ดี เป็นโรคที่รุนแรงที่สุดในบรรดาโรคไวรัสตับอักเสบในมนุษย์ และจำเป็นต้องมียารักษา"
เกี่ยวกับ Lonafarnib
Lonafarnib เป็นสารที่จัดเรียงอนุภาคในขั้นสุดท้ายเพื่อยับยั้ง farnesyl transferase ซึ่งเป็นเอ็นไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของโปรตีนผ่านทางกระบวนการเพิ่มโมเลกุลไม่ละลายน้ำในโปรตีน (prenylation) HDV จะอาศัยอยู่ในเซลล์โปรตีนนี้ในกระบวนการฟักเป็นตัวเต็มวัยในเซลล์ตับ Lonafarnib ยับยั้งไม่ให้เกิดกระบวนการเพิ่มโมเลกุลไม่ละลายน้ำในโปรตีนในการแบ่งตัวของ HDV ภายในเซลล์ตับและสกัดความสามารถในการแพร่ขยายตัวของไวรัส เนื่องจากการเพิ่มโมเลกุลไม่ละลายน้ำในโปรตีนเกิดขึ้นผ่านโฮสต์เอ็นไซม์ ในทางทฤษฎีแล้ว การรักษาด้วย Lonafarnib จึงเป็นการป้องกันไม่ให้ไวรัสเกิดการกลายพันธุ์และดื้อยา Lonafarnib ผ่านการรับรอง Orphan Drug Designation จากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (US FDA) และหน่วยงานควบคุมยาของสหภาพยุโรป (EMA) รวมถึงการรับรอง Fast Track จาก US FDA อย่างไรก็ดี Lonafarnib ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้รักษา ทั้งนี้ Lonafarnib ได้รับใบอนุญาตจาก Merck Sharpe & Dohme Corp. (หรือที่รู้จักกันในนาม MSD นอกสหรัฐอเมริกาและแคนาดา)
เกี่ยวกับโรคไวรัสตับอักเสบ ดี
โรคไวรัสตับอักเสบ ดี เกิดจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ ดี (HDV) ซึ่งถือเป็นไวรัสตับอักเสบชนิดรุนแรงที่สุดในมนุษย์ ไวรัสตับอักเสบ ดี เกิดขึ้นร่วมกับโรคไวรัสตับอักเสบ บี (HBV) เท่านั้น ส่งผลให้โรคตับมีความรุนแรงมากกว่าการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี เพียงชนิดเดียว และยังนำไปสู่การเกิดโรคตับแข็ง มะเร็งตับ และตับล้มเหลว โรคไวรัสตับอักเสบ ดี ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสุขภาพของผู้คนทั่วโลก โดยมีจำนวนผู้ป่วยทั่วโลกประมาณ 15 ล้านราย ขณะที่อัตราการติดเชื้อ HDV มีความแตกต่างกันในแต่ละภูมิภาคของโลก โดยมีรายงานผู้ติดเชื้อ HDV ทั่วโลกประมาณ 5-6% ของผู้ป่วยโรคไวรัสตับอักเสบ บี ชนิดเรื้อรัง แต่ในบางภูมิภาค เช่น จีน มองโกเลีย รัสเซีย เอเชียกลาง ตุรกี แอฟริกา และอเมริกาใต้ พบอัตราการติดเชื้อ HDV ในสัดส่วนสูงถึง 70% ของกลุ่มผู้ป่วยที่ติดเชิ้อ HBV
เกี่ยวกับ ไอเกอร์
ไอเกอร์เป็นบริษัทเอกชนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพที่มุ่งเน้นในเรื่องการวิจัย การพัฒนา และการทำตลาดนวัตกรรมการรักษาผู้ป่วยโรคไวรัสตับอักเสบ บริษัทให้ความสำคัญกับการพัฒนา Lonafarnib เพื่อทำการรักษาโรคไวรัสตับอักเสบ ดี (HDV) ซึ่งเป็นไวรัสตับอักเสบชนิดที่มีความรุนแรงมากที่สุด รับชมรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับไอเกอร์ รวมถึงงานวิจัยและพัฒนาของบริษัทได้ที่เว็บไซต์ www.eigerbio.com
ข้อมูลติดต่อสำหรับนักลงทุน:
จิม แชฟเฟอร์
ไอเกอร์ ไบโอ อิงค์
โทร: +1-919-345-4256
อีเมล: [email protected]
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit